บท
ตั้งค่า

บทที่ ๕ อ่อยผัว

แกร๊ก ความมืดภายในตัวบ้าน ผสานกับความอยากจะโยนทิ้งตัวลงสู่เตียงเสียเต็มประดา ของคนอ่อนล้ามาทั้งวัน

ฟึบ สวิตซ์ไฟถูกกดจนสร้างความสว่างวาบมาสู่สายตา

พิลาเรศหยีตาปกป้องความแสบจากแสง...ค่อยๆช้อนสายตามองไปยังโถงกว้างใหญ่ส่วนแรกที่มีชุดรับแขกเล็กๆวางอยู่

ถัดไปเป็นครัวขนาดเล็ก...ที่ไม่ค่อยจะได้ถูกใช้งานเท่าไหร่

“เพิ่งจะล้างไป ทำไมมันเกรอะฝุ่นอีกแล้ว” แล้วแก้วใสใบทรงมนสวยก็ถูกนำไปล้างในอ่างแบบพอลวกๆ จากคนที่ไม่ได้มีความพิถีพิถันนัก

“อื้อ ค่อยชื่นใจหน่อย” เอื้อมมือเก็บเหยือกน้ำในตู้เย็นที่ตอนนี้เหลืออยู่เพียงเหยือกเดียว เหยือกเปล่าที่ถูกใช้แล้วต่างนอนแอ้งแม้งอยู่ในตะกร้าเสียจนเต็ม

“หมดอีกแล้วเหรอ เหมือนเพิ่งกรอกไปวันก่อนเอง...เห้อ เอาไว้ก่อนเหอะ” บ้านหลังนี้เป็นเรือนหอหลังน้อยที่สามีผู้รักความสงบเรียบๆ ต้องการมีบ้านเป็นส่วนตัวแยกจากบ้านใหญ่ของพ่อแม่ ซึ่งซื้อถัดออกไปจากหมู่บ้านของพ่อแม่ห่างกันไม่กี่ซอย

เธอไม่ขัดกับความต้องการนี้หรอก...ชอบใจด้วยที่ไม่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับแม่ย่าผู้แสนจะเกลียดเธอนั้น

‘ไม่ต้องมีแม่บ้านหรอก ไหนๆฉันก็จะให้เธอเป็นแม่บ้านอยู่แล้ว หน้าที่เธอคือต้องดูแลความเรียบร้อยในบ้านทั้งหมด’ นี่แหละคือสิ่งที่เธออยากจะขัด!

โชคดีที่นายแพทย์หนุ่ม ไม่ค่อยได้กลับบ้าน...งานของเธอจึงไม่หนักหนาเท่าไหร่นัก บางทีเธอก็แอบคิด...เขาน่าจะสร้างบ้านอยู่ในโรงพยาบาลซะให้รู้แล้วรู้รอดไป

“ฝุ่นเยอะอีกแล้วเหรอ” คนที่ตั้งใจว่าจะกลับบ้านมาอาบน้ำพักผ่อนเต็มที่ อดที่จะเหลือบมองความเรียบร้อยของบ้านไม่ได้

“เอาไว้ก่อนละกัน” ประโยคคุ้นหูนี้...เธอพร่ำกับตัวเองมาตลอดตั้งแต่อยู่ร่วมชายคากับเขามา

‘ทำไมบ้านอยู่ในสภาพนี้?’ อยู่ๆคำถามจากสามีที่มีมาเสมอ ก็แว่วกระซิบเข้ามาในหัว

“โธ่เอ้ย เช็ดโต๊ะครัวหน่อยก็ได้...เผื่อวันนี้ฟลุ๊คกลับมาบ้าน” พิลาเรศบิดขี้เกียจหนึ่งทีก่อนวางกระเป๋าใบเล็กไว้บนเก้าอี้ ก่อนจัดการทำความสะอาดโต๊ะครัว และโต๊ะรับประทานอาหารขนาดเล็กที่ถูกจัดไว้ในครัวเช่นกัน

“เฮามันผู้สาวขาเละ บ่แม่นผู้สาวขาเลีย!” มือถือไมค์ใจคิดว่าอยู่กลางเวที หลังจากจัดการทำหน้าที่แม่บ้านจำเป็นไปเรียบร้อย เธอก็แปลงร่างเป็นนักร้องสาวพราวเสน่ห์...ที่มาในชุดเดรสแวบวับกากเพชรทั้งตัว กระโปรงสั้นจู๋อวดเรียวขาสวยรับกับรองเท้าส้นสูงสีแดง

พิลาเรศชอบเต้น ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก...เธอสร้างวงเล็กๆนี้ขึ้น มาตั้งแต่ยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยรับงานแถวต่างจังหวัด

จนโชคร้าย...แม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกะทันหัน เด็กกำพร้าพ่อมาตั้งแต่ต้นอย่างเธอ จึงเหลือตัวคนเดียวมาตั้งแต่บัดนั้น ความเมตตาของเพื่อนแม่...อย่างนายแพทย์ฤๅฤทธิ์ที่ไม่ได้ลืมสัญญาการหมั้นหมาย

เหมือนชุบชีวิตนางเอกละครน้ำเน่าอย่างเธอ...ให้กลับมาเหมือนเจ้าหญิงผู้น่าสงสารราวกับเทพนิยาย

เธอฝันแบบนั้น

แต่ความจริง...

เหอะ! เธอก็ยังคงเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่น่าสงสารเหมือนเดิมแหละ!

“ทำบ้าอะไร!!” เสียงตะโกนไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ของคนที่เพิ่งกลับเข้ามาถึงบ้าน แล้วรีบฉับมายังห้องโฮมเทียร์เตอร์ที่เขาไม่ค่อยได้เข้ามาเปิดใช้นักทันที

ซึ่งบัดนี้ภรรยาสาวในคราบผู้หญิงหยำฉ่า...ก็กำลังอวดเรือนร่างในชุดยั่วเย้า แถมยังส่ายเร่าเต้นสุดเหวี่ยงจนทรวงอก  คัพD กวัดแกว่งสนุกสนาน

“กลับมาแล้วเหรอคะ!” คนที่ดีใจจนออกนอกหน้า แทบจะกระโดดเข้ามากอดร่างสูงที่ยืนหน้าบึ้งตึงมองเธอเขม็งอยู่

“ปิดเพลง!” คนไม่ยอมเดือดร้อนก็ยิ้มลอยหน้าลอยตา ก่อนก้มลงเชื่องช้า...เพื่อหยิบรีโมทขึ้นมากดปิดตามคำสั่ง

“อ๊ะ...” แต่เหมือนว่าเขาจะไม่อยากเห็นท่าทีเชิงยั่วของเธอเท่าไหร่ จึงมาคว้ารีโมทไปกดปิดเสียเองแบบใจร้อน

“หือ มาเหนื่อยๆ ดื่มน้ำเย็นๆสักหน่อยดีไหมคะ?”น้ำเย็นๆที่ว่าคือน้ำสีอำพันที่เธอชงใส่แก้วเอาไว้ แต่ยังไม่ได้แตะต้องต่างหาก

เธอยื่นไปตรงหน้าเขา...พร้อมเดินเข้ามาคลอเคลียราวกับว่ากำลังเป็นสาวเชียร์เบียร์ หรือเด็กนั่งดริ๊ง

“อุ๊...” เธอสะดุ้งโหยง เมื่อมือแกร่งจับแก้วในมือเธอเอาไว้จนเขม็ง เมื่อเธอกำลังจะถือวิสาสะป้อนจนเกือบชิดริมฝีปาก

“อย่ามาทำทุเรศกับฉัน ฉันไม่ชอบ” เขาเค้นเสียงว่า...พร้อมผลักให้เธอออกห่าง หากแต่คนมือกาวอย่างเธอหรือจะยอมให้เขาผลักไสเธอออกไปแบบนั้นโดยง่าย

“ว้าย...โทษทีค่ะลือ หกเลอะเสื้อหมดแล้ว”

แสร้งรู้สึกผิด ทั้งที่จงใจให้มันเป็นแบบนั้น...จนสันกรามคนรู้ทันกัดกรอด

“มารยา!” เธอคงเป็นผู้หญิงคนเดียวในโลกนี้กระมัง ที่ได้รับเกียรตินี้จากเขา

“เดี๋ยวพิกถอดเสื้อให้นะ แย่จริงๆไม่น่าซุ่มซ่ามเลย” แล้วเรียวนิ้วยาวสวยที่แต่งแต้มด้วยสีเล็บแดงเพลิงนั้น ก็เอื้อมไปหมายจะปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตสีขาวของเขาออก

“ไม่ต้อง!” เขาจับมืออุกอาจนั้นเอาไว้ ก่อนหมายจะผลักเธอให้หลุดอีกหน

“ม๊วฟ!” แล้วเธอก็ทำสิ่งที่เขาไม่ทันได้ระวังนัก คือใช้ลิปสติกสีแดงเข้มประทับลงไปบนแก้มเนียนใสของคนที่ดูแลสภาพผิวของตัวเองอย่างดีแบบเขา

“หึ้ย ทำบ้าอะไรของเธอ!” เมื่อผลักจนเธอเซไปเล็กน้อย ก็รีบขยี้รอยจูบนั้นออกจากแก้มอย่างรังเกียจ

“แหม เมียหอมนิดหอมหน่อย...ทำเป็นรังเกียจไปได้ เป็นเกย์หรือเปล่าเนี่ย?” เธอแกล้งเย้า ด้วยรอยยิ้มที่ไม่รู้สึกโกรธที่เขาด่าทอสักนิด

หึ เธอชินไปเสียแล้วกับกิริยาเหล่านี้ของเขา

ไม่หรอก..คนอย่างพิลาเรศ ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆหรอก เธอจะต้องทำให้เขามาสยบแทบอกเธอให้ได้ เธอสาบาน!

“ไปเปลี่ยนชุด แล้วไปเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้ฉัน” พิลาเรศ  อมยิ้มขำให้กับคำสั่งนั้นจากเขา ไม่ว่าจะโกรธเกลียดแค่ไหน...ผู้ชายแบบเขาก็ยังคงต้องการที่จะให้เธอปรนนิบัติเขาเยี่ยงศรีภรรยาคนหนึ่งอยู่ดี

ยกเว้น...การร่วมหลับนอนแบบที่เธอโคตรจะปรารถนามากกว่าสิ่งอื่นใด

‘ฉันเก็บความบริสุทธิ์บนความแรดร่านเพื่อรอวันนี้ หากแต่ดูเขาสิ...ดูความหมางเมินที่เขาทำกับฉันสิ’ เธอบ่นให้เด็กในวงฟังหลังจากแต่งงานได้ไม่นาน คืนเข้าหอที่ชวนฝัน กลับพังลงเพราะมีเคสผ่าตัดด่วนเข้ามา นับวันได้เลยมั้ง...ที่เธอจะได้ร่วมหลับนอนกับเขาจนถึงเช้าได้

ใช่...แค่ร่วมหลับ แล้วก็นอนใครนอนมัน โดยที่บางทีเขาก็เอาหมาขึ้นไปนอนกั้นขวางเธอ!

‘หรือว่าเจ้ดูไม่น่าเอาหรือเปล่า ผัวเจ้เขาก็เลยไม่สนใจเจ้’ พลุแตกเด็กที่ใจแตกกว่าใครเพื่อนว่าแบบไม่ลืมที่จะอาย ทั้งที่อายุเพิ่งจะพ้นมัธยมปลายมาไม่เท่าไหร่

‘หรือว่า สามีเจ้ จะเป็นเกย์!’ โพนี่ว่าพร้อมอุทานลั่นตามนิสัย

‘แต่หนูว่า...สามีเจ้เขาอาจจะแค่ยังไม่พร้อมหรือเปล่า’ ความเห็นที่พอจะฟังได้ แน่นอนว่าต้องมาจากเด็กที่ได้เรื่องได้ราวที่สุดอย่างเพลินเพลง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel