บทที่ ๑๒ คุณหมอคะ...หนูนอนไม่ค่อยจะหลับ
“คุณพิลาเรศ โอสถเสนาเชิญค่ะ” พยาบาลหน้าห้องเอ่ยเรียกคิวสุดท้าย ด้วยแววตาฉงนเพียงครู่
คนนั่งหลับรอ...ขยับแว่นดำที่สวมทับการปิดของตาอยู่ ขยับตัวขึ้นเล็กน้อย ก่อนยืนขึ้นจนเต็มความสูง
ความดูเหมือนเผ็ดร้อนที่เธอสวมใส่ รับกับริมฝีปากสีแดงเพลิงได้เป็นอย่างดี
“เรียนเชิญทางนี้ค่ะ” พยาบาลผู้ทำตามหน้าที่ เชื้อเชิญด้วยกิริยาสุภาพ
“เป็นยังไงมานะครับ?” คนที่ไม่ทันได้อ่านแฟ้มประวัติที่พยาบาลยื่นให้ กำลังวุ่นอยู่กับการพิมพ์คำสั่งการรักษาให้กับเคสก่อนหน้าในตอนสุดท้ายอยู่
“ฝากด้วยนะครับ” เขาหันไปยื่นใบรับรองแพทย์ที่สั่งพิมพ์ออกมายื่นให้พยาบาลวัยกลางคน หากแต่ภาพของคนไข้คนสุดท้ายของวันทำเอาเขาเบิกตากว้าง
“นอนไม่ค่อยหลับค่ะคุณหมอ” เธอถอดแว่นดำออก พร้อมเผยรอยยิ้มให้เขาจนแป้นแล้น
“เชิญคุณพยาบาลออกไปก่อนครับ” เขาว่าอย่างสุภาพ เธอก้มหัวรับก่อนออกไปตามที่แพทย์ร้องขอ
“มาทำไม!”
“ทีกับพยาบาลพูดจาดี๊ดี ทีกับเมีย...ดุ๊ดุ” เธอหน้างอใส่แบบไม่ชอบใจในกิริยาสองมาตรฐานนี้
“มาทำไม!” เขาย้ำจนสันกรามขบแน่น
“ก็ลือเล่นไม่กลับบ้านมาตั้งหลายวัน โทรไปสอบถามที่ห้องผ่าตัดก็ไม่มีคิวผ่า...พิกก็เลยต้องมาหาด้วยตัวเองสิคะ”
“แล้วทำไมไม่โทรมา”
“ก็ถ้าทำแบบนั้น จะได้เจอลือไหมละคะ” เธอรู้สิว่าคนตั้งใจจะหลบ ก็จะได้ถือโอกาสไหวตัวทันกันพอดี
“ฉันไม่ชอบให้เข้ามาวุ่นวายเรื่องงานแบบนี้”
“วุ่นวายอะไรกัน พิกก็ทำตามกระบวนการทุกอย่าง...ให้นั่งรอก็นั่งรอ แถมไม่ได้ป่าวประกาศบอกใครด้วย ว่าพิกคือเมียของหมอ!” เธอเริ่มจะทำพิษเมื่อเขาแสดงกิริยาที่เธอเองก็ไม่ชอบใจเช่นกัน
“เบาๆ” เขาปราม เมื่อเกรงว่าเสียงจะเล็ดลอดออกไปให้เป็นขี้ปากชาวบ้าน
“หรือว่าต่อไปนี้ พิกควรจะมาแสดงตัวตนบ้าง”
“ไม่ควรอย่างยิ่ง” เขาเค้นเสียงตอบ
“ตกลงตามนี้ค่ะ ต่อไปนี้พิกจะมาหาลือทีนี่! ถ้าลือไม่ยอมกลับบ้าน”
“ขออนุญาตค่ะคุณหมอ” เสียงเคาะประตูดังมาจากข้างนอก พร้อมเปิดเข้ามาทันใด...ทำเอาคนหงุดหงิดต้องรีบปรับ สีหน้า เพราะเขาไม่เคยแสดงออกถึงความโกรธใดๆให้ผู้ร่วมงานอย่างพยาบาลเห็นมาก่อน
“ว่ายังไงครับพี่จุ๋ม” เขาเอ่ยถามอย่างสนิทสนม เมื่อผู้เข้ามาใหม่คือพยาบาลอาวุโสประจำแผนกผู้ป่วยนอกนี้
“พอดีว่า คนไข้ที่เพิ่งกลับไปก่อนหน้า...อยากได้ใบรับรองแพทย์เพื่อลางานน่ะค่ะ”
“ได้ครับเดี๋ยวผมเขียนให้” เขายิ้มตอบก่อนหยิบใบรับรองแพทย์ที่พิมพ์ออกมาให้แล้วมาแบบสุภาพใจดี
“แล้วก็ปวดบ่อยมากเลยนะคะคุณหมอ ไม่รู้ว่า...มีส่วนไหนหักเพิ่มอีกหรือเปล่า?” เธอแสร้งหน้านิ่ว พร้อมหันไปมองคุณพยาบาลแบบขอความช่วยเหลือ
“เป็นเคสเดิมของคุณหมอเหรอคะ ต้องขึ้นเตียงตรวจละเอียดไหมคะคุณหมอ?” ท่าทีเป็นห่วงนั้นของพยาบาล ทำเอา พิลาเรศสมปรารถนา เธอรีบกุมข้อเท้าข้างที่เคยระบมไปก่อนนั้นแสดงความเจ็บปวดทันใด
“ก็ดีค่ะ เจ็บมากเลย...คุณหมอช่วยดูให้ละเอียดหน่อยนะคะ”
“เชิญขึ้นเตียงเลยค่ะเดี๋ยวพยาบาลช่วย คุณหมอเขียนใบรับรองแพทย์ให้เสร็จก่อนก็ได้ค่ะ” พยาบาลผู้เชี่ยวชาญเชื้อเชิญคนแอบอมยิ้มสมใจขึ้นเตียงทันควัน จนฤๅชัชมิอาจพูดอะไรออกไปได้
“ข้อก็ไม่บวมแดงนะคะ ปวดมากี่วันแล้วค่ะเนี่ย?”
“เพิ่งจะปวดเมื่อเช้านี้เองค่ะ แต่ไม่เยอะนะคะ...ปวดนิดหน่อย ปวดพอรำคาญ”
“ไหนบอกว่าปวดจนนอนไม่หลับไง ไหงเพิ่งจะปวดเมื่อเช้า” คำถามจากหมอที่พยาบาลรู้สึกทะแม่งขึ้นมา นายแพทย์ ฤๅชัชไม่เคยถามคำถามทำนองนี้กับคนไข้มาก่อน
“เมื่อเช้าคือเช้ามืดค่ะ ตื่นขึ้นมาปวดจนนอนไม่ได้ นึกว่าจะหายไปเอง...ดันไม่หาย ก็เลยต้องมาโรงพยาบาลนี่แหละค่ะ” คนช่างแถก็ว่าไปเรื่อย จนคนจับข้อเท้าดู...เบ้ปากใส่เพียงนิด
โชคดีที่พยาบาลอาวุโสไม่ได้เห็นกิริยานั้นของเขาเข้า!
“ไหนบอกว่าปวดพอรำคาญ” คนแกล้งขยับข้อเท้าไปมาว่าเข้าให้อีกหน
“เอ๊ะคุณหมอนี่ ไม่เต็มใจตรวจหรือเปล่าคะ”
“ใช่ ไม่เต็มใจ” พยาบาลอาวุโสอ้าปากค้าง เพราะไม่คิดว่าคนอย่างเขาจะทำกิริยาแบบนี้ใส่คนไข้ แต่พอเหลือบไปเห็นชื่อนามสกุลของเจ้าหล่อนเข้า ก็เริ่มถึงบางอ้อ!
“งั้นพี่จุ๋มขอตัวออกไปรอข้างนอกก่อนนะคะ เชิญคุณหมอตรวจคนไข้ตามสบายค่ะ”
“ไม่ต้องหรอกครับพี่จุ๋ม ไม่มีอะไรให้ต้องตรวจแล้ว ลงมา!” เขาตัดสินใจเผยสถานะเธอทางอ้อม เพื่อป้องกันปัญหาที่เธอจะมาก่อในภายหลัง
เขาเป็นคนบอก...น่าจะดีกว่าเธอเป็นคนมาประกาศ!
“ทำไมต้องดุด้วย” เธอบ่นอุบ ก่อนเอี้ยวตัวลุกนั่งเชื่องช้า
ขณะขยับตัวลงจากเตียงตรวจที่ค่อนข้างสูง ก็จงใจเซถาลงมาใส่ร่างสูงที่ใส่เสื้อกราวน์สีขาวยืนอยู่
ช็อค! เธอพลาดเป้าจากเขา...เพราะเขาจงใจขยับหนี จนต้องกองลงไปกับพื้นแบบสุดที่จะเลี่ยง
“เป็นอะไรมากไหมคะคุณ?” พยาบาลที่ชื่อพี่จุ๋ม รีบเข้าพยุงด้วยความเป็นห่วง
“ปล่อยเขาเถอะครับพี่จุ๋ม ให้เจ็บจริงๆดูซะบ้าง จะได้ไม่เสแสร้งอีก”
“เชอะ!” เธอสะบัดก้นลุกขึ้นยืนแบบโมโห ที่เขาไม่แสดงความเป็นสามีที่ดีต่อหน้าคนอื่นให้ไว้หน้าเธอเสียหน่อย
“ผู้หญิงคนนี้คือภรรยาของผม ต่อไปถ้าเธอจะนัดพบผมอีก ผมไม่อนุญาตนะครับ” เขาบอกกล่าวพยาบาลอาวุโสแบบนั้น จนเธอทำหน้าลำบากใจ
“จะดีหรือคะหมอลือ?”
“ถ้าเธอมาเหยียบหน้าห้องตรวจอีก ให้รีบแจ้งผมก่อนจะพาเข้ามา” เขาออกคำสั่งที่ไม่เคยสั่ง จนพี่จุ๋มจำต้องยอมพยักหน้า เขาตัดสินใจบอกคนอาวุโสที่สุดแล้ว...หวังว่าทุกคนในแผนกจะได้ทราบกันถ้วนหน้า
“ไม่เป็นไรค่ะพี่จุ๋ม เดี๋ยววันหลังพิกเอาขนมมาฝาก...มาแค่หน้าห้องก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ต้องมาเจอหมอใจร้ายกลั่นแกล้ง” เธอสะบัดหน้าใส่เขาแบบโกรธเคือง ก่อนบรรจงเท้าเรียวลงบนส้นแหลมสูงอย่างเชี่ยวชาญ
“ระวังไอ้ส้นเนี่ย จะทำเอาข้อเท้าเจ็บเข้าให้จริงๆ” ความห่วงฉบับเขา ทำเอาพยาบาลอาวุโสอมยิ้มเข้าให้
“เจ็บก็ดี หมอจะได้เต็มใจดูแลรักษา”
“ชอบเป็นนักเหรอ ภาระคนอื่น”
“คนอื่นที่ไหน ผัวตบผัวแต่งแท้ๆ” เธอสรรหาคำมาเถียงให้เขาเจ็บใจเข้าให้บ้าง การล้มลงเมื่อกี้ทำเอาเอวเธอระบมอยู่ไม่น้อย
“เถียงคำไม่ตกฟาก”
“ไม่ตกฟาก แต่ก็เกือบตกเตียงมาแล้ว”
“พี่จุ๋มขอตัวก่อนนะคะคุณหมอ คนไข้รอใบรับรองแพทย์อยู่” คนนึกได้รีบขอตัว
“อ๋อ นี่ครับ...ขอบคุณมากครับพี่” เขายิ้มให้คนกุลีกุจอออกไป ก่อนหุบยิ้มอีกหนเมื่อสบตาเข้ากับคนตาเขียวปัดเชิงสู้
“กลับบ้านได้แล้ว”
“ก็รอผัวพากลับอยู่นี่ไง”
“หยาบคาย”
“ถ้าไม่ยอมกลับไปด้วยกัน จะไปตะโกนเรียกหาผัวอยู่หน้าโรงพยาบาลเลยคอยดูสิ!”
ถึงรู้ว่าเธอจะแค่ขู่ แต่คนที่ตั้งใจกับบ้านวันนี้อยู่แล้วแบบเขา...จำต้องยอมให้เธอนั่งร่วมรถกลับไปด้วย
เห็นที่เขาต้องเตรียมรับมือฉบับบุกรุกมาถึงที่ทำงานของเธอนี้ ให้ดีและรัดกุมเอาไว้เสียแล้ว
