บท
ตั้งค่า

บทที่ 17

นัทชาไม่สนใจการสนทนาหลังจากนั้น แต่รีบลัดเลาะไปทางประตูหลัง เปิดมันออกอย่างระวัง ยัดกระเป๋าเข้าไปวางบนเบาะ ก่อนจะพาตัวเองคลานขึ้นไปนั่งขดตัวอยู่ตรงที่พักเท้า ดึงกระเป๋าสัมภาระของเขามาบังช่วงศีรษะเอาไว้ แม้จะอึดอัดแทบแย่ แต่เธอเลือกแล้วว่าจะหนีตามผู้ชายคนนี้ให้ได้!

“อย่ารีบเดินสิครับลุง เดี๋ยวก็ล้มกันก่อนพอดี”

เขาเตือนด้วยความหวังดี

“ลุงอยากตอบแทนน้ำใจ แต่คนแก่จนๆ อย่างลุงคงไม่มีอะไรให้ นอกจากพระเครื่ององค์นี้” ชายชรายื่นพระเครื่องที่สวมติดตัวให้กับชายหนุ่ม ทีแรกลุยซ์ก็เกรงใจและไม่อยากรับมันเอาไว้นัก แต่พอเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาดี เขาจึงรับไว้แล้วยกมือไหว้ขอบคุณ

“ขอบคุณนะครับลุง”

“เดินทางปลอดภัยนะพ่อหนุ่ม ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครอง” ลุงอวยพรด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินแยกกลับไปยังม้านั่งตัวเดิมเพื่อรับประทานอาหารที่ลุยซ์ซื้อให้ต่อจนอิ่ม

ชายหนุ่มกระตุกยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่น้อยมากจนแทบมองไม่เห็นมุมปากที่ยกขึ้น อย่างน้อยในช่วงเวลาที่แย่ที่สุด มันก็ยังมีเรื่องดีๆ แวะเวียนผ่านมาให้ได้อุ่นใจบ้าง

ลุยซ์แทรกตัวเข้าไปในรถ เก็บพระเครื่องที่ดูเก่าแก่นั้นไว้ในลิ้นชัก ก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์ แล้วขับแล่นฉิวออกไปจากสนามบิน มุ่งหน้ากลับไปยังฟาร์มวราทิตย์ในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งใช้เวลาราวๆ สองชั่วโมง โดยไม่รู้เลยว่ามีผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่ง กำลังซ่อนตัวอยู่ภายในรถคันเดียวกัน

นัทชานั่งขดตัวอยู่อย่างนั้นจนเผลอหลับไป รู้สึกตัวอีกทีก็ในตอนที่รถยนต์คันหรูเหยียบเบรกจอดรถ เสียงเครื่องยนต์ดับลง ตามมาด้วยเสียงเปิดประตูและปิดลงแรงๆ เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาผ่านทางกระจกรถ

ชายหนุ่มเดินอ้อมมายังประตูที่เธอนั่งขดตัวอยู่ ยืนบิดขี้เกียจคลายความเมื่อยขบอยู่ชั่วครู่ ใช้มือตบต้นคอเบาๆ ก่อนจะดึงประตูรถให้เปิดออกและโน้มตัวเข้ามาหวังจะคว้ากระเป๋าสัมภาระ

ลุยซ์ชะงัก เมื่อเห็นดวงตากลมโตใสแป๋ว จ้องมองมาในระยะที่ใบหน้าห่างกันเพียงเล็กน้อย ความตกตะลึงในชั่วขณะ แปรเปลี่ยนเป็นความตกใจสุดขีด ชายหนุ่มอุทานลั่นพร้อมกับผงะถอยออกจากรถอย่างรวดเร็ว ทำให้ศีรษะกระแทกเข้าที่ขอบประตูด้านบนจนปวดมึนไปหมด

“เฮ้ย! นี่เธอ...เธอแอบขึ้นมาบนรถฉันตอนไหนเนี่ย!”

ลุยซ์ทำหน้าเหมือนถูกผีหลอก ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้น เขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าจะเจอผู้หญิงแปลกหน้านั่งขดตัวอยู่ตรงที่วางเท้าของเบาะหลัง เขาแค่ตั้งใจจะหยิบกระเป๋าสัมภาระเพื่อขึ้นไปพักผ่อนเท่านั้น

“อ้าว พูดไทยได้ด้วยเหรอคะ อุตส่าห์นั่งเรียบเรียงประโยคภาษาอังกฤษมาตลอดทางเลย”

เธอจ้องมองมาอย่างตกตะลึง ยิ้มร่าด้วยความโล่งใจหลังจากพบว่าอีกฝ่ายพูดภาษาไทยได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ แต่ก็ต้องรีบหุบยิ้มฉับ เมื่อเห็นดวงตาสีเทาสวยจ้องมองมาอย่างฉุนเฉียว

“อย่าเพิ่งโมโหสิคะลุง ไหนๆ หนูก็หนีตามลุงมาแล้ว ช่วยรับผิดชอบชีวิตลูกแมวตาดำๆ หน่อยเถอะนะคะ”

“บ้าไปกันใหญ่แล้ว ฉันไม่อยากติดคุกติดตารางเพราะคดีพรากผู้เยาว์หรอกนะ เธอลงมาจากรถแล้วรีบไปให้พ้นจากที่นี่...เดี๋ยวนี้เลย!”

ลุยซ์เสียหัวอย่างหนัก เขาตวาดไล่อย่างไม่คิดจะไยดี ยังคงตกใจไม่หายที่จู่ๆ ก็พบเจ้าหล่อนอยู่ในรถของตัวเอง นี่ถ้าเป็นพวกผู้ร้ายฆ่าชิงทรัพย์แฝงตัวขึ้นมา เขาคงถูกปาดคอตายแบบไม่ทันตั้งตัวไปนานแล้ว

“รับรองว่าไม่ติดคุกแน่ หนูอายุยี่สิบสองปีบริบูรณ์แล้วค่ะลุง”

“ฉันอายุสามสิบห้า ไม่ใช่ห้าสิบ! เพราะฉะนั้นเลิกเรียกฉันว่าลุงเสียที! ที่สำคัญ...ฉันแน่ใจว่าฉันไม่ใช่พี่ชายของพ่อเธอแน่!” ชายหนุ่มตะคอกลั่น กระขบกรามแน่นด้วยความกรุ่นโกรธ อาจหาญแอบหนีขึ้นรถคนอื่นมาอย่างหน้าด้านๆ แล้วยังกล้าดีมาเรียกเขาว่าลุงอีก

“แล้วถ้าเรียกว่าพี่ จะยอมให้หนีตามไหมล่ะตัวเอง” นัทชากะพริบตาปริบๆ พยายามทำใจดีสู้เสือ แม้จะกลัวจนตัวสั่นไปหมดแล้วก็ตาม

คำพูดจาออดอ้อนของเธอทำเอาคนที่ยืนตระหง่านค้ำอยู่ตรงประตูรถถึงกับพูดไม่ออก เพราะไม่เคยพบเจอผู้หญิงอย่างนี้มาก่อนในชีวิต ลุยซ์ขบกรามแน่นก่อนจะปิดประตูลง เด็กนี่หน้าด้านหน้าทนยิ่งกว่าหนังควาย

แล้วเขาจะจัดการอย่างไรกับเจ้าหล่อนดี!

“เสียงเอะอะอะไรกันคะคุณลุยซ์”

แพรสุดาเดินออกมาจากเรือนรับรอง ประคองนมถวิลลงมาด้วย

“นั่นสิคะ นมได้ยินเสียงดังไปถึงข้างบนจนสะดุ้งตื่น”

หญิงชราเองก็อยากรู้เช่นกัน

“ผมขอโทษที่ทำให้นมตื่นมาตอนตีสามแบบนี้นะครับ พอดีเกิดเรื่องบ้าๆ ขึ้น ผมเลยสติแตกนิดหน่อย” ชายหนุ่มพยายามควบคุมน้ำเสียงที่พูดกับนมถวิลให้ฟังดูนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตอนนี้ เขาสูดลมหายใจลึก มองที่ประตูรถอย่างชั่งใจแล้วกระชากมันให้เปิดออก

“ลงมา!” เป็นอีกครั้งที่เขาตะคอกเธอเสียงดังลั่น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel