บท
ตั้งค่า

8.บทสนทนาของความร้าวฉาน ep4

หนึ่งเดือนผ่านไปเพชรไพลินรู้สึกกลัดกลุ้มมากขึ้นเมื่อไม่สามารถจะหางานทำได้อย่างที่ใจคิด แถมบริษัทที่ทิ้งใบสมัครงานไว้ก็ไม่ติดต่อกลับมาสักที เงินที่มีก็ต้องนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน หากเป็นอย่างนี้ต่อไปต้องแย่แน่ ๆ ลำพังเงินเดือนของดนัยก็ไม่มากเท่าไหร่ เพราะโภคาธรให้เขาเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ

“ไอ้คนเลว..ฉันเกลียดแก..”

เธอกำมือแน่นเมื่อนึกถึงเขาขึ้นมา มันอดจะทำให้เธอนึกถึงผลพวงจากการกระทำของเขาที่หมิ่นแคลนเธอด้วยการจาบจ้วงล่วงเกินครั้งนั้นเสียไม่ได้

“คนฉวยโอกาส สกปรก..”

เธอเดินวนไปวนมาด้วยความหงุดหงิด

“เอ๊ะ!คุณแม่จะไปไหนนะ.. หรือว่า..”

สายตางามมองผ่านไปเห็นร่างของโชษิตากำลังขึ้นรถ ทำให้เธอรีบตามไปห่าง ๆ แล้วก็ได้เห็นว่าแม่ของเธอมาที่ทำงานของโภคาธรพร้อมกับตะกร้าอาหาร

“น้าเอาอาหารมาให้คุณค่ะ..รับไว้เถอะนะคะ..ที่นี่อยู่คนเดียวก็ลำบากมากพอแล้ว ยิ่งไม่มีคนดูแลเรื่องอาหารก็ยิ่งไปกันใหญ่ ..”

โภคาธรรับตะกร้าอาหารที่ส่งกลิ่นหอมมาจากมือเรียวบางของหล่อน

“ขอบคุณนะครับ..”

โชษิตายิ้มเย็นเมื่อจ้องมองใบหน้าของเขานิ่งอย่างพิจารณา เขาถอดแบบมาจากนายคณินราวกับพิมพ์ รูปหน้าสี่เสี่ยมได้รูปหล่อเหลาหมดจด เครื่องหน้าที่คมคาย ตารีใหญ่ที่คมชัดขนานกับคิ้วที่ดกดำเหยียดตรงอย่างคนที่มีลักษณะดี ปลายจมูกโด่งเป็นสันอย่างสวยงามรับกับริมฝีปากหยักได้รูปสวยอมชมพูระเรื่ออย่างคนมีสุขภาพดี

รูปร่างกำยำสูงใหญ่ดูสง่างาม ไม่อ้วน ไม่ผอมดูสมสัดส่วน เนื้อตัวผิวพรรณสะอาดสะอ้าน อีกทั้งเสื้อผ้าที่สวมใส่ยังเรียบร้อยสะอาดตา

หล่อนอยากให้เขาเป็นลูกชายของหล่อนจริง ๆ แล้วก็เฝ้าภาวนาว่าขอให้ใช่ อย่างน้อย ก่อนที่หล่อนจะตายก็ยังได้พบหน้าลูกชายคนเดียวของหล่อน แล้วหากว่าเป็นเขาจริง หล่อนก็อยากจะดูแลเขาให้ดีที่สุด แม้จะทำได้เพียงแค่อาหารในแต่ละมื้อก็ตาม

“คุณพ่อสบายดีไหมคะ..”

เขามองหน้าหล่อนนิ่ง

“คุณรู้จักคุณพ่อของผมหรือครับ..”

คำถามของเขาทำให้หล่อนหลุบเปลือกตาลงต่ำ แล้วลอบกลืนน้ำลายลงคอ

“ท่านสบายดีครับ..”

“แล้วท่านมีคุณคนเดียวหรือว่า..”

คำถามของหล่อนต้องหยุดลงเมื่อมีรถแล่นมาจอด พาทิศ พิมพ์วิภาและชลลิณีก้าวตรงมาหาเขา

“พี่คะ..”

พิมพ์วิภาร้องเรียกพร้อมกับเดินเข้าไปหาในขณะที่ชลลิณีรีบโผเข้าไปสอดแขนกอดเขาไว้อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ

“คุณป้าให้ชลมาดูแลพี่ค่ะ..”

“ครับ คุณแม่ให้ผมเจียดเวลามาช่วยพี่ด้วย..แล้วนี่..”

พาทิศชำเลืองสายตามองมาหาโชษิตา

“นี่คุณ เอ่อ..”

เขาพยายามจะแนะนำแต่นึกชื่อของหล่อนไม่ออก

“โชษิตาค่ะ..เป็นแม่ของดนัยกับเพชรไพลิน..”

หล่อนแนะนำตัว

“คุณโชษิตา เป็นเจ้าของเดิมของที่ดินผืนนี้ แล้วนี่น้องชายน้องสาวของผมครับแล้วนี่ก็..”

“ว่าที่ภรรยาของพี่โภคาธรค่ะ..”

ชลลิณีรีบเอ่ยแทรกแนะนำตัวตามคำพูดของกัญญาภัคที่บอกว่าหล่อนเท่านั้นที่จะได้เป็นสะใภ้คนโต

ทั้งพิมพ์วิภาและพาทิศต่างยกมือไหว้โชษิตาแต่ชลลิณียังทำเชิดใส่

“แม่คะ...”

เพชรไพลินตามมาทันแล้วเข้ามาหาแม่ของเธอท่ามกลางสายตาของทุกคน โดยเฉพาะพาทิศ ทันทีที่เขาได้เห็นเธอ มันเหมือนกับมีพลังอะไรบางอย่างที่ทำให้หัวใจของเขามันลุกโชติช่วงขึ้นมา

เขาบอกตัวเองว่า ผู้หญิงคนนี้แหละ..ใช่ สำหรับเขา รูปหน้าเรียวสะอาดเป็นรูปไข่ เครื่องหน้าคมคายหมดจดงดงามไม่มีที่ติ ดูหวานละไม แต่ตัดกับดวงตาที่กลมโตสดใสแสดงออกถึงความชาญฉลาด เรียวปากอิ่มอมชมพูอย่างเป็นธรรมชาติเป็นรูปกระจับ เรือนร่างบางอรชรดูอ้อนแอ้นน่าทะนุถนอม ผิวพรรณขาวอมชมพูดูสะอาดเอี่ยม

จากสายตาของพาทิศที่โลมเลียเธอทำให้โภคาธรรู้สึกขุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก

“ขอบคุณนะครับสำหรับอาหาร..”

เขาชิงตัดบทก่อนจะหมุนร่างเดินขึ้นมาด้านบนที่ทำงาน หมายจะให้น้องตามมาด้วย แต่ดูเหมือนคนที่ตามเขามาจะมีเพียงชลลิณีเท่านั้น

“กลับบ้านเถอะค่ะแม่..”

เพชรไพลินสอดมือมาคล้องแขนแม่ท่ามกลางสายตาของพาทิศและพิมพ์วิภา

“กลับก่อนนะคะ..”

เธอบอกกับพาทิศและพิมพ์วิภาเมื่อกอดกึ่งประคองแม่ให้ก้าวตาม แต่ดูเหมือนโชษิตายังหันกลับไปมองทางที่โภคาธรจากไปอยู่เงียบ ๆ

“แม่ครับ..”

ยังไม่ทันที่สองแม่ลูกจะก้าวเดิน ดนัยก็วิ่งเข้ามา

“แม่มาทำอะไรครับ..หรือลินพาแม่มาทำอะไร พี่บอกแล้วว่าอย่ามาไงจ๊ะ..”

“ก็คุณแม่สิคะพี่ดนัยเอาอาหารมาให้นายหน้าดุนั่นอีกแล้ว..”

ดนัยหันไปมองทางที่น้องพยักหน้าบอกจนได้มองเห็นพิมพ์วิภาที่มองเห็นเขาตั้งแต่เขาก้าวเข้ามา มันมีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้หล่อนอยากจะจ้องมองเขาให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้

สายตาของพิมพ์วิภาที่จ้องมองทำให้ดนัยชะงักงันไปชั่วขณะ แต่ก็รีบหันมาหาแม่กับน้อง

“รีบกลับเถอะครับแม่..”

ดนัยพาแม่กับน้องมาส่งที่รถแล้วกลับไปทำงานต่อ ในขณะที่ทั้งพาทิศและพิมพ์วิภาต่างก็จ้องมองมายังพวกเขาด้วยความสนใจแต่คนละแง่มุม

“ทำไมคุณแม่ต้องเอาอาหารมาให้เขาด้วย แค่นี้พวกเราก็ลำบากมากแล้วนะคะ เพราะคนพวกนี้พวกเราถึงมีสภาพแบบนี้ ยังจะเอื้อเฟื้อเขาอีกทำไมกันคะ..”

เธอต่อว่าแม่ทันทีเมื่อมาถึงบ้านแต่โชษิตากลับก้มหน้านิ่ง

“ผมมีเรื่องจะคุยด้วย..”

นายอรรถพงษ์ยืนมองอยู่ชั่วครู่จึงเดินเข้ามารวบมือบางของหล่อนให้เดินตามเขาไปยังห้องนั่งเล่น

“ฉันพบเขาแล้วค่ะ..”

“ใครครับ..”

“ลูกชายคนเดียวของฉัน..โภคาธร เขามาอยู่ที่นี่แล้ว..”

อรรถพงษ์ส่ายหน้าไปมา

“ไม่ใช่เขาหรอก..”

“คุณว่าอะไรนะ!!ไม่ใช่เขาหรือคะ ไม่ใช่จริงหรือคะ..”

หล่อนถามเขาด้วยนัยน์ตาที่เอิบอาบไปด้วยหยาดน้ำตาที่อรรถพงษ์เห็นแล้วต้องปวดใจนักหนา

“ลูกชายของคุณถูกส่งไปเรียนต่อที่เมืองนอก จนป่านนี้ยังไม่กลับมาเลย..”

“ไม่จริง ไม่ใช่ ความรู้สึกของความเป็นแม่มันบอกฉันว่าเป็นเขา เขาคนนี้แหละคือลูกชายของฉัน เขาเหมือนฉัน และก็เหมือนพ่อของเขา เขาถอดแบบมาจากพ่อของเขา แต่ดวงตาของเขา เหมือนฉัน ต้องเป็นเขาแน่..”

“ไม่ใช่หรอก ผมสืบมาแล้ว บรรดิษฐ์บอกผมว่า คณินส่งลูกชายคนโตไปเรียนต่อเมืองนอกแล้วยังไม่ได้กลับมา..”

“อาจจะเป็นข่าวที่ผิดพลาด หัวใจของฉันมันบอกว่าใช่เขาแน่ ๆ..”

เพชรไพลินยกน้ำดื่มเข้าไปเห็นแม่กำลังสะอื้นไห้ก็รีบเข้าไปกอดเพื่อปลอบโยน

“แม่คงเหนื่อยนะลูก พาแม่ขึ้นไปพักเถอะนะ..”

นายอรรถพงษ์บอกเธอ แล้วเลี่ยงออกไปจากที่นั่นซะเพื่อไม่ให้เธอถามคำถามอะไรที่เขาลำบากใจที่จะตอบ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel