9.บทสนทนาของความร้าวฉาน ep5
“นี่มันอะไรกันครับพี่..”
เมื่อโภคาธรกลับมาบ้านในเย็นวันหนึ่ง พาทิศก็โยนเอกสารให้เขาดูด้วยความไม่พอใจ
“พี่อย่าบอกนะว่าไม่รู้เรื่อง..”
พาทิศมองหน้าเขานิ่งในขณะที่เขาหยิบเอกสารมาเปิดดู
“เอกสารเหล่านี้ ถูกส่งไปที่โรงพยาบาล หรือแม้แต่ห้างร้านบริษัท โรงแรม นางสาวเพชรไพลิน อัศวภักดี เธอเป็นลูกสาวของคุณโชษิตา เจ้าของเดิมที่ดินผืนนั้นไม่ใช่หรือครับ แล้วเธอเสียหายอะไรนักหนา ถึงต้องถูกโจมตีให้เสียหายขนาดนี้..”
“มันยังน้อยไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่พวกนั้นได้รับ หากเทียบกับความเจ็บปวดของคุณพ่อ..”
“การที่ทำลายชื่อเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งให้ไม่สามารถมองหน้าใครได้ เมื่อปรากฏตัวไปทางไหนจะถูกมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าว่าเป็นคนไม่ดี มีประวัติโชกโชกในการฉ้อฉลและไม่ซื่อสัตย์แบบนี้หรือครับเป็นการช่วยปลดเปลื้องความเจ็บปวดให้คุณพ่อ..”
พาทิศโวยวายอย่างหัวเสีย
“แล้วพวกเขามาทำอะไรให้คุณพ่อต้องเจ็บปวดนักหนา ผมไม่เคยรู้จักพวกเขาด้วยซ้ำ ตั้งแต่จำความได้..”
โภคาธรขบกรามแน่นเมื่อมองหน้าน้องชาย
“ทำไมนายต้องเป็นเดือดเป็นแค้นนักหนากับความเสียหายของผู้หญิงคนนี้..”
คำถามนี้ทำให้พาทิศต้องนิ่งงัน
“อะไรกัน เสียงดังไปถึงข้างนอก..”
กัญญาภัคเดินเข้ามาพร้อมกับตวัดสายตามองหน้าโภคาธรอย่างไม่พอใจ
“โมโหอะไรมาหรือโภคาธร ในเมื่อเธอเหนื่อยกับงานแม่ก็ให้น้องไปช่วยแล้วไง หากมันเหนื่อยนักก็ไม่ต้องไปทำนอนอยู่บ้านนี่ จะได้ไม่ต้องอารมณ์เสียใส่น้องแบบนี้..”
โภคาธรลอบผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ ทำให้พาทิศสงบลงเช่นกัน เพราะรู้ดีว่าหากเขามีเรื่องกับโภคาธร คนที่เดือดร้อนจะต้องเป็นโภคาธรเขาจึงไม่อยากให้พี่ชายของเขาต้องถูกตำหนิจากแม่อีก
“ไม่มีอะไรหรอกครับแม่..”
“จะไม่มีอะไรได้ยังไง ในเมื่อแม่ได้ยินเสียงโภคาธรดังไปถึงข้างนอก เอ็ดน้องเรื่องอะไรกัน หรือทรัพย์สมบัติที่คุณพ่อให้เธอมันยังน้อยไป ที่ดินกว่าสามร้อยไร่ แล้วยังซื้อเพิ่มอีกเป็นร้อย มันยังน้อยไปใช่ไหม หรือต้องให้คุณพ่อโอนเงินให้เธอคนเดียว ไม่ต้องเหลือไว้ให้น้องใช่ไหมเธอถึงจะพอใจ..”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับแม่..ผมไม่เคยอยากได้เงินแล้วที่ดินที่ผมเข้าไปดูแลก็มาจากคำสั่งของคุณพ่อ ท่านไม่ได้ยกให้ผมหรอกครับ..”
“ไม่รู้ล่ะ ตลอดเวลาทั้งคุณพ่อทั้งคุณย่าต่างก็รักแล้วตามใจเธอ แม้แต่ไม่อยากเรียนหมอ ทุกคนก็ยังตามใจ เธออยากเรียนอะไรก็ได้เรียน ในขณะที่พาทิศไม่อยากเรียนหมอ แต่ก็ต้องเรียน มันน่าจะพอแล้วสำหรับความรักความเอาใจใส่ที่พ่อกับคุณย่ามอบให้..”
“พอเถอะครับแม่..เราก็ทะเลาะกันบ้างตามประสาพี่น้อง..”
“อย่าให้แม่ได้ยินว่าเธออารมณ์เสียใส่น้องอีกนะโภคาธร..”
“ครับ..”
เขาตอบรับแล้วก็หมุนร่างจากไปท่ามกลางสายตาของพาทิศที่รู้สึกผิดมากที่ทำให้พี่ชายถูกเอ็ดในขณะที่กัญญาภัคมองตามไปด้วยความชิงชัง หล่อนอยากจะให้เขาตายไปจากโลกนี้ซะให้รู้แล้วรู้รอด
“ได้ข่าวว่าลูกสาวของมันสวยมากใช่ไหม..ที่ทะเลาะกัน เพราะลูกสาวคนสวยของมันใช่ไหมบอกแม่มาตามตรงนะพาทิศ..”
พาทิศก้มหน้านิ่ง
“ลูกสาวของนายอรรถพงษ์กับโชษิตา ชายโฉดหญิงชั่วที่ทรยศหักหลังคุณพ่อ ทำให้คุณพ่อต้องเจ็บปวดทนทุกข์ทรมาน ทำไมพวกเธอยังอยากจะแย่งเอามา ในเมื่อมันเป็นชิ้นเนื้อร้ายที่ต้องถูกตัดทิ้ง มันเป็นเพียงเศษสิ่งปฏิกูลที่ไร้ค่า ทำไมต้องมาทะเลาะกันเพื่อแย่งมันเพราะความสวย..”
“ไม่ใช่หรอกครับ..”
“อย่าโกหก แล้วแม่ก็รู้มาว่า การที่คุณพ่อจงใจซื้อที่ดินผืนนั้น เพราะยังมีเยื่อใยกับโชษิตาอยู่ ผู้หญิงสารเลวคนนั้นคบชู้สู่ชายปันใจไปให้ชายอื่น ในเมื่อเชื้อสายของแม่มันยังไม่ซื่อแล้วลูกสาวของมันจะไม่รับเชื้อสายเลว ๆ มาบ้างหรือ..”
พาทิศก้มหน้านิ่ง
“อย่ายุ่งกับผู้หญิงคนนั้น..”
กัญญาภัคพูดจบก็เดินจากไป ทำให้พาทิศต้องระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะรีบตามโภคาธรไปที่ห้อง
“พี่ครับ..”
โภคาธรหันมาหาน้องพร้อมกับยิ้มบาง ๆ
“ขอโทษนะครับที่ผมเป็นต้นเหตุให้พี่ถูกคุณแม่ดุ..”
“ช่างเถอะ ไม่เกี่ยวกับนายหรอก ถึงไม่มีนาย พี่ก็เหมือนเป็นแกะดำสำหรับคุณแม่อยู่แล้ว..”
“พี่ครับ..”
“บางครั้งพี่คิดว่า คุณแม่ไม่เคยรักพี่เลย ทุกครั้งที่ถูกคุณแม่เอ็ดหรือถูกตี ไม้เรียวที่สัมผัสกับร่างกายของพี่ มันไม่ได้แสดงออกมาถึงความรักของคุณแม่เลย ไม้เรียวที่ตีถูกเนื้อของพี่ มันแสบร้อนราวกับว่า หากทุกสัมผัสที่คุณแม่ตี สามารถกระชากชีวิตของพี่ได้ มันจะทำให้คุณแม่มีความสุข..”
เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก
“ช่างเถอะ มันผ่านมาแล้ว ถึงอย่างไรพี่ก็เป็นลูกชายคนโตของท่าน..”
“ถ้าอย่างนั้นพี่บอกเหตุผลได้ไหมทำไมถึงส่งเอกสารเหล่านี้ออกไป..”
“สำหรับเรื่องนี้มันเป็นงานที่พี่รับมาจากคุณพ่อ พี่จะทำทุกอย่างให้คุณพ่อสบายใจ นายอย่ายุ่งเรื่องนี้จะดีกว่า หน้าที่ของนายคือทำงานให้ดี เป็นหมอที่ดี ดูแลโรงพยาบาลให้ดีเท่านั้นพอ ส่วนที่ไร่เป็นเรื่องของพี่ หากนายอยากไปก็ไปได้พี่ไม่ว่า..”
โภคาธรพูดจบก็ก้าวออกจากบ้านทั้งที่เขาตั้งใจจะนอนพักที่บ้านสักสองวัน
