6.บทสนทนาของความร้าวฉาน ep2
แต่เมื่อเพชรไพลินกลับไปถึงบ้านก็ต้องตะลึงงันเมื่อมองเห็นนายอรรถพงษ์กำลังลงไม้ลงมืออยู่กับชายวัยเดียวกัน โดยมีแม่ของเธอเป็นคนห้ามปราม
“ฉันไม่รู้เรื่องนะอรรถพงษ์ ไม่ใช่ฉัน..”
นายบรรดิษฐ์พยายามบ่ายเบี่ยงแล้วหลบกำปั้นของเพื่อนรักเป็นพัลวัน ในขณะโชษิตาก็กอดรัดรั้งร่างของอรรถพงษ์เอาไว้แน่น
“ฉันอุตส่าห์ไว้ใจนาย ฝากที่ดินที่รักไว้ หวังว่านายจะไม่หักหลังฉัน แต่ไม่คิดว่า..”
“ฉันเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก หลังจากที่ไปเปิดบริษัทที่นั่นเพื่อรองรับสินค้าจากไทยแล้วกระจายสินค้าไปทั่วประเทศแถบนั้น มันนานเกือบปีเลยนะอรรถพงษ์ ฉันกลับมารู้เรื่องว่านายกลับมาอยู่ที่นี่ก็รีบมาหา..”
“แล้วไอ้หนุ่มรูปหล่อที่เข้ามายืดอำนาจของฉัน มันเป็นใคร..นายรู้ไหมมันทำอย่างไรกับลูกชายของฉัน มันให้ดนัยเป็นคนงานในไร่ทำงานทุกอย่างเหมือนกรรมกร ส่วนลูกสาวของฉันมันก็ให้ไปทำงานกับมัน มันพยายามกดฉันให้จมดิน ไหนนายลองบอกสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น..”
“ผู้ชายคนนั้น ชื่อโภคาธร กิติอุณกาญจน์ เป็นลูกชายของนายคณิน ค่ะพ่อ..”
เพชรไพลินร้องบอกก่อนจะเดินเข้าไปหา
“อะไรนะลูก ..หนูบอกว่า ลูกชายของคุณคณินอย่างนั้นหรือจ๊ะ เขาเป็นลูกชายของคุณคณินจริงหรือจ๊ะ..”
โชษิตาร้องถามเธอด้วยสีหน้าและแววตาที่ดูสดใสขึ้นมาแทบทันที
“ค่ะแม่ ผู้ชายคนนั้น ชื่อโภคาธร กิติอุณกาญจน์ เป็นลูกชายของนายคณินจริง ๆ เขาบอกลินมาเดี๋ยวนี้..”
โชษิตารู้สึกดีใจอย่างมาก หล่อนคิดว่า โภคาธรจะต้องเป็นลูกชายของหล่อนอย่างแน่นอนที่สุด
“มันหมายความว่าไงบรรดิษฐ์ ทำไมลูกชายของคณินเข้ามาที่นี่ได้..”
คำถามของอรรถพงษ์ทำให้บรรดิษฐ์ต้องนิ่งคิด
“คณินมาพบฉัน แล้วเอาเงินมาใช้หนี้แทนนาย ฉันคิดว่านายกับคณินอาจจะดีกันแล้ว จึงยอมรับเงินนั้น แต่คณินให้ฉันเซ็นมอบเอกสารให้เขา เพื่อจะได้ยืนยันว่า เขาได้ใช้หนี้แทนนายแล้ว..”
บรรดิษฐ์มองหน้าอรรถพงษ์
“ฉันไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะกลับตาลปัตรเป็นแบบนี้..”
“หมายความว่า หนังสือที่นายเซ็นให้คณิน มันคือใบมอบฉันทะที่ยกให้เขามารับผิดชอบในหนี้สินของฉันแทนนายน่ะสิบรรดิษฐ์..”
“เลวจริง ๆ ฉันจะไปพูดกับคณินให้รู้เรื่อง..”
“เปล่าประโยชน์..ไม่มีทางหรอก ลงได้ตกถึงมือเขาแล้ว..”
โชษิตาแทบไม่ได้ยินการสนทนาของเขาทั้งสองคนเพราะในใจของหล่อนกำลังปรีดาอย่างยิ่งยวดที่คิดว่าโภคาธรคือลูกชายของหล่อน หล่อนกำลังจะได้พบลูกชายที่พลัดพรากกัน
“แม่จะไปไหนคะ..”
“แม่จะไปเตรียมอาหารจ้ะ..”
โชษิตากระวีกระวาดเข้าครัวทำอาหารอย่างสุดฝีมือในขณะที่เพชรไพลินแต่งตัวออกจากบ้านพร้อมกับเอกสารที่เป็นวุฒิการศึกษา
แต่ไม่ว่าเธอจะไปสมัครงานที่ไหนจะต้องถูกปฏิเสธทันทีเพียงแค่พวกเขาเห็นชื่อและนามสกุลของเธอ ทำให้เธอรู้สึก ท้อแท้ และไม่มั่นใจว่าจะได้รับการเรียกตัวหรือไม่จากหลายบริษัทที่ทิ้งใบสมัครเอาไว้ เธอเดินกลับบ้านด้วยหัวใจที่เหมือนคนเป็นไข้หนัก
“คุณแม่ไปไหนจ๊ะ..”
“ออกไปตั้งแต่ชั่วโมงก่อนค่ะ บอกว่าจะเอาอาหารไปให้คุณดนัยที่ไร่..”
เพชรไพลินทรุดกายลงนั่งอย่างคนสิ้นหวัง
“ไงจ๊ะคนเก่งของพี่ หายไปไหนมา แต่งตัวซะสวยขนาดนี้..”
ดนัยร้องทักพร้อมกับเดินตรงเข้ามาหาทำให้เธอลุกขึ้นยืนด้วยความแปลกใจ
“ทำไมมาคนเดียวล่ะคะ..คุณแม่ล่ะ..”
ดนัยทำหน้างง
“อุษาบอกว่าคุณแม่เอาอาหารไปให้พี่ดนัย..”
“ไม่เห็นนี่จ๊ะ..”
“ไม่ได้การแล้ว..”
เธอคิดแล้วก็รีบก้าวออกจากบ้านมุ่งหน้าไปที่ไร่ทันทีพร้อมกับตระเวนหาแม่ของเธอ ในขณะที่โชษิตากำลังยืนยิ้มเมื่อได้มองเห็นโภคาธร ชายหนุ่มที่ถอดแบบมาจากคณิน นอกจากจะหล่อเหลาคมคายแล้ว เขายังสง่างาม ภูมิฐาน องอาจ
“คุณ!!!..”
เมื่อโภคาธรหันมาแล้วเห็นหล่อนที่กำลังมองหน้าเขาด้วยนัยน์ตาที่ฉายแววปรีดาอย่างยิ่งทำให้เขานึกฉงนกับท่าทีและรูปหน้าที่พริ้มเพราของหล่อน รอยยิ้มที่อ่อนโยน มันทำให้หัวใจของเขาเย็นลงอย่างน่าอัศจรรย์
“มีอะไรหรือครับ..”
หล่อนรีบยื่นตะกร้าอาหารให้เขาทันทีที่เขาก้าวเข้ามาใกล้
“ฉันทำอาหารมาให้คุณค่ะ รับไว้สิคะ..”
โภคาธรยอมรับตะกร้าอาหารนั้น
“คุณเป็นใครครับ..”
“เป็นแม่ของฉัน..”
เพชรไพลินตอบสวนไปอย่างทันควันพร้อมกับก้าวเข้าไปยืนอยู่เคียงข้างร่างบางของโชษิตา
“เอาคืนมานี่..คนอย่างคุณ ไม่มีวาสนาจะได้ทานอาหารฝีมือแม่ของฉันหรอก..”
“หนูลิน..”
“กลับบ้านเราค่ะแม่ ที่นี่มันสกปรกเกินกว่าที่แม่จะมาเหยียบ..”
เพชรไพลินพูดพร้อมกับกระชากตะกร้าอาหารออกมาจากมือใหญ่ของเขาแล้วรวบมือบางของแม่จับจูงให้ก้าวตามเธอมาทั้งที่โชษิตายังเดินไปเหลียวกลับมามองหน้าเขาไป
กิริยาของโชษิตามันทำให้โภคาธรสงสัยไม่น้อย และที่สำคัญ ทันทีที่เขาได้เห็นหล่อนมันมีความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาดึงดูด ทำให้เขาอยากอยู่ใกล้หล่อน อยากพูดคุย อยากมองเห็น
“ทำไมแม่ต้องไปทำดีกับเขาด้วย แม่รู้ไหมคะว่าผู้ชายคนนั้นเหยียดหยามลินมากแค่ไหน..”
เมื่อออกมาไกลจากที่พักของเขา เธอก็หันมาหาแม่ของเธอที่ก้มหน้างุด สีหน้าและแววตาโศกเศร้า ผิดหวังจนเห็นได้ชัด ความตั้งใจที่จะต่อว่าแม่ก็อันตรธานหายไปสิ้นเมื่อมองเห็นหยาดน้ำตาที่ไหลรินออกมาจากสองดวงตาของแม่
“แม่ขา..ลินขอโทษนะคะแม่..ยกโทษให้ลินด้วย..”
เธอรีบเข้าไปกอดแล้วยกสองมือเช็ดน้ำตาให้แม่
“ไม่เป็นไรจ้ะ หนูไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยนี่ลูก..”
โชษิตารีบยิ้มกลบเกลื่อนความขมขื่นในใจแล้วเช็ดน้ำตาออกไป
“ไปจ้ะ กลับบ้านกัน..”
หล่อนแกล้งทำเป็นสดใส แต่ยังอดที่จะหันกลับไปมองเขาที่เห็นอยู่ไกล ๆ อีกครั้งไม่ได้ กิริยาของแม่ทำให้เพชรไพลินสงสัยเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่กล้าจะถามอะไรอีก เพราะรู้ดีว่าสุขภาพของแม่ไม่ค่อยดีมาแต่ไหนแต่ไร
