บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ยอม

การเล่าเรื่องและการเติมสีตีไข่เข้าไปทำให้เรื่องราวในวันนั้นปะทุขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้มีกอดถอนหายใจยาวกับผลของมันเพราะออกไปทางไหนก็พบกับคำถามจากบุคคลอื่นหรือแม้แต่อยู่บ้านก็พบกับคำถามมาจากเพื่อนบ้านเช่นกัน

ขนาดรับรู้ก็ยังมีคำถามมากมาย

“หนักใจอะไรขนาดนั้นกอด”

“ก็อย่างที่เห็น”

มีกอดนั่งเท้าคางนั่งอยู่ก่อนแล้วแลสายตาไปมองเพื่อนสนิทที่กำลังขยับตัวลงนั่งเก้าอี้ตรงข้าม มีกอดเอ่ยตอบขึ้นพร้อมกับสภาพปลงขั้นสุดจนเพื่อนสนิทถึงกับส่ายศีรษะเล็กน้อย

มีกอดพยายามหลบหนีทุกเรื่องราวและทุกคนถามจากคนอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้อะไรมากมายเพราะทำอะไรไม่ได้เลย การสู้รบตบมือก็ใช้ไม่ได้อีกสุดท้ายก็เลยได้แค่เข้ามานั่งในร้านกาแฟของเพื่อนสนิทเพื่อหลีกเลี่ยงทุกอย่างให้ออกไปจากตัวเอง

ถึงจะแค่ช่วงเวลาหนึ่งแต่ก็พอที่จะทำให้ดีขึ้น

แค่นิดเดียวก็ไม่เป็นอะไร มีกอดแค่อยากให้ตัวเองพอมีสติมากขึ้นกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ขณะที่ภายในร้านกาแฟประจำอำเภอของเพื่อนสาว ในตอนนี้ไร้ผู้คน มีกอดก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิมตั้งแต่เดินเข้ามาอยู่ในระยะสายตาของเพื่อนอย่างองุ่น

องุ่นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของมีกอดที่คบกันยาวนานมาตั้งแต่อนุบาลกระทั่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ห่างหายจากชีวิตกัน เพื่อนที่รับรู้ทุกๆ อย่างทั้งหมดและคอยช่วยเหลือในยามที่มีกอดตกอยู่ในสภาวะไม่ดี

และก็เหมือนสภาวะไม่ดีจะพาลพบเข้ามาในชีวิตของมีกอดไม่จบไม่สิ้นเหลือเกิน จะเรียกว่าตั้งแต่อดีตมาถึงตอนนี้ไม่มีช่วงเวลาดีเหมือนดั่งคนอื่นด้วยซ้ำ และดูเหมือนมันจะยังดำดิ่งลงเรื่อยๆ

“เอาไงต่อล่ะ” ปลงและยังไปต่อไม่ได้เลยได้แค่ส่ายหน้าเป็นคำตอบ มีกอดรู้ดีอยู่แล้วว่าองุ่นรับรู้เรื่องราวทั้งหมดดี ไม่ใช่ว่าจากใครหรอกต้องถามว่าใครเข้ามาในร้านกาแฟแล้วไม่พูดบ้างมากกว่า ยิ่งเป็นเรื่องแบบนั้นมันก็ยังเป็นที่น่าสนใจเป็นที่สุด “ยังไม่ถึงขั้นสุดอีกเหรอ ความอดทนแกมันมีเท่าไหร่กันกอด”

“ยังมี”

“ปากบอกยังมีแต่มองไปที่กระจกดูสภาพตัวเองหรือเปล่า”

“…”

“ทนไม่ได้ก็ไม่ต้องทนบ้าง”

“ก็...”

“ไม่ต้องพูดแล้ว”

“องุ่น...”

“บอกกี่ครั้งว่าความอดทนมันใช่ไม่ได้กับทุกเรื่องนะกอด แกอดทนมากี่ปีมันไม่มีอะไรดีขึ้นเลยด้วยซ้ำ พี่มีขวัญก็ยังใช้แกดั่งขี้ข้าเหมือนเดิมแถมตอนนี้เพิ่มผัวมาด้วย แม่แกอีกยิ่งตัวร้ายเลย ไม่อยากจะพูดถึงแบบนั้นเท่าไหร่แต่ก็ต้องขอพูดถึงบ้าง ทุกอย่างมันต้องใช้ความอดทนอะไรขนาดนั้นวะ”

มีกอดรับรู้ดีว่าสิ่งที่เพื่อนพูดมันถูกทุกอย่าง

แต่ก็ทำไงได้กัน

“เอาชาเย็นมาแก้วหนึ่งสิ”

“ยังเย็นได้อีก”

ถึงองุ่นจะเอ่ยพูดแบบนั้นแต่ก็เลือกลุกขึ้นไปทำเครื่องดื่มมาให้เพื่อนอยู่ดี เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่ได้ออกมาจากบ้านไม่ใช่เพราะอะไรแต่เป็นเพราะก่อนหน้าวุ่นวายกับการเตรียมงานแต่งของพี่มีขวัญทุกอย่างเลยต้องใช้เวลาหมดแต่ตอนนี้ว่างแล้ว

ชนบทพื้นที่มากแต่ผู้คนสามารถไปได้ทั่วถึงหากออกจากบ้านมาทำธุระบางครั้งก็ทำให้ได้เจอกับคนอื่นๆ ได้อย่างไม่คาดคิดและก็เหมือนวันนี้มีกอดจะก้าวขาผิดออกจากบ้าน เมื่อสายตามองไปยังฝั่งตรงข้ามที่เป็นธนาคารแห่งหนึ่ง คนที่กำลังเดินออกมาโดยที่มีลูกน้องเปิดประตูให้เล่นทำนั่งไม่ติดพื้น

ร่างสูงโปร่งกับเข้าผมสีดำสนิทอันเดอร์คัตจัดทรงเรียบร้อย สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวพับขึ้นมาครึ่งแขนเผยรอยสักอันคุ้น ชายเสื้อสวมทับเข้ากางเกงยีนสีดำรับกับรองเท้าผ้าใบขาวดำราคาสูง ขนาดมีระยะห่างกันเป็นฝั่งตรงข้ามเป็นตัดผ่านยังเรียกสายตาได้ขนาดนี้ มีเหรอที่แม่ค้าหรือคนอื่นๆ ผ่านไปมาจะจะไม่มอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel