บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 - ด้านหน้าหมอผู้เพียบพร้อม

ณ บ้านหลังใหญ่พันแสง เทพขจร หรือพัน วัย 41 ปี ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางที่ดูแลรักษากระดูก ข้อ เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อต่างๆ ของร่างกาย ประจำที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่ครอบครัวของเขามีหุ้นส่วนร่วมอยู่ด้วย 60% จะว่าไปเขาเป็นถึงทายาทของโรงพยาบาลชื่อดัง เขาเป็นหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ผิวขาวใส สะอาดแบบผู้ดี ใบหน้าเกลี้ยงเกลาไม่ต่างจากโอปป้าเกาหลี ขึ้นชื่อว่าหมอพันแสงแล้วเป็นต้องมีสาวมาหลงรัก แต่ไฉนเลยเขากลับไม่มองใคร เพราะอดีตของเขานั้นไม่หวานเขาจึงขยาดกับความรัก จนเมื่อปีก่อนญาติผู้น้องอย่างรักษ์แต่งงานมีครอบครัว เขาไปหาน้องชายและหลานทีไรเขาก็อยากมีลูกน้อยมาอุ้มชูบ้าง แต่ติดตรงที่ใครจะมาเป็นแม่พันธุ์ชั้นดีให้เขาได้ล่ะ ผู้หญิงที่ไหนจะเหมาะสมกับเขาและพ่อกับแม่จะไม่โต้แย้งเขาล่ะ

เบื้องหน้าที่แสนดูดีแต่เบื้องหลังของเขาที่เขาซ่อนงำไว้ตลอดเวลาหลายปีคือเมษา ไม่มีใครรู้ว่าเขามีอีกมุมและมีหญิงสาวที่เขาติดพันหลงใหลคลั่งไคล้รอเขาอยู่ทุกค่ำคืน และเขาก็ปล่อยเมษาไปไม่ได้เช่นกัน แม้ว่าอยากจะแต่งงานกับผู้หญิงดีๆ เพียบพร้อมสักคน แต่ก็ทิ้งเมษาไปไม่ได้เช่นกัน หล่อนก็เพียบพร้อม แต่ฐานะทางการเงินของหล่อนพ่อกับแม่เขาต้องแย้งแน่นอน และที่สำคัญเขาไม่เคยคิดจะรักนางบำเรอคนนี้เลยสักครั้ง แต่ก็ต้องยอมรับว่าขาดหล่อนไม่ได้เช่นกัน

“วันนี้ดูเหนื่อยๆ นะหมอ” นางเนียนถามลูกชายที่เดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน ปกติสีหน้าลูกชายจะสดชื่นตลอดยามเช้า แต่หน้าตาของพันแสงเหมือนคนอดหลับอดนอนมาตลอดคืนก็มิปาน

“เหรอครับแม่” เขายกมือนุ่มขึ้นลูบแก้มของตนเองก่อนจะหยักยิ้มให้ท่านแล้วเดินเข้าไปหาท่านที่กำลังช่วยเด็กในบ้านจัดโต๊ะอาหาร

“พักผ่อนบ้างนะลูก อายุเราก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว แล้วเมื่อไหร่แม่กับพ่อปุ๊ของลูกจะได้อุ้มหลาน ดูอย่างตารักษ์สิ รายนั้นแม่ไม่คิดเลยว่าจะแต่งงานแต่กลับแต่งงานก่อนพันเสียอีก”

เนียนยกรักษ์ขึ้นมาพูด เมื่อเห็นว่าลูกชายจะครองตัวโสดนานเหลือเกิน ไม่รู้หรอกนะว่าเพราะอะไร แต่เมื่อก่อนนางก็เห็นพันแสงมีแฟนมีความรักดีๆ แต่ในวันหนึ่งแฟนสาวของลูกชายก็กลับทิ้งลูกชายนางไปแต่งงาน นางสงสารลูกชายแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เมื่อไม่ใช่คู่กันก็ควรจะปล่อยกันไปมีในแบบที่สวรรค์เขาจัดไว้ให้

“ก็พักผ่อนปกติแหละครับแม่ แต่ว่าช่วงนี้นอนไม่ค่อยหลับเลยดูโทรมๆ อย่างที่แม่เนียนเห็นครับ” หนุ่มใหญ่บอกเล่าให้ผู้เป็นแม่ฟังพร้อมกับดึงเก้าอี้ประจำตัวเองออกนั่ง แล้วพ่อของเขาก็เดินเข้ามาสมทบอีกคน

“ไงลูกหมอ วันนี้ประชุมผู้บริหารลูกจะเข้าไปประชุมแทนพ่อได้ไหม” ปุ๊บอกลูกชายพร้อมตบไหล่ก่อนจะเดินไปดึงเก้าอี้หัวโต๊ะนั่ง

“พ่อปุ๊จะไปไหนครับ” เขาถามท่าน

“หมอลืมแล้วเหรอว่าวันนี้พ่อกับแม่จะไปทัวร์ยุโรปกันสามเดือน” ปุ๊บอกลูกชาย ก่อนจะบอกให้ภรรยามานั่งให้เด็กจัดการต่อจากภรรยา

“ผมลืมไปเลยว่าคนมีความรักจะไปฮันนีมูนรอบที่นับไม่ได้กัน งั้นผมไปส่งแม่กับพ่อที่สนามบินก่อนค่อยไปทำงาน” หนุ่มใหญ่บอกท่านทั้งสอง

เนียนกับปุ๊หันมายิ้มให้กันก่อนจะมองไปยังลูกชายคนเดียวของตนเองก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะเอ่ย

“ไม่ต้องหรอกลูก พ่อกับแม่จะให้คนขับรถขับไปส่ง ส่วนเราน่ะไปประชุมผู้บริหารแทนพ่อเถอะ อีกไม่นานพันก็ต้องมาดูแลต่อจากพ่อแล้วนะ”

“ครับพ่อ งั้นกินเยอะๆ นะครับวันนี้” ตักอาหารใส่จานข้าวให้พ่อกับแม่อย่างเอาใจ

“ขอบคุณจ้ะหมอ แล้วเนี่ยเมื่อไหร่แม่จะมีหลานสาวมาอ้อน หลานชายมาให้ตามใจบ้าง”

“ผมก็อยากมีให้แม่กับพ่อนะครับ แต่ผมไม่มีเวลาจะมองใครเลย วันๆ ก็ทำแต่งาน” ใช่หลังๆ มาเขาไม่ค่อยได้ตรวจคนไข้หรอก เขาทำหน้าที่บริหารงานมากกว่า ไม่ได้ดูแลผู้ป่วยเหมือนเมื่อก่อน ปีนี้เขารับงานของผู้เป็นพ่อมาดูแลทุกอย่าง และตอนนี้ถือว่าเป็นผู้บริหารเต็มตัวแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้แต่งตั้งเป็นทางการก็เท่านั้นเอง

“เริ่มมองได้แล้วหมอ ตอนนี้หมอไม่ใช่หนุ่มน้อยวัยใสเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ หมออายุ 41 แล้วนะลูก” เนียนเอ่ย

“ครับแม่ แต่ของแบบนี้เมื่อถึงเวลาคงมาเองแหละครับ”

“แต่เวลาของลูกมันไม่รอนะพัน ถ้ายังช้าอยู่แบบนี้ปีหน้าก็แก่ขึ้นอีกปี แล้วเมื่อไหร่ล่ะ เมื่อไหร่พ่อกับแม่จะได้อุ้มหลานสักที” ปุ๊เอ่ยบ้าง

“ทานข้าวกันเถอะครับ อย่าเอาเรื่องของผมมาเป็นประเด็นในการทานมื้อเช้าเลยครับ” เขาบอกพ่อกับแม่แล้วไม่พูดอะไรต่อ สนใจอาหารตรงหน้าและลงมือทานแต่ก็ทานไม่อร่อยเพราะในหัวของเขามีแต่เรื่องที่ท่านทั้งสองพูด ไม่ใช่แค่ท่านที่อยากอุ้มหลาน ตัวเขาเองก็อยากอุ้มลูกเหมือนกัน แล้วใครล่ะ ใครจะมาเป็นผู้หญิงคนนั้น คนที่จะมาเป็นภรรยาและแม่ของลูกเขา ในเมื่ออดีตของเขายังคงฝังแน่นอยู่ในใจ

ปุ๊กับเนียนส่ายหน้ามองลูกชายแล้วไม่พูดต่อ เมื่อเจ้าตัวไม่พูดสองสามีภรรยาก็ไม่พูดต่อความยาวสาวความยืด เริ่มทานอาหารมื้อเช้าและมองหน้ากันสลับไปมาและมองไปทางลูกชายบ่อยๆ ตลอดการทานอาหารเช้าของทั้งสอง

บนชั้น 27 ชั้นของผู้บริหารโรงพยาบาล หลังจากเสร็จจากการประชุมพันแสงก็มองนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเองแล้วถอนหายใจพิงพนักเก้าอี้ของทำงานของตัวเองเมื่อเห็นเวลา ตอนนี้พ่อกับแม่ของเขาคงเหินลอยอยู่บนฟ้าเรียบร้อยแล้ว สองมือใหญ่กุมนวดขมับตัวเองไปมา แล้วเม้มปากตัวเองแน่น ก่อนจะมีเสียงเคาะประตูห้องทำงานหน้าห้องของเขาดังขึ้น

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

“เชิญครับ”

แล้วประตูห้องทำงานก็ถูกผลักเข้ามาพร้อมกับเลขาวัยกลางคนเดินยิ้มเข้ามาหาตนเองในห้องทำงานพร้อมกับในมือหอบแฟ้มมาด้วย

“มีอะไรรึเปล่าครับ”

“พอดีมีงานที่คุณพันแสงต้องตรวจค่ะ” นางบอกพร้อมกับเอาแฟ้มเอกสารที่ถือมาวางไว้ตรงหน้าชายหนุ่ม

“ขอบคุณมากครับ ว่าแต่สำคัญรึเปล่าครับ”

“ไม่ค่ะ ไม่สำคัญเท่าไหร่”

“งั้นวันนี้ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะเอางานกลับไปทำด้วย”

“ค่ะคุณพันแสง วันนี้ก็ไม่มีงานอะไรสำคัญแล้วค่ะ ส่วนรายงานการประชุมพรุ่งนี้จรีจะเอามาวางไว้ที่ทำงานให้แต่เช้านะคะ”

“ครับคุณจรี ผมขอตัวนะครับวันนี้เหนื่อย”

เขาเอ่ยพลางยกมือนวดขมับตัวเองแล้วเลขาวัยกลางคนก็ขอตัวออกจากห้องทำงานไป แล้วเขาก็จัดการเก็บแฟ้มเอกสารใส่กระเป๋าทำงานเอากลับไปทำที่บ้านด้วย เขาเหนื่อยๆ เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอน กลับมาจากคอนโดของเมษาเขาก็นอนไม่หลับ เพราะคำรักของหล่อนตามมาหลอกหลอนเขาทุกครั้งที่หลับตา ทำไมเมษาต้องบอกรักเขาทุกครั้งที่จากกัน เพราะคำรักของหล่อนทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเลวและเห็นแก่ตัวจนอยากปล่อยเธอไป แต่ท้ายที่สุดเขาก็เห็นแก่ตัวปล่อยหล่อนไปไม่ได้อยู่ดี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel