Ep.2
ผับเวกัส
เซน : หน้าเเบบนี้แม่กับเมียทะเลาะกันอีกแล้วชัวร์
เพื่อนสนิทปรินทร์พูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักสุดหล่อของเค้าเดินหน้างุ้มมาหาตน
ปรินทร์ : เถียงกันตามเคยว่ะ แต่ครั้งนี้แม่กูน่าจะโกรธ
เซน : เอาจริงๆไหม สิ่งที่เมียมึงทำเป็นกูกูโกรธก่อนเเม่มึงอีก มึงไม่รู้สึกอะไรบ้างหรอวะ ตอนเเต่งก็ว่าแปลกแล้วนะ นี่จะมีลูกยังแปลกอีก
ปรินทร์ : รู้สึกสิวะกูก็คน แต่กูก็ต้องเข้าใจวุ้นเค้าเค้าเป็นดาราเค้าใช้ร่างกายถ่ายทอดผลงาน
เซน : อันนั้นกูรู้เเต่เมียมึงไม่ได้สื่อออกมาแบบนั้นไงเพื่อน เมียมึงพูดชัดเจนว่าไม่ว่าจะอีกกี่ปีเค้าก็จะไม่ยอมอุ้มท้องเองเด็ดขาด กูรู้นะว่ามึงรักวุ้น แล้วกูก็ไม่ยุให้มึงมีปัญหากันแต่กูอยากให้มึงคิดดูดีๆ
ปรินทร์ : เออกูรู้ ขอบใจว่ะ เเล้วไอ้ดีเซล ไอ้ไม้มันหายไปไหน
เซน : ไอ้เซลอยู่ห้องทำงาน ไอ้ไม้กูติดต่อมันไม่ได้ตั้งแต่เช้าแล้ว มันเล่นหนังเรื่องเดียวกับเมียมึงนี่
ปรินทร์ : ทำไมกูไม่เคยรู้???
เซน : กูถามจริง ปกติไอ้ไม้มันคุยกับมึงทุกเรื่องนี่ว่า แล้วเมียมึงไม่บอกอะไรเลยหรอวะ
ปรินทร์ : เออดิ กูจะโกหกเพื่อ คงยุ่งๆกันมั้งเลยไม่ได้บอก เดี๋ยวกูว่าจะกลับแล้วแวะมาดูความเรียบร้อยเฉยๆ มีงานที่บ้านให้เคลียร์อีกเยอะเลย
เซน : ไม่รอไอ้ดีเซลมันลงมาก่อนหรอ
ปรินทร์ : วันนี้กูรีบว่ะ ฝากบอกมันด้วยละกัน กูไปล่ะ
เซน : เออเคๆ ขับรถดีๆ
ชายหนุ่มขับรถกลับบ้านตามปกติ ระหว่างทางตัดสินใจเเวะร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ติดมือกลับไปด้วย “”ปั้งงงง กรรมมม”” ชายหนุ่มสบทออกมาเสียงดังเพราะเค้าถอยรถจอดเเต่ลืมมองด้านข้างจึงทำให้เบียดโดนมอไซค์คันนึงล้มลงไม่รู้ว่าโดนคนด้วยไหม เค้ารีบจอดรถเพื่อลงมาดูในสิ่งที่ตัวเองทำ
“”นี่คุณ จอดรถยังไงไม่มีตาหรอ รู้ไหมว่าคุณเกือบเหยียบขาฉันดีนะฉันลุกทัน””
ไม่ทันที่จะได้ปิดประตูรถให้เรียบร้อยเสียงใสของคู่กรณีก็ดังเข้ามาในหูเค้าทันที เค้ากำลังจะตอกกลับไปแต่ต้องหยุดความคิดลงเมื่อเจ้าของเสียงใสตรงหน้าทำเอาเค้าไม่กล้าจะพูดอะไรไม่ดี….
ปรินทร์ : ผมขอโทษครับ คุณเจ็บตรงไหนไหมเป็นอะไรมากหรือเปล่า ไปโรงพยาบาลไหม ผมจ่ายค่ารักษาเอง
… : ไม่เป็นไรค่ะ ทีหน้าทีหลังก็ระวังๆนะคะ ขอตัวค่ะรีบกลับบ้าน
ปรินทร์ : ไปหาหมอหน่อยดีกว่าครับคุณเลือดออกเเล้วเเขนก็บวมมากด้วย ไปให้หมอตรวจหน่อยนะครับ
… : ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกลับบ้านไปทำแผลก็โอเคเเล้ว
หญิงสาวตรงหน้าทำท่าประคองมอไซค์ขึ้นมาเพื่อจะกลับบ้านเเต่ดูเหมือนว่ามอไซค์ของหญิงสาวจะไม่ยอมติดตามความต้องการ
ปรินทร์ : ดูเหมือนรถคุณจะมีปัญหานะครับ ให้ผมไปส่งได้ไหมครับ ถือว่าให้ผมได้รับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำ ส่วนรถคุณผมจะให้ลุกน้องมาเอาไปซ่อมนะครับ ผมออกค่าใช้จ่ายเอง
หญิงสาวนิ่งคิดอยู่สักพัก แต่เห็นว่าบ้านตรงเเค่รีเทิร์นด้านหน้าก็ถึงเเล้ว แล้วตัวเองก็รีบกลับบ้านด้วย จึงตกลงให้คนตรงหน้าไปส่ง….
… : ได้ค่ะ บ้านฉันรีเทิร์นด้านหน้านิดนึงก็ถึงเเล้ว
ปรินทร์ : เชิญขึ้นรถครับ คุณ…….
… : ปิ่นมุกค่ะ เรียกสั้นๆว่ามุกก็ได้ค่ะ
ปรินทร์ : ผมปรินทร์นะครับ เดี๋ยวรบกวนคุณมุกช่วยบอกทางผมทีนะครับ
ระหว่างขับรถปรินทร์เห็นว่าปิ่นมุกหรือผู้หญิงตรงหน้าเค้ามีรอบช้ำจากการที่เค้าขับรถเฉี่ยวค่อยข้างเยอะ เเถมเเขนที่บวมดูเหมือนว่าจะบวมขึ้นเรื่อยๆเค้าจึงตัดสินใจขับรถตรงไปโรงบาลโดยที่ไม่ถามความเห็นจากคนตรงหน้า….
ปิ่นมุก : ไปไหนคะคุณ รีเทิร์นตรงนี้ค่ะ
ปรินทร์ : ผมจะพาคุณไปโรงบาลไงครับ คุณดูเเขนคุณกับเเผลตามตัวคุณตอนนี้สิ ผมไม่ได้ไร้ความรับผิดชอบถึงขนาดที่ยอมไปส่งคุณทั้งๆที่ผมทำคุณเจ็บหรอกนะครับ
ปิ่นมุก : แต่ฉันต้องรีบกลับบ้านค่ะ ฉันมีงานต้องทำ
ปรินทร์ : ผมก็มีครับ แต่คุณไปให้หมอตรวจก่อนดีกว่าครับ อย่าดื้อถ้าขืนมีอะไรหักขึ้นมาจะได้รักษาทัน
ปิ่นมุก : แต่ว่า….
ปรินทร์ : ไม่ทันเเล้ว ครับโรงบาลอยู่ด้านหน้าอีกนิดเดียว
ปิ่นมุกได้เเต่ถอนหายใจออกมาที่ตัวเองโดนขัดใจ เธอเป็นคนที่ไม่ชอบการมาโรงพยาบาลเอามากๆชนิดที่ไม่หนักหนาสาหัสคือไม่เฉียดมาใกล้เลยก็ว่าได้
โรงพยาบาล Rtt
ปรินทร์ : ตามหมอวินิตให้ผม
พยาบาล : คุณหมอวินิตออกเวรไปแล้วค่ะ
ปรินทร์ : บอกว่าผมปรินทร์ให้ตามด่วน บอกแค่นี้เดี่ยวเค้าก็มา
พยาบาล : ค่ะๆ สักครู่นะคะ
ปิ่นมุก : หมอคนอื่นก็ได้ค่ะคุณ พยาบาลเค้าบอกแล้วนี่คะว่าคุณหมอที่คุณอยากได้เค้าออกเวรไปแล้ว อีกอย่างฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากแค่ปวดนิดหน่อย
ปรินทร์ : บวมขนาดนี้ปวดนิดหน่อยก็ต้องตรวจครับ อีกอย่างคุณหมอเค้าเป็นเพื่อนของพ่อผม เป็นหมอประจำบ้านผมครับสามารถตามได้ตลอด รถของคุณผมให้ลูกน้องเอาไปซ่อมให้แล้วนะคาดว่าเรากลับจากโรงบาลก็ส่งรถกลับพร้อมคุณได้เลย
ปิ่นมุก : เดี๋ยวฉันขับกลับเองก็ได้ค่ะ ให้คนของคุณรอที่เดิมดีกว่า
ชายหนุ่มยักหน้าเหมือนว่าเข้าใจในสิ่งที่เธอพูดเเต่ใครจะรู้ว่าคำพูดของหญิงสาวไม่ได้เป็นไปตามที่ต้องการ หลังจากตรวจร่างกายเสร็จผลออกมาว่ามีการช้ำจากเเรง
กระแทกที่แขนทำให้บวมอย่างหนัก เเต่กระดูกไม่ได้เเต่หักหรือมีอันตรายใดๆ แผลภายนอกที่มีเลือดออกมาจากการโดนบาดจากบางอย่าง หมอได้ทำการล้างแผลให้เรียบร้อย หลังจากรับยาเสร็จชายหนุ่มก็ตรงมาทางบ้านเธอที่เธอบอกไว้ในตอนแรก
ปิ่นมุก : คุณคะไม่พาฉันไปเอารถหรอคะ
ปรินทร์ : ผมให้ลุกน้องมาจอดรอเเถวนี้เเล้วทางเข้าบ้านคุณอยู่ไหนผมจะไปส่งเอง เดี๋ยวให้ลูกน้องผมขับรถตาม
ปิ่นมุก : แต่ว่าเราคุยกันแล้วนี่คะ
ปรินทร์ : ผมลืมล่ะ เอาเป็นว่าผมไปส่งแล้วกันนะ บอกทางผมมาครับหรือคุณอยากถึงบ้านช้า
หญิงสาวถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ตั้งแต่เจอเค้า เธอได้เเต่บอกทางกลับบ้านของเธอเพราะรู้สึกเริ่มง่วง และปวดเเขนดีเหมือนกันที่มีคนไปส่งจะได้ไม่ต้องขับรถเอง
ปิ่นมุก : จอดด้านนี่เลยค่ะ เดี๋ยวฉันให้คนมาเอารถเข้าบ้านเอง
ชายหนุ่มมองเข้าไปในบ้านก็อ๋อทันทีเพราะบ้านหลังนี้คือบ้านของคุณนายจันทราที่เค้าต้องมาทวงหนี้ในอีกไม่กี่วันที่จะถึง เค้ายกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างรู้สึกดี เค้ามั่นใจว่าปิ่นมุกน่าจะเป็นหนึ่งในลูกสาวของคุณนายจันทราเพราะเค้าแอบเห็นนามสกุลของเธอที่โรงพยาบาลเเต่ได้เเต่นิ่งเอาไว้
ปรินทร์ : ได้ครับ อย่าลืมทานยาตามหมอสั่งนะครับ
ปิ่นมุก : ค่ะขอบคุณนะคะ ขอตัวก่อนค่ะ
ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่เดินเข้ารั้วบ้านไปจนเข้าตัวบ้าน ไม่นานนักก็มีคนออกมาเอารถเข้าไปเก็บ ที่เค้ายังไม่ไปเพราะเค้าจอดรอคิงลูกน้องคนสนิทของเค้าขึ้นรถ
ปรินทร์ : มึงจะขึ้นได้ยังไอ้คิง กูจะกลับบ้าน หรือมึงจะกลับเอง
คิง : กลับครับนายโห่เเปปเดียวเองครับ
คิงตอบกลับผู้เป็นนายพร้อมกับเปิดประตูขึ้นมาบนรถ
คิง : นายจะขับรถให้ผมนั่งหรอครับ
ปรินทร์ : นั่งไปเถอะพูดมาก หรือจะลงเดิน
คิง : แลดูอารมณ์ไม่ดีนะครับเนี่ย ว่าเเต่คุณคนสวยคนเมื่อกี้เค้าคือลูกสาวของคุณนายบ้านนี้นี่ครับ นายไปเจอได้ไงครับเนี่ยคุณวุ้นรู้นายเเย่เลยนะครับ
ผม : เสือกก ว่าเเต่คนนี้เป็นลูกสาวคนโตหรือคนเล็กของบ้าน
คิง : คนโตครับ เป็นลูกติดของคุณนายจันทรากับสามีเก่า คุณชวลิตเป็นพ่อเลี้ยงครับ นายดูจะสนใจเธอนะครับ
ผม : เดี๋ยวมึงก็รู้…..
บทสนทนาบนรถระหว่างปรินทร์กับลูกน้องคนสนิมเงียบมาจนถึงบ้านหลังใหญ่กลางเมือง ปรินทร์กลับเข้ามาในบ้านก็ไม่เจอใครที่ห้องนั่งเล่นเเล้วเพราะตอนนี้เกือบจะ 5 ทุ่มแล้วพ่อกับเเม่เค้าเป็นคนนอนไว ไม่ว่าตอนนี้จะดึกแค่ไหนภรรยาของเค้าอย่างวุ้นก็ยังกลับไม่ถึงบ้านอยู่ดีเเต่เค้าเองชินไปแล้ว…..
