บท
ตั้งค่า

2

อริย์ธัชเดินเข้าใกล้ร่างอวบบนเตียง “ผมแค่สงสารบอดี้การ์ดคนแล้วคนเล่าที่ต้องเข้าๆ ออกๆ งานตรงนี้ เรื่องอื่นไม่อยากพูดถึง”

“มีแค่คุณธัชคนเดียวคนอื่นพอแล้วนี่ค่ะ” ทำเป็นไม่สนใจการเมินเฉยแม้จะไม่มีความสุขเลยตั้งแต่บอดี้การ์ดที่เคยตามใจเธอเมื่อหลายปีก่อน เลิกพูดปลอบเรื่องที่บิดาทิ้งให้เธอโดดเดี่ยวเดียวดาย เขาเลิกสงสารเธอแล้วหรือไรกัน

“ผมก็ต้องมีชีวิตของผมบ้างนะคุณ” ดวงตาคมสบนัยน์ตาดำระยับที่มีคำถามซ่อนอยู่ จำใจขยายความต่อ “ผมหมายถึงครอบครัว”

“คุณธัชจะแต่งงานเร็วๆ นี้จริงอย่างที่สราได้ยินมาเหรอคะ” เขาเปิดอกพูดคุยเธอก็กล้าซักถาม ใบหน้าหล่อเข้มพยักหน้าเป็นคำตอบ ธนิสรานิ่งงันหรุบสายตามองผ้าห่มสีขาวตรงตักปกปิดความรู้สึก

“เงียบแสดงว่าจะคิดใหม่ทำใหม่จริงๆ เรื่องของผม ไม่อย่างนั้น ผมก็อาจจะเหมือนบอดี้การ์ดคนอื่นๆ นะครับ”

แหงนมองนัยน์ตาคมเข้มที่กำลังมองกันอยู่ “ได้สิ ได้สิคะ” รีบตอบ ก่อนล้มตัวลงนอน ปิดเปลือกตาบอกเป็นนัยน์ว่าต้องการปิดการสนทนา อริย์ธัชไม่อยากหวังว่านั่นคือเรื่องจริง ร่างใหญ่เดินออกจากห้องปิดประตูเบาๆ

อาหารพร้อมสำหรับคนป่วยชนารดีให้เด็กรับใช้ถือตามมาบนห้องนอน คนป่วยไม่ค่อยทาน คนเป็นพี่คะยั้นคะยอ “ฝืนหน่อยน่าสรา ช่วงนี้พี่ยุ่งมาบ่อยไม่ได้นะ”

“แค่นี้พอค่ะ”

จังหวะนั้นมีสายเข้ามาชนารดีขอตัวไปรับ

“ค่ะคุณแม่”

“ถ้าสราดีขึ้นแล้วก็ชวนอธิย์ธัชมาดูชุดแต่งงานด้วยนะลูก คุณป้าโทรมาว่าเสร็จเร็วกว่ากำหนดลูกจะได้ปรับเปลี่ยนหากไม่พอใจตรงไหน”

ชนารดีหน้านิ่งไม่ได้ยิ้มหรือพูดให้แม่รู้ว่าดีใจ มารดาดูจะยอมรับคนรักมากกว่าเดิมแต่เรื่องราวหนหลังเธอก็ไม่เคยลืม รักแรกถูกกีดกัน นานทีเดียวกว่าจะผ่านพ้นความเสียใจมาได้… จนได้ยินเสียงคุณลุงและฝ่ายนั้นขอพูดด้วยก็ยิ้มออกมา เจ้าสัวเอาแต่พูดเรื่องมีหลานเมื่อแต่งงาน ซึ่งเธอก็ตอบแบบเดิมๆ

“แหมคุณลุงรดียังไม่คิดเรื่องลูกหรอกค่ะ บอกหลายครั้งแล้ว อยากเที่ยวพักผ่อนกันสองคนก่อน” เสียงปลายสายหัวเราะก่อนจะวางสายไป หญิงสาวเดินกลับไปหาคนบนตียง

“คุณพ่ออยู่กับคุณป้าเหรอคะ” ธนิสราพยายามเก็บความน้อยใจไม่ให้ญาติผู้พี่เห็น ทั้งๆ ที่ในใจอิจฉาเป็นที่สุด แม้รู้ว่าเธอเจ็บป่วยคนเป็นพ่อไม่สนใจแม้จะโทรมาบ้างเลย

“คงอย่างนั้นจ๊ะสรา” ชนารดีพยักหน้า ก่อนจะบอกธุระที่มารดาโทรมา “พี่มีธุระต้องไปดูเอ่อ…ชุดเจ้าสาวถ้ายังไงเธออยู่ได้นะ พี่จะเข้ามาอีกทีตอนค่ำนะ”

ชุดเจ้าสาว!

คนแกล้งป่วยเริ่มจะป่วยจริงขึ้นมา ญาติผู้พี่เห็นเธอเงียบก็หยิบกระเป๋าสะพายบนโต๊ะข้างหน้าต่างโบกมือเดินออกไปจากห้อง

ถึงเวลาที่เธอต้องเสียคนที่รักที่สุดไปให้คนอื่นแล้วจริงๆ หรือ คราวนี้เธอก็ไม่เหลือใครอีกแล้วในชีวิต…อยากให้เป็นแค่ความฝันนัก

อากาศเย็น ลมทะเลปะทะผิวบอบบางแต่ธนิสราไม่รู้สึกรู้สมเหมือนทุกครั้งที่มีเรื่องให้ขบคิด ร่างอวบความสูงร้อยห้าสิบเจ็ดเซนติเมตรเดินทอดน่องริมชายหาดส่วนตัว ทรุดนั่งเก็บเปลือกหอย

ได้เปลือกหอยที่ต้องการเดินไปทรุดนั่งบนพื้นทรายไม่ไกลชายหาด มือเล็กเผลอกำเปลือกหอยที่หยิบมาแรงไป จนเจ็บฝ่ามือจึงคลายออก หันไปมองดูบอดี้การ์ดสองคนที่ยืนเฝ้าอยู่ ทุกคนไกลสายตาคงไม่เห็นความอ่อนแอของเธอ จึงก้มหน้าร้องไห้กับพื้นทรายตรงนั้น

เปลือกหอย…

เรื่องราวหนหลังมันก็เป็นแค่ความหลัง ใครจะจดจำฝังใจเหมือนกับเธอกันเล่า จมูกโด่งสูดสะอื้น นำเปลือกหอยในมือวางบนพื้นทราย ก่อนจะกอบโกยเม็ดทรายสีขาวละเอียดมาปิดทับเปลือกหอยหลายรูปทรงนั้น…

แปดปีก่อน

ธนิสราสูญเสียมารดาไป ท่านจากไปเพราะไม่อยากอยู่ในโลกใบนี้ ทิ้งลูกสาวผู้อ้างว้างให้อยู่กับความเศร้าสร้อยโดดเดี่ยว

บิดาที่ไม่ค่อยดูแลสนใจมารดาและธนิสราอยู่แล้วไม่มีท่าทีเสียใจ ซ้ำหมางเมินกับเธอกว่าเดิม ธนิสราร้องไห้ก็โดนต่อว่า

“เป็นลูกสาวเจ้าสัวศรินต้องไม่ขี้แย ออกไปจากห้องถ้ายังไม่หยุด”

เพราะต้องการให้พ่ออยู่ด้วยกันที่คฤหาสน์กว้าง เด็กหญิงธนิสราตัวสั่นหันมองเหล่าบอดี้การ์ดหลายคนของพ่อที่มองดูเธออยู่ ก่อนจะวิ่งกลับห้องนอน…

“คุณหนูอย่าคิดมาก” แม่บ้านปลอบใจแต่ไม่ได้ช่วยให้เธอดีขึ้นเลย ความโดดเดี่ยวอ้างว้างเกาะกินใจ มีเงิน มีคนดูแลมากมายแต่ไม่มีความอบอุ่น ไม่มีเพื่อน ท้ายสุดเด็กหญิงธนิสราก็เหมือนเด็กเก็บกดคนหนึ่ง

กระทั่งวันหนึ่งได้เจอบอดี้การ์ดผู้แสนใจดี ไม่กลัวที่จะเข้าใกล้เธออย่างคนอื่นๆ

“คุณธัช” เธอเรียกแต่บอดี้การ์ดคนนี้ให้ไปไหนมาไหนด้วยกัน

เขาเล่นก่อกองทรายกับเจ้านายตัวเก้งก้างผู้เงียบเหงาได้

พับนกตัวน้อยจากใบมะพร้าวให้เล่น

ให้ขี่หลัง…

ทุกเรื่องราวซึมซับสู่หัวใจจนเด็กหญิงที่กำลังเปลี่ยนสู่วัยสาวแรกรุ่น คุณธัชเข้ามาผูกพันกับหัวใจ แม้เขาจะไม่ค่อยหัวเราะแต่ก็มีแววตาอบอุ่นให้เธอเสมอมา จนเวลาล่วงเลยจากวัยเด็กย่างสู่วัยสาวเต็มตัวเธอได้เปลี่ยนความรู้สึกผูกพันเป็นหวงแหนและ รักเขา…

พ่อไม่มาหาในวันเกิดมีเพียงของขวัญเธอก็พยายามไม่ร้องไห้ยังมีคุณธัช

ผลการเรียนอวดใครไม่ได้ก็มีผู้ชายกล้ามโตยกหัวแม่มือชื่นชม แค่นี้ก็พอ…

แต่จากนี้เธอต้องก้าวสู่ความอ้างว้างโดดเดี่ยวอีกแล้วใช่ไหม

ธนิสรา จิ้มนิ้วบนผืนทราย ระบายความในใจที่บอกใครไปคงไม่มีใครเข้าใจ และคงไม่เป็นการดี…

คุณธัช…จะไม่แต่งงานใช่ไหม

คุณธัช…จะไม่มีทางไปไหนจากสราใช่หรือเปล่า

“คุณหนูคะ คุณหนู” เสียงเรียกหาของแม่บ้าน ธนิสราหันไปมอง ไม่อยากให้ฝ่ายนั้นเข้ามาใกล้ถามขึ้นอย่างรู้ทัน “มีอะไร จะมาบอกว่าค่ำแล้วล่ะสิ จะไปเดี่ยวนี้ล่ะ” ทว่าเรื่องที่แม่บ้านบอกทำให้เผลอลุกขึ้นจนเหยียบเปลือกหอยจึงรู้สึกเจ็บแปลบที่เท้า

“เจ้าสัวมาค่ะ”

“เข้าใจแล้ว” แม้ปวดเท้าพยายามระงับอาการไว้เพราะตื่นเต้น เดินเข้าคฤหาสน์

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel