3ตัดขาด
Chapter 3
ม่านทิวาเดินไปเปิดประตูก็เจอหญิงวัยกลางคนยืนอยู่หน้าประตู เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างสงสัย แต่ก็เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ว่าเธอสงสัยอะไร จึงชิงพูดขึ้นก่อน
“คือฉันจะมาถามว่าคุณจะรับอะไรหรือเปล่า พอดีคุณผู้ชายที่พักอยู่กับคุณเมื่อคืนสั่งเอาไว้ก่อนออกไปค่ะ”
“ไม่ล่ะค่ะ ฉันจะกลับแล้ว”
“ค่ะ” พนักงานพยักหน้าแล้วเดินกลับ ส่วนม่านทิวารีบอาบน้ำแต่งตัว เธอไม่ร้องไห้ฟูมฟาย แอบเสียใจที่ทำตัวไม่ดี แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว และเธอก็จงใจให้มันเกิด ฟูมฟายไปก็ป่วยการ เดินหน้าทำมาหากิน สู้กับปัญหาทุกอย่างจะดีกว่า
ม่านทิวากลับมาห้องเช่า เธอเลือกเช่าห้องเล็ก ๆ ที่ไม่ไกลจากคลับกึ่งบาร์ที่ทำงาน เพื่อความสะดวกสบายในการทำงาน ห่างห้องเช่าไปไม่ถึงครึ่งกิโลเมตรก็เป็นมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่ เดินไปแป๊บเดียวก็ถึง มันทำให้เธอประหยัดค่ารถ ประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะ
ม่านทิวาหยิบยาคุมฉุกเฉินออกมาแกะ หยิบเม็ดยาสีขาวเข้าปาก ก่อนกระดกน้ำจากขวดที่เธอซื้อติดมือ กลืนเม็ดยาเล็ก ๆ ลงคอ เธอได้แต่หวังว่าเขาคนนั้นจะไม่เป็นโรคร้ายอะไร ไม่อย่างนั้นชีวิตของเธอแย่แน่
“เฮ้อ ไม่น่าเลยยัยทิวา” อยากจะโขลกกะโหลกตัวเองสักพันรอบจริง ๆ เป็นบ้าอะไร ถึงได้ทำแบบนั้นไปได้
ครืด~ ครืด~ เสียงโทรศัพท์แผดเสียงขึ้น ม่านทิวาจึงวางขวดน้ำลงบนโต๊ะ แล้วเปิดกระเป๋าหยิบมือถือออกมา เบอร์ของมารดาโชว์หราอยู่บนหน้าจอ เธอมองเพียงครู่ก็รีบกดรับ
“ค่ะแม่”
(“เป็นไงบ้างลูก กินข้าวกินปลาบ้างหรือยัง?”) น้ำเสียงปลายสายยังคงเอ่ยถามอย่างห่วงใย เหมือนทุกครั้งที่โทรมาหา
“ยังเลยค่ะ ทิวาเพิ่งตื่น ยังไม่ได้ทำกับข้าวเลย”
(“ไปทำงานเมื่อคืนเป็นไงบ้างลูก”)
“ก็ดีค่ะแม่” หญิงสาวพูดปด เพราะไม่ต้องการให้แม่เป็นห่วง ที่จริงเธอไม่ได้ไปทำงาน แต่ไปดื่มเพื่อคลายความทุกข์มากกว่า
(“ไม่มีใครทำอะไรลูกใช่ไหม?”)
“ไม่ค่ะ ทุกอย่างปกติดี แล้วพ่อกับแม่ล่ะคะ สบายดีหรือเปล่า?”
(“สบายดีจ้ะ”)
“แล้วพ่อล่ะคะ”
(“พ่อเพิ่งออกไปปักเบ็ดที่ทุ่ง ส่วนแม่จะเอาข้าวไปให้เป็ด เดี๋ยวสิ้นเดือนแม่จะส่งปลาแห้ง ปลาผงไข่เป็ด พวกผักต่าง ๆ ไปให้สิ้นเดือนนะ”)
“ค่ะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าทิวาจะส่งเงินไปให้นะคะ แล้วพี่ชายทิวาไปไหนคะแม่?”
(“ไปทำงานในอำเภอจ้ะ”)
“บอกพี่เทวาด้วยว่าทิวาคิดถึง”
(“จ้ะ งั้นแม่วางก่อนนะลูก แม่จะเอาข้าวไปให้เป็ด”)
“ค่ะแม่” พันทิวากดวางสายแล้วถอนหายใจออกมา
พันทิวานั่งลงบนเตียง ในหัวก็หวนคิดถึงบิดามารดา คิดถึงเรื่องราวเก่า ๆ ครอบครัวของเธอไม่ใช่คนมีเงิน ต่างดิ้นรนหาเช้ากินค่ำ ทำนาทำไร่เลี้ยงเป็ด อยู่กันตามอัตภาพ ม่านทิวาอยากเรียนหนังสือ ทางบ้านไม่มีเงินส่งเสีย เธอจึงดั้นด้นมาหางานที่กรุงเทพ
คนบ้านนอกวุฒิการศึกษาแค่มัธยมศึกษาปลาย หางานที่ได้เงินเยอะ ๆ ได้ยากเหลือเกิน งานหายากหนำซ้ำเงินที่ได้มาก็ร่อยหรอลงไปทุกวัน
ชีวิตต้องดิ้นรนทุกอย่าง หางานเหนื่อยล้าทุกวัน แต่โชคยังเข้าข้าง เมื่อม่านทิวาตัดสินใจไปสมัครงานที่คลับ เจ้าของร้านใจดีรับเธอเข้าทำงาน พร้อมกับให้เงินเดือนหมื่นสอง
ตอนนั้นยอมรับว่าดีใจมาก อยู่ไปอยู่มาก็เห็นลู่ทาง จากพนักงานเสิร์ฟก็ผันตัวไปเป็นเด็กเอ็น มีหน้าที่ชงเหล้าเอ็นเตอร์เทนลูกค้า
งานที่คนภายนอกมองไม่ดี แต่ม่านทิวายินดีทำ เธอเป็นตัวท็อปของคลับ ได้ทิปคืนหนึ่งไม่น้อย ทำให้มีเงินเรียนมหาวิทยาลัย มีเงินส่งให้พ่อแม่ไม่เคยขาด ต่อให้สายตาคนภายนอกจะมองแบบไหน สิ่งที่เธอระลึกถึงเสมอนั้นคือเงิน มีเงินครอบครัวก็สบาย ไม่ต้องลำบากมากกว่าที่เป็นอยู่
เธอทำงานที่คลับมาได้สองปีก็ปลูกต้นรักกับเพทายนักร้องหนุ่ม ที่มาเล่นดนตรีสดบ่อย ๆ เธอมีเพื่อนสนิทที่ทำงานด้วยกันชื่อกานดา ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ
ในสายตาม่านทิวา กานดาเป็นผู้หญิงน่ารัก อ่อนหวาน อ่อนโยน เธอมองเพื่อนสนิทเป็นแบบนี้เรื่อยมา จวบจนเมื่อวาน สิ่งที่เธอเคยเห็นเคยคิดก็เปลี่ยนไป กานดาไม่ได้น่ารัก อ่อนโยน อ่อนหวานอย่างที่เธอคิด แต่กลับเป็นงูพิษ ที่คอยฉกชิงคนรักของเธอไป
ม่านทิวามองข้อความของเพทายที่เด้งขึ้นหน้าจอแล้วกดเข้าอ่าน ก่อนจะกดบล็อคเขาทุกช่องทาง ในเมื่อเขาทำร้ายเธอ เอาความรักของเธอมาเหยียบ มากระทืบ มาล้อเล่น เธอก็จะมูฟออนให้เร็ว แล้วใช้ชีวิตตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม
———-
เดี๋ยวมาอีกนะคะ
