พันธะร้าย one night stand

Chapter 1

เสียงเพลงฮิตติดกระแส เรียกให้คนโยกศีรษะและโยกกายไปตามจังหวะดนตรี บูธของดีเจตั้งโดดเด่นอยู่บนพื้นที่ถูกยกระดับขึ้นมา นอกจากนั้นยังมีแสงสปอตไลต์สีแดงกับสีน้ำเงินสาดส่องและกะพริบตามจังหวะของเสียงเพลงอีกด้วย

คลับแห่งนี้มีผู้คนมาใช้บริการจนแน่นขนัดทุกวัน บางคนก็เป็นเซเลป บางครั้งดาราแถวหน้าของเมืองไทย บางครั้งนักธุรกิจชื่อดังและเพื่อน ๆ ต่างก็ชวนกันมาแฮงค์เอ้า

ตรงกลางร้านเป็นฟลอร์ให้นักเต้นเท้าไฟได้ออกมาวาดลวดลายโชว์ของ ชายหญิงที่มาโชว์สเต็ปเทพบนฟลอร์ ล้วนแต่เป็นบุคคลหน้าตาดี ราวกับคัดเกรดกันมาทั้งนั้น

ม่านทิวาเทเหล้าใส่แก้วแล้วกระดกลงคอรวดเดียวราวกับเป็นน้ำเปล่าไร้รสชาติ ใบหน้าสวยไร้รอยยิ้ม นัยน์ตาแดงก่ำ เพราะเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก

ก่อนหน้าที่จะมานั่งดื่มเพื่อคลายความทุกข์ ม่านทิวาจับได้ว่าเพทายนอกกายนอกใจ ไปกินเพื่อนสนิทของเธอเอง ม่านทิวาหลงเชื่อใจ หลงไว้ใจทั้งแฟนและเพื่อนสนิทอยู่ตั้งนาน สุดท้ายก็ถูกสวมเขาเป็นควาย ถ้ากินหญ้ากินฟางแทนข้าวได้ ม่านทิวาคงได้กินไปแล้วหลายมัด

ไม่รู้ว่าทั้งสองแอบทำอะไรลับหลังเธอมานานแค่ไหน รู้แต่ว่าเธอแอบสงสัยมาสักพัก กานดาชอบลงภาพในไอจี เป็นภาพมือของชายหญิง บางครั้งก็เป็นภาพด้านหลังของผู้ชาย ซึ่งม่านทิวาจำได้เป็นอย่างดีว่าเป็นเพทาย ต่อให้เป็นภาพด้านหลัง เธอก็จำเขาได้

ทั้งสองนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง ในห้องนอนของคนรักของเธอ หัวเราะต่อกระซิก ถ้าเธอไม่ไปเอารองเท้าที่ห้องของเพทาย ก็คงไม่เห็นอะไรที่มันทำให้ตาสว่าง คงเป็นคนโง่ให้คนสารเลวหลอกลวง ทำอะไรลับหลังไปอีกนาน

ม่านทิวาตักสินใจลางานสองวัน เพราะไม่ต้องการเจอทั้งสอง เธอไม่ต้องการเห็นพวกมัน เพทายต้องมาวุ่นวาย พยายามอธิบายกับเธอเป็นแน่ แต่ม่านทิวาเชื่อสายตาตัวเอง เชื่อในสิ่งที่เห็น ไม่ใช่คำพูดแก้ตัวของใคร

ม่านทิวาเจ็บปวด ยังทำใจกับเรื่องนี้ยังไม่ได้ ที่จริงเธอไม่ใช่คนอ่อนแอ ที่ผ่านมาเธอเข็มแข็ง ซื่อสัตย์รักผู้ชายเฮงซวยคนนั้น แต่ความซื่อสัตย์ภักดี มันกลับไม่ได้ช่วยอะไรเลย

เป็นคนดี ช่วยเชี่ยอะไรไม่ได้เลย… แล้วจะเป็นคนดีทำกระบืออะไร เป็นแล้วต้องมากินหญ้าเป็นเพื่อนควาย มันช่างไม่คุ้มเอาเสียเลย

“ทำไมวะ! ทำไม ทำไมฉันต้องมาเจอเรื่องเฮงซวยแบบนี้” ม่านทิวากำมือแน่นอย่างเจ็บใจ แต่ไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายแล้ว เจ็บปวดเสียน้ำตาเพราะคนทรยศ แต่พวกมันกลับมีความสุข

แล้วทำไมเธอต้องทุกข์ฝ่ายเดียวด้วยล่ะ ทั้งที่ที่ผ่านมาเธอพยายามทุ่มเทเพื่อความรักทุกอย่าง แสนดีขนาดนี้ ยังโดนนอกใจได้เลย เธอจะไม่เป็นคนดี แต่จะเมาแล้วใช้ชีวิตให้สุดเหวี่ยง

ม่านทิวาสั่งเหล้ามาอีกหลายขวด ดื่มจนหนำใจ ก่อนจะลุกแล้วเดินไปห้องน้ำ แต่เธอเมาหนัก เดินไปนิดเดียวก็เซถลาปะทะกับร่างสูงใหญ่ ดีที่ถูกคว้าเอาไว้ ทำให้ไม่ล้มไปกองกับพื้น

“เป็นบ้าอะไร ถึงได้ดื่มจนเมาเละเทะขนาดนี้” ชายหนุ่มประคองร่างของเธอเอาไว้ เธอปรือตามองเขาก่อนจะหลับตาลง ที่หลับตาลงเพราะตาลาย เธอเมาหนัก แค่เห็นแสงไฟที่มันวูบวาบ ก็เวียนหัวจะตายแล้ว แต่เสียงคนที่พูดกับเธอมันคุ้นมาก คุ้นเหมือนเคยได้ยินที่ไหน

“ฉันอยากเมา ฉันจะดื่ม ใครจะทำไม?!” คนเมาหนักพูดเสียงอ้อแอ ดันอกแกร่งของเขาออกห่างจากกาย กลิ่นน้ำหอมหรูหรา กลิ่นแอลกอฮอล์บนร่างกายของเขา มันชวนให้หลงใหลอยู่ไม่น้อย “ดื่มให้มันตายไปเลย ฉันอยากดื่มให้มันตายไป”

“เมาจนเอาตัวไม่รอดแล้วยังปากดีอีก” คาร์ลอสเสียงเข้ม ผู้หญิงอะไรหน้าตาสวย แต่กลับปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไม่ระมัดระวังตัว ถ้าเมาจนไม่ได้สติ โดนลากไปข่มขืนจะทำยังไง “โดนลากข่มขืนจะทำยังไง?”

“ก็ช่างฉันสิ ยุ่งทำไม?” ปากดีแบบนี้มันน่าปล่อยให้โดนลากไปจริง ๆ

ม่านทิวาดันร่างหนาออกจากตัว เข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา แล้วกลับมาดื่มเหล้าที่โต๊ะดื่มอีกครั้ง เธอจะเมา เธอจะใช้ชีวิตสุดเหวี่ยง ใช้ชีวิตสนุกให้เต็มที่ไปเลย

——————

มาน้อยแต่ก็มานะคะ เดี๋ยวมาอีกค่ะ มันแค่จุดเริ่มของทุกเรื่องนะคะ