บทที่2
ทว่าความคิดทั้งหมดทั้งมวลของหญิงสาวจำต้องอันตธารหายลับไปเมื่อเสียงร้องครางเบาๆ จากแมวตัวอ้วนสีขาวล้วนตัวหนึ่งที่พอเห็นกันก็รีบวิ่งกระดิกหางเข้ามาใกล้ ทำให้ไอรดาต้องย่อตัวลงรับเอา ‘เจ้ามะลิ’ แมวน้อยแสนซนจอมตะกระที่เธอเลี้ยงเอาไว้ได้หลายปีแล้วขึ้นมากอดให้หายคิดถึง
“ไงมะลิ! คิดถึงฉันไหม...” หญิงสาวหวานขึ้นถามก่อนจะได้รับคำตอบเป็นท่าทางออกอ้อนออเซาะตามนิสัยกลับมาให้ ยิ่งเมื่อได้มองแมวในอ้อมแขนมันก็ยิ่งทำให้เธอนึกย้อนไปถึงวันนั้น วันที่ได้พบกับมันครั้งแรกพร้อมๆ กับการสูญเสียบางสิ่งไป...
8ปีก่อน
ภาพของเด็กสาวผมเปียที่กำลังกอดเอาตุ๊กตาตัวโปรดที่ตอนนี้นั้นถูกทาด้วยสีเทียนจนแทบจะจำเคร้าโครงเดิมไม่ได้เดินเล่นที่ริมหาดทรายนั้นถูกจับตามองจากใครอีกคนที่กำลังนั่งส่องกล้องทางไกลมองดู ‘ศัตรู’ อยู่บนบ้านต้นไม้หลังงามของตัวเอง
ชลพีจ้องมองเป้าหมายอยู่เพียงครู่ก็หยิบเอาหนังสติกคู่ใจที่มักจะพกติดตัวไปไหนมาไหนด้วยเสมอขึ้นมาถือเอาไว้พร้อมๆ กับก้อนหินเล็กๆ ที่เขาเก็บมาจากชายหาดเมื่อชั่วโมงก่อนจากนั้นก็เล็งและยิงมันใส่คนที่อยู่เบื้องล่างอย่างแรง
“อะ...โอ้ย!!!” เสียงร้องจากคนที่เพิ่งจะถูกก้อนหินดีดใส่ที่หน้าท้องทำเอาตัวการร้ายแทบจะหลุดขำออกมาในทันที แต่ไม่นานก็ต้องชักสีหน้าเฉยชาใส่ยามเมื่อเห็นดวงตาใสแป๋วเงยขึ้นมามองหน้ากันราวกับจะรู้ว่าเขาอยู่ข้างบนนี้ตลอดเวลาก็ไม่ปาน แต่ถึงรู้ก็ช่างเพราะมันไม่ใช่เรื่องของเขาอยู่ดีที่ต้องไปสนใจ
“นี่พี่พีแกล้งไออีกแล้วเหรอคะ” ไอรดาเอ่ยขึ้นเบาๆ อย่างน้อยใจ ดวงตากลมโตใสซื่อจ้องมองคนใจร้ายที่ชอบแกล้งกันไม่เว้นแต่ละวันอย่างท้อใจ ไม่รู้ทำไมเขาถึงชอบแกล้งกันนัก!
“อย่ามากล่าวหากันนะยัยเด็กโง่ อีกอย่างเธอมีหลักฐานรึไงว่าฉันเป็นคนทำ” หญิงสาวส่ายหน้าแทบคำตอบ เธอก็แค่รู้แต่ก็ไม่เคยมีหลักฐานอะไรไปมัดตัวเขาได้เลยสักครั้ง
แต่ที่แน่ๆ ต้องเป็นเขานั่นแหละ! เพราะนอกจากเขาแล้วก็คงไม่มีใครอีกที่จะกล้าแกล้งกันแรงๆ แบบนี้ได้ ไม่นานใบหน้าอ่อนหวานก็หันไปยังทะเลเมื่อหูแว่วได้ยินเสียงบางอย่างที่กำลังลอยคอร้องขอความช่วยเหลืออยู่ในน้ำเข้าให้ซะก่อน
เมี้ยววว
“ลูกแมวนี่น่า...พี่พีคะ ลงมาดูสิคะมีลูกแมวอยู่ในทะเลด้วย” ชลพีจ้องมองออกไปตามมือเล็กๆ ที่กำลังชี้ไปยังกลางทะเล ไม่นานเด็กหนุ่มก็ตัดสินใจหยิบเอากล้องส่องทางไกลขึ้นมาถือและส่องมองลงไปถึงได้พบว่าตอนนี้นั้นมีลูกแมวสีขาวตัวหนึ่งกำลังตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดอยู่กลางทะเล
เขาคิดว่าบางทีมันคงจะออกมาเดินเล่นแล้วโชคร้ายถูกน้ำทะเลซัดลงไป แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ใช่เรื่องอะไรของเขาอยู่ดี หากแต่ใครอีกคนกลับไม่ได้คิดแบบเดียวกันเพราะทันทีที่เขาวางกล้องในมือลงเสียงใสๆ ก็ตะโกนร้องบอกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“พี่พีรีบลงมาช่วยมันเข้าสิคะ!” ชลพีไม่ได้เอ่ยตอบอะไรกลับมานอกจากพาร่างสูงใหญ่เกินวัยของตัวเองค่อยๆไต่บันไดเล็กๆ ลงมาจากบ้านไม้ที่เขาหวงแหงเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ไม่นานชายหนุ่มก็มาหยุดตรงหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้โตสะพรั้งเป็นสาวเต็มตัวหากแต่ก็ยังมีนิสัยติดตุ๊กตาเน่าที่หล่อนว่าแม่เป็นคนให้ไว้ก่อนตาย ทำตัวเหมือนเด็กอายุแปดขวบไม่มีผิด!
“ทำไมฉันต้องช่วยมันด้วย!”“แต่มันน่าสงสารออกนะคะ มันอาจจะจมน้ำได้...” ไอรดาเอ่ยบอกก่อนจะหันไปมองลูกแมวน้อยด้วยความสงสาร
“เธออยากช่วยทำไมไปว่ายน้ำไปช่วยมันเองล่ะ!” ชลพีย้อนถามพร้อมกับส่งยิ้มเยาะเย้ยให้คนตรงหน้าทันทีที่พูดจบ มันไม่มีความจำเป็นอะไรเลยสักนิดที่เขาจะต้องลดตัวลงไปช่วยไอ้แมวนั่นตามคำขอร้องของเธอ เรื่องของเขารึก็ไม่ใช่! ชายหนุ่มคิดกับตัวเองในใจก่อนจะจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา
คนอะไรใจดำชะมัดเลย
เขาน่าจะรู้ทั้งรู้ว่าเธอว่ายน้ำได้เสียที่ไหนกันก็ยังมาพูดจาแบบนี้ใส่กันอยู่อีก หญิงสาวคิดในใจก่อนจะจ้องมองคนใจร้ายเพื่อหาวิธีทำให้เขายอมเปลี่ยนใจช่วยลูกแมวที่น่าสงสาร
“พี่พี...เอ่อ คุณพีคะ ช่วยมันหน่อยเถอะนะคะ ถือว่าไอขอร้องก็ได้ หรือถ้าคุณพีอยากจะให้ไอทำให้อะไรก็บอกมาได้เลย ไอยอมทำตามที่คุณพีสั่งทุกอย่างเลยค่ะ ขอแค่คุณพีช่วยมันก็พอ นะคะ” ทว่าเมื่อได้ยินประโยคนี้เข้าคนที่ทำท่าว่าจะใจแข็งก็กระตุกยิ้มขึ้นมาเหมือนคนมีแผนร้าย ซึ่งมันเป็นรอยยิ้มที่ไอรดารู้สึกไม่ชอบมันเสียเลย ยิ้มของคนใจร้ายที่ชอบแกล้งกัน
