CHAPTER 3 จากรักกลายเป็นแค้น
กลิ่นเหล้าขมปร่าลอยคลุ้งไปทั่วห้อง หมื่นลี้นั่งกุมแก้วไว้ในมือ สายตาขุ่นมัวและแดงก่ำจากฤทธิ์สุรา เขาดื่มไม่ยั้งเหมือนตั้งใจจะใช้มันล้างบางความเจ็บปวดในอก เสียงประตูเปิดออกเบาๆ ก่อนที่แม่ของเขาจะก้าวเข้ามา
“เดย์ จะไปเสียใจอะไรกับผู้หญิงอย่างนั้นเล่า” เสียงของเธอทุ้มเรียบ แต่แฝงความเย็นชา
“คุณแม่รู้ได้ยังไงว่าผมเป็นอะไร?” เขายังไม่เคยแนะนำยี่หวาให้รู้จักกับคนในครอบครัวของเขาสักคน แววตาของเขาจ้องมองแม่ตัวเอง
“อะไรที่เกี่ยวกับลูกแม่รู้หมดแหละ”
“ตั้งแต่เล็กจนโตแม่อุ้มผมกี่ครั้ง อย่ามาทำเป็นรู้จักผมดี” เขาหันไปหยิบขวดเหล้าเทลงแก้ว แต่ถูกแม่คว้าเอาไว้เสียก่อน
“ตาเดย์! แม่รักลูกนะพ่อของลูกสอนลูกให้เกลียดแม่ตัวเอง” ฐิตารีไม่ยอมรับว่าตัวเองบกพร่องในหน้าที่แม่แค่ไหน
“แม่มาทำอะไรที่นี่”
“แม่มาหาลูกนะสิ” คนเป็นแม่มองลูกชายที่เสียผู้เสียคนเพราะผู้หญิงคนเดียว
“แม่ เขาไปแล้วทำไมไม่อยู่กับผม ฮึก~” เขาเงยหน้ามองด้วยดวงตาที่พร่าเบลอ น้ำเสียงแตกพร่าตอบกลับ
“ก็เพราะนังเด็กนั่นหนีไปกับผู้ชายคนอื่นไงลูก ผู้หญิงคนนั้นไม่คู่ควรกับความรักของเจ้าเลยสักนิด แม่รู้จึงมาหาเดย์ไง” ฐิตารีหยุดยืนตรงหน้า วางภาพถ่ายบางอย่างลงบนโต๊ะอย่างจงใจ
หมื่นลี้เบิกตากว้าง ก่อนจะกวาดคว้าเอารูปถ่ายเหล่านั้นขึ้นมาดูเป็นภาพที่ยี่หวากำลังหัวเราะอยู่กับชายแปลกหน้า ภาพที่ถูกจัดวางมุมอย่างแนบเนียนราวกับเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ
“ไม่จริง…” เขาพึมพำเหมือนคนสิ้นหวัง แต่ยิ่งมองภาพเหล่านั้น หัวใจของเขายิ่งถูกบีบจนแทบแตกสลาย “ยี่หวา ทำไมถึงทำกับเดย์แบบนี้”
“เดย์ผู้หญิงแค่คนเดียว...” ฐิตารีเพียงยกยิ้มมุมปาก
“ออกไป”
“เดย์นี่แม่นะ”
“ออกไป” เขาไม่สนใจแม่ตัวเอง จนคนเป็นแม่ต้องยอมออกไป
หมื่นลี้กำแก้วเหล้าแน่นจนเส้นเลือดที่ข้อมือปูดนูน เขากรอกเหล้าเข้าปากจนหมดขวด ร่างสั่นสะท้านด้วยทั้งฤทธิ์สุราและความแค้นที่ก่อตัว
“เธอเลือกผู้ชายคนนั้น เธอกล้าหักหลังฉัน…” ความรักที่เคยอ่อนหวาน กลับถูกเผาไหม้จนเหลือเพียงความเกลียดชัง
6 เดือนผ่านไป
เสียงพูดคุยจอแจในโรงอาหารคณะวิศวะดังระงมไปทั่ว ทุกโต๊ะเต็มไปด้วยนักศึกษาที่นั่งรวมกลุ่มกินข้าวพูดคุย และเมาท์กันอย่างสนุกสนาน
ยี่หวา วันวิวาห์ ดาวมหาลัยปีสองใบหน้าสวยหวานแต่แฝงความมั่นใจ นั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนสนิทของเธอเสียงหัวเราะคิกคักดังแทรกขึ้นมาจากโต๊ะข้างๆ
“ได้ยินหรือยังปีนี้มีรุ่นน้องเข้ามาใหม่ หล่อมากกกก!”
“ใช่ๆ ฐานะดีสุดๆ ด้วย ไม่งั้นคงไม่โอนเข้ากลางปีได้แบบนี้หรอก”
“ใครวะ อยากเห็นหน้าแล้วอะ!”
“หวาๆๆ เขาว่าหล่อมากเลยนะ เดี๋ยวสักพักต้องมีคนแอบถ่ายมาแชร์แน่” เสียงเมาท์สนั่นจนเพื่อนของยี่หวาหันไปกระซิบ
เธอแค่ยกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะตักข้าวเข้าปากอย่างไม่สนใจนัก เธอไม่ได้อินกับข่าวลือเท่าไรนัก คนหน้าตาดีมีเงินเธอก็เห็นมาเยอะแล้ว ที่สำคัญเธอมีเป้าหมายชัดเจนในชีวิต เรียนให้จบในสิ่งที่ตัวเองรักอย่างวิศวะคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่มัวแต่วุ่นวายตามกระแส
“ไม่เห็นน่าสนใจเลย” ยี่หวาพูดเรียบๆ ขณะยกแก้วน้ำดื่ม
“อ้าววว ดาวมหาลัยไม่อินเลยเหรอ” เตยหอมร้องขึ้น ในสาขามีผู้หญิงไม่กี่คน ทั้งสองเลยสนิทกันมาก
“หล่อรวยแล้วไงฉันขอแค่เรียนให้ดีพอ แล้วทำสิ่งที่อยากทำก็พอแล้ว” เธอยิ้มบางๆ พลางส่ายหัว
“ก็เป็นแบบนี้ถึงไม่มีแฟน”
ยี่หวาทำช้อนร่วงจากมือทำให้เธอนึกถึงผู้ชายที่เธอทำร้ายจิตใจเขา ป่านนี้หมื่นลี้จะเป็นยังไงบ้าง หรือมีคนใหม่ไปแล้ว
“เป็นอะไรแค่ล้อเล่นเอง” เตยหอมทำหน้างุนงง
“เปล่านะไม่มีอะไร”
“ถามหน่อยหวา ทำไมเธอไม่รักไอ้ธามอ่ะ” เพื่อนยากรู้เช่นกัน
“ไอ้ธามบ้านรวยจะตาย” แป้งหอมทำหน้าเสียดาย
“คนไม่รักก็คือไม่รัก รักเพราะบ้านรวยเขาเรียกว่ารักที่ไหน” เพราะสำหรับเธอเพื่อนก็คือเพื่อน ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้
“มีใครพูดถึงเราอยู่เหรอ”
“ว้าย ไอ้บ้าธามตกใจหมด” เตยหอมร้องลั่นไม่คิดว่าคนที่พูดถึงจะมายื่นอยู่ตรงหน้า
“ใครพูดถึงเราเหรอ” ธามไทหนุ่มหล่อตี๋บ้านรวยนั่งลง ข้างๆ ยี่หวาพร้อมส่งยิ้มให้สาวๆ เพื่อนในสาขา
“ยี่หวาวันนี้ไปดูหนังกันไหม”
“วันนี้เราไม่ว่างเลย”
แต่ในขณะเดียวกันเสียงซุบซิบรอบโรงอาหารก็ยิ่งดังขึ้น ทุกสายตาเหมือนกำลังหันไปยังทางเข้า ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามา ใบหน้าคมสันสะดุดตาในทันที และนั่นทำให้บรรยากาศทั้งโรงอาหารเงียบกว่าปกติ
“นั่นแหละ! คนที่เขาพูดถึง!” เตยหอมเริ่มกรี๊ดเบาๆ แต่ยี่หวาเพียงก้มหน้าตักข้าวต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอไม่รู้เลยว่า สายตาคมดุคู่นั้นกำลังมองตรงมาที่หญิงสาว
หลังจากทานข้าวเสร็จเพื่อนๆ ของยี่หวาพากันเก็บถาด พร้อมชวนกันไปเดินเล่นต่อที่ห้างใกล้มหาวิทยาลัย
“หวาไปด้วยกันมั้ย เดี๋ยวเราเลี้ยงชาไข่มุกเอง”
“ใช่ๆ วันนี้อยากช็อปปิ้งหน่อยไปด้วยกันสิ” แป้งหอมอยากไปเดินเล่นเหมือนกัน
“ไม่ละ วันนี้รู้สึกเหนื่อยอยากกลับไปนอนที่คอนโดมากกว่า” ยี่หวายิ้มบางๆ แต่ก็ส่ายหัวเบาๆ
“ชวนไปไหนไม่ได้เลยหรือมีรออยู่ที่บ้านกัน”
“จะบ้าหรือไงฉันจะมีใครได้”
“เดี๋ยวไอ้ธามมันเสียใจเอา” แป้งหอมหัวเราะเพราะรู้ดีว่าธามไทแอบรักยี่หวามาตั้งแต่ปีหนึ่ง
ธามไทยิ้มแห้งๆ สามปีที่ผ่านมาพยายามเปลี่ยนใจยี่หวามาโดยตลอด แต่เหมือนยิ่งตามตื๊อหญิงสาวยิ่งห่างออกไปเรื่อยๆ
“พรุ่งนี้เจอกันนะ” เพื่อนทำหน้าเสียดาย ก่อนจะบอกลาและเดินไปด้วยกัน ทิ้งให้ยี่หวาเดินแยกออกไปตามลำพัง
เธอก้าวเท้าเรียวไปที่ลานจอดรถ มือถือถูกหยิบขึ้นมาเปิดเพลงเบาๆ ระหว่างทางท่ามกลางบรรยากาศช่วงบ่ายที่แดดเริ่มอ่อนลง เสียงรถราวิ่งผ่านถนนด้านนอกดังแผ่วๆ แต่สิ่งที่ยี่หวาไม่รู้เลยก็คือ มีใครบางคนกำลังตามหลังเธอมาอย่างเงียบเชียบ
ร่างสูงในชุดนักศึกษาชายใหม่ที่เพิ่งเป็นข่าวลือในโรงอาหารเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เดินทอดน่องตามห่างๆ ดวงตาคมกริบจับจ้องไปที่แผ่นหลังบอบบางนั้นตลอดเวลา
ทุกย่างก้าวของหญิงสาว เขาก็ขยับตามอย่างมีจังหวะ ไม่ใกล้จนเกินไป แต่ก็ไม่ปล่อยให้เธอคลาดสายตากระทั่งยี่หวาเดินไปถึงรถกดรีโมตเปิดประตู แล้วรีบขึ้นไปนั่งโดยไม่เหลียวหลังแม้แต่น้อย
เสียงสตาร์ทรถดังขึ้น ก่อนรถคันหรูของเธอเคลื่อนตัวออกไปบนถนนใหญ่ ริมฝีปากของชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากจางๆ แววตาเต็มไปด้วยความหมายที่ยากจะเดาได้เย็นชา และบางส่วนก็เจือปนความโหยหา
“ในที่สุดเราก็ได้เจอกันอีกครั้งยี่หวา ผู้ชายคนใหม่ของเธอคงเลี้ยงดูเธอดีไม่น้อยถึงได้มีรถขับ”
เขายืนมองไฟท้ายรถของเธอหายไปจากสายตา พร้อมกับความคิดที่หนักแน่นในใจต่อให้เธอหนี เขาก็จะตามไม่ว่าที่ไหนก็ตาม
เขารู้แค่ว่าบ้านของยี่หวาไม่มีอะไรเลย แม่ยังชอบทำงานอย่างว่าและมียี่หวาตั้งแต่อายุสิบแปด คนหาเช้ากินค่ำจะเอาปัญญาที่ไหนไปซื้อรถหรูขับ และอยู่คอนโดหรูเสียขนาดนั้น หรือไม่เธออาจจะไปเป็นเมียน้อยของคนรวย
“ต่อให้เธอสกปรกแค่ไหนฉันจะเอาเธอมาทรมาน”
