เช็คของ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ขวัญข้าวสะดุ้งเล็กน้อย เธอไม่แน่ใจว่าเป็นใคร เธอค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินไปยังประตู มองผ่านตาแมว ภาพที่เห็นคือ กฤต ยืนอยู่หน้าห้อง
ขวัญข้าวรีบเปิดประตูให้กฤตเข้ามาในห้อง
"คุณกฤต สวัสดีค่ะ" ขวัญข้าวยกมือไหว้ กฤตก็รีบตอบด้วยท่าทีเกรงใจ
"คุณขวัญ ไม่ต้องไหว้ก็ได้ครับ" กฤตกล่าวพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย
"ไม่เป็นอะไรค่ะ" ขวัญข้าวตอบด้วยความนอบน้อม ก่อนจะหลีกทางให้กฤตเข้ามาในห้อง เมื่อกฤตเดินเข้ามาแล้ว ขวัญข้าวจึงเดินไปปิดประตู
"คุณขวัญทานข้าวหรือยังครับ" กฤตถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงเป็นใยเธอ
"ทานเรียบร้อยแล้วค่ะ ขวัญพึ่งลงไปซื้อมานะคะ พอดีในตู้เย็นไม่มีอะไรเลย" ขวัญข้าวอธิบายให้ชายหนุ่มฟัง
กฤตพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของขวัญข้าว "ใช่ครับ ปกติคุณครามจะทานอาหารข้างนอกหรือไม่ก็สั่งมาทานเองมากกว่า" กฤตอธิบาย
"อ๋อ ค่ะ" ขวัญข้าวพยักหน้าเข้าใจ
"พอดีวันนี้คุณครามให้มารับคุณขวัญไปโรงพยาบาลนะครับ" กฤตพูดด้วยน้ำเสียงที่เห็นใจขวัญข้าว
เมื่อได้ยินคำว่าโรงพยาบาล เธอก็มีสีหน้าตกใจเล็กน้อย
"โรงพยาบาล...ไปทำไมเหรอคะ" ขวัญข้าวถามด้วยความกังวล
กฤตมองเธอด้วยสายตาที่เห็นใจ "คุณครามเขาให้พาคุณขวัญ...ไปตรวจร่างกายครับ"
"ตรวจร่างกาย..." ขวัญข้าวยิ่งสงสัย "ทำไมต้องตรวจร่างกายด้วยคะ"
กฤตถอนหายใจแผ่วเบา "คุณขวัญลืมไปแล้วหรอครับว่าคุณครามเขาซื้อคุณมา คุณครามเขาก็อยากเช็คว่าคุณขวัญปลอดภัย หรือมีโรคอะไรหรือเปล่า"
เมื่อได้ยินคำอธิบายของกฤต ขวัญข้าวก็รู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง ใช่สิ...เธอถูกซื้อมา เขาคงอยากจะตรวจสอบ "สินค้า" ของเขาว่าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์หรือไม่ ความรู้สึกอับอายและเสียใจถาโถมเข้ามาอีกครั้ง
"ค่ะ..." ขวัญข้าวตอบเสียงแผ่ว เธอหลุบตาลงต่ำ พยายามซ่อนหยาดน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอเบ้า
"งั้น...รอขวัญสักครู่นะคะ" เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็ว
กฤตมองตามแผ่นหลังของขวัญข้าวไปด้วยความรู้สึกเห็นใจ เขาเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ว่าจะรู้สึกอย่างไร
ภายในห้องนอน ขวัญข้าวยืนพิงประตู ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างเงียบ ๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงวัตถุที่ถูกจับจ้องและตรวจสอบ เธอเกลียดความรู้สึกนี้เหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็รู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่น เธอเข้าใจดีว่าเขาต้องตรวจสอบสินค้าเป็นอย่างดี เพราะสถานที่ที่เขาพาเธอมา ก็เป็นเหมือนแหล่งอบายมุข เธอต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
ขวัญข้าวสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามรวบรวมความเข้มแข็ง เธอเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า และเดินไปเอากระเป๋าใบเล็กที่ติดตัวมาก ในนั้นมีเพียงกระเป๋าเงินใบเล็ก ลิปสติกหนึ่งแท่งและตลับแป้งฝุ่น เธอรีบแต่งหน้าลบรอยน้ำตาที่ไหลเมื่อครู่ออก เมื่อแต่งตัวเรียบร้อย ขวัญข้าวก็เดินไปที่กระจก เพื่อเช็คความเรียบร้อยก่อนจะเดินออกจากห้องนอนด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยขึ้น
"ขวัญพร้อมแล้วค่ะ" เธอกล่าวกับกฤตด้วยน้ำเสียงที่พยายามควบคุมให้เป็นปกติ
กฤตพยักหน้าเล็กน้อย "ครับ งั้นเดี๋ยวเราไปกันเลยนะครับ"
ทั้งสองเดินออกจากคอนโดไปยังรถที่จอดรออยู่ด้านล่าง โดยไม่มีใครพูดอะไรอีก...ความเงียบปกคลุมบรรยากาศระหว่างทางไปยังโรงพยาบาล
เมื่อถึงโรงพยาบาล กฤตก็พาขวัญข้าวไปยังแผนกตรวจสุขภาพตามนัดหมาย เจ้าหน้าที่พยาบาลเข้ามาสอบถามข้อมูลเบื้องต้น และนำเธอไปยังห้องตรวจ
ภายในห้องตรวจ คุณหมอหญิงรออยู่แล้ว เธอทักทายขวัญข้าวด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น
"สวัสดีค่ะคุณ... ขวัญข้าวใช่ไหมคะ" คุณหมอกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
ขวัญข้าวพยักหน้ารับ เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย แต่ก็พยายามควบคุมท่าที
คุณหมอเริ่มทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด สอบถามประวัติสุขภาพ และตรวจวัดสัญญาณชีพต่าง ๆ ขวัญข้าวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เธอทำตามคำแนะนำของคุณหมอทุกอย่างโดยไม่ได้ปริปากบ่นหรือถามอะไร
ระหว่างการตรวจ ขวัญข้าวรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงวัตถุที่ถูกตรวจสอบ แต่ท่าทีที่อ่อนโยนและเป็นมืออาชีพของคุณหมอก็ทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้นบ้างเล็กน้อย
หลังจากตรวจร่างกายเบื้องต้นเสร็จสิ้น คุณหมอได้สั่งให้มีการเจาะเลือดเพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์เพิ่มเติม เมื่อการตรวจทุกอย่างเสร็จสิ้น ขวัญข้าวก็กล่าวขอบคุณและเดินออกจากห้องตรวจ
กฤตที่รออยู่ด้านนอกเดินเข้ามาหาเธอด้วยความเป็นห่วง
"เสร็จเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับคุณขวัญ" เขากล่าวถาม
ขวัญข้าวพยักหน้า "ค่ะ"
กฤตมองดูนาฬิกาและเห็นว่าเป็นเวลาใกล้เที่ยง เขาจึงชวนขวัญข้าวไปทานอาหารกลางวันก่อน
"ไปทานข้าวกลางวันกันก่อนนะครับคุณขวัญ ใกล้เที่ยงแล้ว เดี๋ยวค่อยไปเลือกซื้อเสื้อผ้าต่อ" กฤตกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ขวัญข้าวพยักหน้าเห็นด้วย "ค่ะ ก็ดีเหมือนกันค่ะ ขวัญก็เริ่มหิวแล้ว"
"ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวผมพาไปร้านอาหารอร่อย ๆ ใกล้ ๆ นี้ก็แล้วกันนะครับ" กฤตเสนอ
"ขอบคุณค่ะ" ขวัญข้าวตอบด้วยความเกรงใจ
ทั้งสองเดินออกจากโรงพยาบาลไปยังรถ กฤตเปิดประตูให้ขวัญข้าวขึ้นไปนั่ง เมื่อเขาขึ้นมานั่งที่คนขับเรียบร้อยแล้ว รถก็เคลื่อนตัวออกจากโรงพยาบาล ระหว่างทางไปร้านอาหาร กฤตได้ชวนขวัญข้าวพูดคุยบ้างเล็กน้อย เพื่อให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและไม่เกร็ง
"คุณขวัญชอบทานอาหารประเภทไหนครับ" กฤตถามด้วยความเป็นกันเอง
ขวัญข้าวคิดอยู่ครู่หนึ่ง "จริง ๆ แล้วขวัญทานได้ทุกอย่างค่ะ"
"ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวผมเลือกร้านที่อาหารอร่อย ๆ หลากหลายให้ลองนะครับ" กฤตกล่าว
ไม่นานนัก รถก็จอดสนิทที่หน้าร้านอาหารบรรยากาศดีแห่งหนึ่ง กฤตลงจากรถและเดินไปเปิดประตูให้ขวัญข้าว
"เชิญครับ" กฤตผายมือ
ขวัญข้าวลงจากรถ มองร้านอาหารด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ เธอไม่เคยเข้าร้านอาหารหรู ๆ แบบนี้มาก่อน
ทั้งสองเดินเข้าไปข้างใน พนักงานต้อนรับพาพวกเขาไปยังโต๊ะที่จัดเตรียมไว้ให้
"คุณขวัญอยากทานอะไรสั่งได้เลยนะครับ วันนี้นายให้ผมดูแลคุณเต็มที่" กฤตกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ขวัญข้าวมองเมนูอาหารด้วยความเกรงใจ เธอไม่กล้าสั่งอาหารราคาแพง ๆ
"เอ่อ...อะไรก็ได้ค่ะ ที่คุณกฤตทานก็ได้ค่ะ" ขวัญข้าวตอบอย่างสุภาพ
"ไม่ต้องเกรงใจครับ สั่งที่อยากทานได้เลย" กฤตให้กำลังใจ
ขวัญข้าวเปิดเมนูดูอีกครั้ง และตัดสินใจสั่งอาหารจานเดียวง่าย ๆ ที่เธอคุ้นเคย ส่วนกฤตก็สั่งอาหารตามใจชอบ
ระหว่างรออาหารที่สั่งไป กฤตก็ชวนขวัญข้าวคุยด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง
"คุณขวัญสบายดีไหมครับ ตั้งแต่เมื่อวานอาจจะตกใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น" กฤตถามด้วยความเป็นห่วง
ขวัญข้าวเงยหน้าขึ้นมองกฤตเล็กน้อย ก่อนจะตอบเสียงแผ่ว "ก็...ยังตกใจอยู่บ้างค่ะ แต่ก็ดีขึ้นแล้ว ขอบคุณคุณกฤตนะคะ"
"ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ นั่นเป็นคำสั่งของคุณครามครับ" กฤตยิ้มบาง ๆ "คุณขวัญเป็นคนที่ไหนเหรอครับ" เขาถามเพื่อชวนคุย
ขวัญข้าวลังเลเล็กน้อย ก่อนจะตอบ "พ่อกับแม่ขวัญมาจากต่างจังหวัดค่ะ แต่ขวัญเกิดที่นี่ ตั้งแต่แม่เสียไปขวัญก็ไม่ได้กลับต่างจังหวัดนานแล้วค่ะ"
"ผมเสียใจด้วยน่ะเรื่องแม่คุณ...ขอโทษที่ผมพูดถึง" กฤตกล่าว
"ไม่เป็นไรค่ะคุณกฤต เรื่องมันนานมากแล้ว" ขวัญข้าวตอบสั้น ๆ แต่ในใจก็คิดถึงแม่ขึ้นมา
กฤตสังเกตเห็นความเงียบของขวัญข้าว จึงเปลี่ยนเรื่อง "คุณขวัญเรียนจบคณะอะไรมาเหรอครับ"
"ขวัญจบแค่ ม.หก นะคะ ไม่ได้เรียนต่อ ต้องออกมาช่วยพ่อหาเงินนะคะ" ขวัญข้าวตอบตามความจริง
"ครับ" กฤตกล่าว ในใจเขาก็รู้สึกสงสารเธอที่ไม่ได้เรียนต่อตามที่ใจต้องการ
อาหารที่สั่งไว้เริ่มทยอยมาเสิร์ฟ กลิ่นหอมของอาหารช่วยดึงความสนใจของขวัญข้าวได้บ้าง
"ทานกันเถอะครับ" กฤตกล่าวเชิญ
ขวัญข้าวพยักหน้าและเริ่มทานอาหารตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ กฤตเองก็ทานอาหารของตัวเอง โดยไม่ได้เร่งรีบหรือกดดันให้ขวัญข้าวต้องพูดคุยอะไรมากมาย เพียงแต่คอยสังเกตและดูแลเธออยู่ห่าง ๆ
หลังจากที่ขวัญข้าวและกฤตทานอาหารกลางวันเสร็จเรียบร้อยแล้ว กฤตก็พาเธอไปยังห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีร้านเสื้อผ้าหลากหลายแบรนด์
เมื่อเข้าไปในร้านเสื้อผ้า ขวัญข้าวก็รู้สึกตาลายกับเสื้อผ้าสวย ๆ ที่แขวนเรียงราย แต่เมื่อเธอมองป้ายราคา ก็ต้องตกใจกับตัวเลขที่สูงเกินกว่าที่เธอเคยจ่ายไหว
เธอเดินตามกฤตเข้าไปในร้านแล้วร้านเล่า สายตาของเธอชื่นชมเสื้อผ้าเหล่านั้น แต่ก็ไม่กล้าหยิบหรือเอ่ยปากเลือกสักที
กฤตสังเกตเห็นท่าทีลังเลของขวัญข้าว จึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
"คุณขวัญชอบชุดไหนเป็นพิเศษไหมครับ"
ขวัญข้าวส่ายหน้าเบา ๆ "สวย ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ แต่...ราคาสูงมากเลยค่ะ" เธอพูดเสียงแผ่ว
กฤตยิ้มอย่างเข้าใจ "ไม่ต้องกังวลเรื่องราคานะครับ คุณครามให้บัตรเครดิตคุณขวัญมาใช้ได้เต็มที่เลยครับ เลือกที่ชอบได้เลย"
ขวัญข้าวถึงกับชะงัก เธอไม่กล้าใช้เงินของคนที่เธอเพิ่งรู้จัก และเป็นคนที่ซื้อตัวเธอมา
"ไม่ต้องเกรงใจครับ ถือว่าเป็นของขวัญจากคุณครามก็ได้ครับ เลือกที่คุณขวัญชอบเลยครับ" กฤตให้กำลังใจ
ขวัญข้าวมองหน้ากฤตด้วยความรู้สึกขอบคุณ เธอค่อย ๆ เดินไปดูเสื้อผ้าอีกครั้ง แต่ก็ยังคงลังเลที่จะหยิบเพราะมันแพงมาก เกิดมายังไม่เคยใส่แพงขนาดนี้มากก่อน
"ขวัญว่าเราไปชื้อข้างนอกดีกว่ามั้ยคะ ที่นี่มันแพงเกิน ขวัญไม่เคยใส่อะไรที่แพงขนาดนี้มาก่อนเลยคะ เสียดายเงินไปเปล่า ๆ " ขวัญข้าวเอ่ยด้วยความเกรงใจ
กฤตยิ้มอย่างนุ่มนวล "คุณขวัญไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นเลยครับ คุณครามตั้งใจให้คุณขวัญซื้อที่นี่ เลือกที่คุณขวัญชอบจริง ๆ นะครับ ไม่ต้องคิดมากเรื่องราคา"
ขวัญข้าวมองหน้ากฤตอย่างไม่แน่ใจ "แต่..."
"ไม่มี 'แต่' ครับ ถือว่าเป็นคำสั่งของคุณครามนะครับ เลือกซื้อได้ตามสบายเลยครับ ผมรอได้" กฤตกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแต่ก็ยังคงสุภาพ
เมื่อได้ยินคำว่า "คำสั่ง" ขวัญข้าวก็รู้สึกเหมือนไม่มีทางเลือกอื่น เธอถอนหายใจเบา ๆ และเริ่มเดินดูเสื้อผ้าอีกครั้ง คราวนี้เธอพยายามที่จะไม่มองป้ายราคามากนัก และเลือกเสื้อผ้าที่เธอรู้สึกชอบจริง ๆ เธอเลือกมาแค่ไม่กี่ชุด
เมื่อกฤตเห็นว่าขวัญข้าวเลือกเพียงไม่กี่ชุดด้วยท่าทีเกรงใจ เขาจึงหันไปสั่งพนักงานในร้านด้วยน้ำเสียงสุภาพ
"รบกวนช่วยเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะกับคุณขวัญให้ด้วยนะครับ เอาแบบที่คุณผู้หญิงใส่สบาย ๆ และดูดีนะครับ เลือกได้ตามสบายเลยครับ ไม่ต้องเกรงใจ" กฤตกล่าวกับพนักงานขาย
พนักงานขายยิ้มและพยักหน้า ก่อนจะเดินเข้าไปเลือกเสื้อผ้าให้ขวัญข้าวเพิ่มเติม ทั้งชุดเดรส เสื้อ กางเกง และชุดลำลองหลากหลายสไตล์
ขวัญข้าวยืนมองด้วยความรู้สึกเกรงใจ
พนักงานขายนำเสื้อผ้ามาให้ขวัญข้าวลองหลายชุด กฤตช่วยออกความเห็นบ้างในบางครั้ง และให้กำลังใจให้ขวัญข้าวเลือกสิ่งที่เธอชอบจริง ๆ
ในที่สุด ขวัญข้าวก็ได้เสื้อผ้าใหม่หลายชุดตามที่กฤตตั้งใจไว้
"ขอบคุณมากนะคะคุณกฤต" ขวัญข้าวกล่าวด้วยรอยยิ้มที่สดใสขึ้น
"ยินดีครับ คุณขวัญชอบก็ดีแล้วครับ" กฤตตอบด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
