ผู้หญิงของท่านประธาน
"แล้วเราจะไปไหนต่อคะ" ขวัญข้าวถามด้วยความเกรงใจ
กฤตยิ้มและเดินนำขวัญข้าวไปยังอีกฝั่งของห้าง
"เดี๋ยวเราแวะร้านนี้กันหน่อยนะครับ" กฤตกล่าวพลางผายมือไปยังร้านเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ชื่อดัง
ขวัญข้าวมองด้วยความสงสัย เธอไม่ค่อยคุ้นเคยกับเครื่องสำอางราคาแพงเหล่านี้
"มาซื้ออะไรเหรอคะ" ขวัญข้าวถามเสียงแผ่ว
"วันนี้คุณครามให้ผมพาคุณขวัญมาซื้อของทุกอย่างที่จำเป็น" กฤตตอบ "เลือกที่คุณขวัญชอบได้เลยนะครับ"
ขวัญข้าวถึงกับชะงักอีกครั้ง เธอไม่เคยคิดว่าเธอจะได้รับอะไรแบบนี้
"เอ่อ...ไม่เป็นไรมั้งคะ ขวัญไม่ค่อยได้แต่งหน้า" ขวัญข้าวปฏิเสธด้วยความเกรงใจ
"อย่าลืมสิครับคุณขวัญ คุณเป็นผู้หญิงของท่านประธาน คุณต้องแต่งตัวดูึนะครับ"
เมื่อได้ยินคำพูดของกฤต ขวัญข้าวก็รู้สึกหน้าชาเล็กน้อย คำว่า "ผู้หญิงของท่านประธาน" มันช่างฟังดูแปลกประหลาดและไม่คุ้นเคยสำหรับเธอ
"ค่ะ..." ขวัญข้าวตอบเสียงแผ่ว หลุบตาลงต่ำ
กฤตหันไปสั่งพนักงานขายด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นขึ้นเล็กน้อย
"รบกวนจัดเครื่องสำอางที่ผู้หญิงใช้แต่งหน้าเป็นประจำให้คุณขวัญด้วยครับ เอาแบบที่ใช้ได้ง่ายๆ และดูเป็นธรรมชาติหน่อยนะครับ"
พนักงานขายพยักหน้าและเริ่มแนะนำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้ขวัญข้าวอย่างกระตือรือร้น มีทั้งรองพื้น คอนซีลเลอร์ แป้ง บลัชออน อายแชโดว์ และลิปสติกหลากสีสัน
ขวัญข้าวยืนมองพนักงานจัดเครื่องสำอางให้เธอด้วยท่าทีเกรงใจ และไม่นานกฤตก็เดินไปจ่ายเงินหน้าเค้าเตอร์
"เรียบร้อยครับคุณขวัญ" กฤตเดินกลับมาพร้อมกับถุงเครื่องสำอางค์ "เดี๋ยวเรากลับคอนโดกันเลยนะครับ"
"ค่ะ" ขวัญข้าวตอบสั้นๆ
ทั้งสองเดินออกจากร้านเครื่องสำอางค์และไปยังลานจอดรถ กฤตขับรถพาขวัญข้าวกลับคอนโดด้วยบรรยากาศที่เงียบลงเล็กน้อย
เมื่อถึงคอนโด กฤตช่วยถือถุงเสื้อผ้าและเครื่องสำอางค์เข้าไปในห้องให้ขวัญข้าว
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับคุณขวัญ" กฤตกล่าวด้วยความสุภาพ
"ขอบคุณมากนะคะคุณกฤตสำหรับวันนี้" ขวัญข้าวกล่าวด้วยความรู้สึกขอบคุณอย่างจริงใจ
"ยินดีครับ" กฤตยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ขวัญข้าวยืนอยู่คนเดียวในห้อง มองถุงเสื้อผ้าและเครื่องสำอางค์ที่วางอยู่บนโต๊ะ เธอรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่เกิดขึ้น เธอจะอยู่ในฐานะอะไรของเขากันนะ ทำไมเขาถึงใจดีซื้อข้าวของทุกอย่างให้เธอแม้กระทั่งคอนโดของเขา เขาก็ให้เธออยู่
ขวัญข้าวจัดการนำเสื้อผ้าใหม่ที่เพิ่งซื้อมาไปซักในเครื่องซักผ้า ในระหว่างรอผ้าซัก ขวัญข้าวก็เดินไปยังโต๊ะเครื่องแป้งในห้องนอน เธอสังเกตว่าบนโต๊ะมีขวดน้ำหอมผู้ชายเคาเตอร์แบนด์หลายขวดและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของผู้ชายมีแต่ขอแพง ๆ วางอยู่เต็มไปหมด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นของคราม
ขวัญข้าวค่อย ๆ วางถุงเครื่องสำอางค์ใหม่ของเธอลงบนโต๊ะข้าง ๆ ของเหล่านั้น เธอเปิดถุงและนำตลับแป้ง ลิปสติก และบลัชออนออกมาวางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ด้วยหัวใจที่เต้นแรง เธอไม่เคยอยู่กับผู้ชายมาก่อน ขวัญข้าวมองเครื่องสำอางค์เหล่านั้นด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ เธอไม่เคยมีเครื่องสำอางค์ดี ๆ แบบนี้มาก่อน ในอดีตเธอมีเพียงตลับแป้งฝุ่นและลิปสติกราคาไม่กี่ร้อยเท่านั้น
ขวัญข้าวเปิดตลับแป้งและลองทาเบา ๆ บนใบหน้า มองตัวเองในกระจก จากนั้นเธอก็ลองทาลิปสติกสีชมพูอ่อนๆ ที่กฤตและพนักงานขายช่วยกันเลือกให้ สีสันนั้นทำให้ใบหน้าของเธอสดใสขึ้น
ขวัญข้าวยิ้มให้กับตัวเองในกระจก เธอรู้สึกขอบคุณสำหรับความเมตตาที่ได้รับในวันนี้ แม้ว่าอนาคตจะยังคงไม่แน่นอน แต่การมีเสื้อผ้าใหม่และเครื่องสำอางค์เหล่านี้ก็ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาก เมื่อเธอจัดการวางเครื่องสำอางค์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขวัญข้าวก็เดินไปดูผ้าที่ซักไว้ เมื่อผ้าซักเสร็จ เธอก็นำไปตากที่ราวระเบียง และเธอก็มาทำความสะอาดห้องจนค่ำ
หลังจากที่ขวัญข้าวทำความสะอาดห้องจนเรียบร้อย ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลง แสงไฟจากอาคารต่าง ๆ ในเมืองเริ่มสว่างขึ้น ขวัญข้าวนั่งพักเหนื่อยอยู่บนโซฟา มองไปรอบ ๆ ห้องที่สะอาดสะอ้าน เธอมั่นใจว่าเจ้าของห้องคงต้องมีแม่บ้านมาดูแล เพราะห้องกว้างขวางและทุกอย่างถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ
ก็อก ก็อก ก็อก
ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ขวัญข้าวงุนงง เธอไม่รู้ว่าใครมาเคาะประตูในเวลานี้
ด้วยความสงสัย ขวัญข้าวค่อย ๆ ลุกขึ้นเดินไปยังประตูและเปิดออก ภาพที่เห็นคือพนักงานส่งอาหารในชุดยูนิฟอร์มยืนอยู่พร้อมกับถุงใส่อาหาร
"สวัสดีครับ คุณ... ขวัญข้าวหรือเปล่าครับ" พนักงานถาม
ขวัญข้าวพยักหน้า "ค่ะ"
"นี่ครับ อาหารที่คุณครามสั่งไว้ให้ครับ" พนักงานยื่นถุงอาหารให้เธอ
ขวัญข้าวยิ่งงงเข้าไปใหญ่ "คุณครามสั่งไว้ให้เหรอคะ"
"ครับผม" พนักงานตอบ "เขาโทรมาสั่งไว้เมื่อช่วงเย็นครับ"
ขวัญข้าวรับถุงอาหารมาด้วยความสงสัย เธอไม่เข้าใจว่าทำไมครามถึงสั่งอาหารมาให้เธอ ทั้ง ๆ ที่เขายังไม่กลับมาที่ห้องนี้ตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่
"ขอบคุณค่ะ" ขวัญข้าวกล่าวกับพนักงาน
"ครับ" พนักงานยิ้มและเดินจากไป
ขวัญข้าวปิดประตูและมองถุงอาหารในมืออย่างพิจารณา เธอเปิดถุงดูข้างใน พบว่าเป็นอาหารหลายอย่าง ทั้งข้าวสวย กับข้าวสองสามอย่าง และผลไม้
ถึงแม้จะยังสงสัย แต่ความหิวก็ทำให้ขวัญข้าวตัดสินใจนำอาหารไปจัดใส่จาน เธอทานอาหารเย็นคนเดียวในห้องที่เงียบสงัด ความรู้สึกขอบคุณและความสงสัยยังคงปะปนอยู่ในใจ
---
ช่วงบ่ายที่บริษัท NouriX Foods
แสงแดดบ่ายคล้อยส่องผ่านม่านมูลี่โปร่งแสงของห้องทำงานชั้นบนสุด แสงอุ่น ๆ กระทบเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มให้ดูอบอุ่นแต่สุขุม ทุกอย่างในห้องถูกจัดวางเรียบร้อยราวกับสะท้อนบุคลิกเจ้าของห้อง เงียบขรึม จริงจัง และเป๊ะในทุกรายละเอียด
คราม ประธานบริหารหนุ่มวัยสามสิบห้า นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานไม้โอ๊คตัวใหญ่ มือเรียวยาวเปิดแฟ้มเอกสารหนาเตอะทีละหน้าอย่างใจเย็น สายตาจับจ้องอยู่บนตารางต้นทุนผลิตล็อตใหม่ของอาหารแช่แข็งสูตรคลีนที่กำลังจะวางตลาด
บนโต๊ะยังวางรายงานวิเคราะห์วัตถุดิบจากทีมพัฒนา ที่เขาขีดไฮไลต์ไว้ด้วยหมึกแดงแทบทุกหน้า ไม่มีแม้แต่จุดเดียวที่เขาจะปล่อยผ่าน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องดังขึ้น ครามเงยหน้าจากเอกสารบนโต๊ะทำงาน มองไปยังกฤตที่เดินเข้ามาพร้อมกับซองเอกสารสีน้ำตาลในมือ เขาพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงให้กฤตเข้ามา
"เป็นยังไงบ้าง" ครามถามเสียงเรียบ
กฤตเดินเข้ามาวางซองเอกสารลงบนโต๊ะตรงหน้าคราม "ผลตรวจร่างกายของคุณขวัญครับ"
ครามเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหยิบซองเอกสารนั้นขึ้นมา เขามองชื่อที่ระบุบนซองครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดซองและหยิบเอกสารข้างในออกมาอ่านอย่างละเอียด
กฤตที่ยืนรออยู่เงียบ ๆ มองสีหน้าของเจ้านายอย่างสังเกต
ครามกวาดสายตาอ่านผลตรวจอย่างช้า ๆ ใบหน้าคมเข้มของเขาไม่ได้แสดงความรู้สึกใด ๆ ออกมา
เมื่ออ่านจบ ครามก็วางเอกสารลงบนโต๊ะ มองไปยังกฤต
"เรียบร้อยดี" เขาถาม
"ครับ ทุกอย่างปกติดีครับ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง" กฤตตอบ
ครามพยักหน้ารับ เขานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ราวกับกำลังครุ่นคิดบางอย่าง
"เธอเป็นยังไงบ้าง" ครามถามเสียงเบา
"คุณขวัญ...ดูเงียบ ๆ ครับ เมื่อวานผมพาเธอไปซื้อเสื้อผ้าและเครื่องสำอางค์ เธอก็ไม่ได้พูดอะไรมากนัก แต่ก็ดูเหมือนจะดีขึ้นบ้างครับ" กฤตรายงาน
ครามพยักหน้ารับอีกครั้ง เขามองไปยังเอกสารผลตรวจบนโต๊ะด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก
"ตอนเย็นฉันจะไปที่คอนโด" ครามกล่าว
"ครับ เดี๋ยวผมบอกคุณขวัญให้ทราบครับ" กฤตตอบรับ"งั้นผมขอตัวก่อน" กฤตกำลังจะหมุนตัวกลับไปทางประตูเมื่อเสียงทุ้มนุ่มของผู้เป็นนายดังขึ้นอีกครั้ง
“เดี๋ยวก่อน”
กฤตชะงัก ก้าวเท้าค้างอยู่เพียงไม่กี่ก้าวก่อนจะหันกลับมา “ครับคุณคราม”
ครามยังคงนั่งอยู่ที่เดิม สายตาเหลือบมองเอกสารบนโต๊ะเพียงชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบแต่ชัดเจน
“ไปซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดมาให้ฉันด้วย ขอให้ได้ก่อนตอนเย็น”
กฤตยิ้มบางอย่างรู้ทัน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงแววล้อเล็กน้อยแต่ยังคงให้เกียรติ
“ครับ...คุณครามจะซื้อไปให้คุณขวัญเหรอครับ”
ครามไม่ตอบในทันที เขาเพียงเงยหน้าขึ้นสบตากฤตเล็กน้อย
“อืม”
กฤตหัวเราะเบาๆ พลางส่ายหน้าเล็กน้อยด้วยความเอ็นดู “ท่านประธานนี่ใจดีจังเลยนะครับ”
ครามปรายตามองอีกฝ่ายแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร สีหน้าเขายังคงเรียบเฉยเหมือนเดิม แต่หากมองดี ๆ จะเห็นว่าแววตาคู่นั้นมีบางอย่างเปลี่ยนไป อ่อนลงเล็กน้อย
“เลือกสีให้เข้ากับเธอด้วย” ครามเอ่ยเรียบๆ อีกครั้ง
กฤตยกมือขึ้นแตะขมับ ทำท่าคล้ายจะเคารพ “ครับผม รับทราบครับ เดี๋ยวผมไปจัดการให้เรียบร้อยเลย”
ครามไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงพยักหน้าให้หนึ่งครั้ง แล้วกลับไปก้มหน้าอ่านเอกสารต่อ
กฤตหันหลังกลับ เดินออกจากห้องด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าเขาไม่ได้พูดอะไรออกมา...แต่ในใจคิดเพียงว่า เจ้านายของเขาคงรักขวัญข้าวตั้งแต่แรกพบ ถึงได้เป็นพ่อบุญทุ้มขนาดนี้
---
หลังจากที่ขวัญข้าวได้รับโทรศัพท์จากกฤตแจ้งว่าครามจะมาที่คอนโดในตอนเย็น สีหน้าของเธอก็ซีดเผือดลงทันที หัวใจเต้นระรัวราวกับกลองศึก ความกังวลและความหวาดหวั่นถาโถมเข้ามาจนเธอแทบทรุด
เธอไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับเขาอย่างไร ผู้ชายที่ซื้อตัวเธอมา...ผู้ชายที่เธอแทบไม่รู้จัก ขวัญข้าวเดินไปนั่งลงบนโซฟาอย่างหมดเรี่ยวแรง มือทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่น เธอพยายามควบคุมลมหายใจที่เริ่มติดขัด
ตลอดช่วงบ่าย ขวัญข้าวว้าวุ่นใจ เธอทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งรอคอยเวลาที่ครามจะมาถึงอย่างกระวนกระวาย ความคิดต่าง ๆ วิ่งวนอยู่ในหัว เธอพยายามคาดเดาว่าเขาต้องการอะไรจากเธอ และเธอควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร เมื่อเขามาถึง ไม่นานเสียง กริ่งที่ประตูดังขึ้น
ครามเปิดประตูเข้ามา ขวัญข้าวที่นั่งอยู่บนโซฟาก็รีบลุกขึ้นยืนทันที เธอประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เอ่ยชื่อเขาเสียงแผ่ว
"สวัสดีค่ะ คุณคราม..."
ครามกวาดสายตามองไปทั่วห้อง ก่อนจะหันกลับมามองขวัญข้าวด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง
"อยู่ที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูไม่ได้ดุดันเหมือนเมื่อวาน
ขวัญข้าวลังเลเล็กน้อย เธอไม่แน่ใจว่าเขาต้องการฟังคำตอบแบบไหน
"ก็...สบายดีค่ะ" เธอตอบเสียงเบา
ครามพยักหน้ารับ เขาเดินเข้าไปในห้องและวางกุญแจรถบนโต๊ะ
"ทานอะไรหรือยัง" เขาถามต่อ
"ทานแล้วค่ะ คุณกฤตให้คนมาส่งอาหารให้เมื่อตอนเย็น" ขวัญข้าวตอบ
ครามพยักหน้าอีกครั้ง ความเงียบปกคลุมบรรยากาศภายในห้องชั่วครู่
"โทรศัพท์ของเธอ" ครามกล่าวพลางมองไปยังกล่องโทรศัทพ์บนโต๊ะ
ขวัญข้าวมองตามสายตาของเขาไปยังกล่องนั้นด้วยความสงสัย
"ให้ขวัญ...ทำไมคะ" เธอถามเสียงแผ่ว
ครามสบตาเธอครู่หนึ่ง "เอาไว้ติดต่อ ต่อไปนี้ใช้เบอร์นี้ เอาไว้ติดต่อผม" เขาตอบสั้น ๆ แล้วเดินไปนั่งที่โซฟา
ขวัญข้าวเดินไปหยิบกล่องโทรศัพท์มาเปิดดู เธอหยิบโทรศัพท์เครื่องใหม่ล่าสุดออกมาด้วยความรู้สึกทึ่ง มันสวยงามและทันสมัยกว่าโทรศัพท์เก่า ๆ ของเธอที่เคยใช้มา เมื่อเห็นยี่ห้อและรุ่นของโทรศัพท์ iPhone Pro Max รุ่นล่าสุด ขวัญข้าวก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอเงยหน้ามองครามด้วยความประหลาดใจ
"คุณครามซื้อให้ขวัญเหรอค่ะ ทำไมซื้อมาแพงจังเลยคะ" ขวัญข้าวถามด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย เธอไม่เคยใช้โทรศัพท์ราคาแพงขนาดนี้มาก่อน
ครามมองเธอด้วยสีหน้าที่ยังคงเรียบเฉย
"ไม่เป็นไร" เขาตอบสั้นๆ "ใช้ไปเถอะ อย่าลืมสิเธอเป็นผู้หญิงของผม ต้องใช้ของดี ๆ หน่อย"
เมื่อได้ยินคำพูดนั้นของคราม ขวัญข้าวก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ คำว่า "ผู้หญิงของผม" มันทำให้เธอรู้สึกทั้งแปลกประหลาดและหวิว ๆ ในใจ เธอไม่แน่ใจว่าควรจะรู้สึกอย่างไรกับคำพูดนี้
ขวัญข้าวเงยหน้าสบตาครามอย่างไม่เข้าใจ
"แต่ว่า..." เธอพยายามจะพูดบางอย่าง
ครามยกมือขึ้นห้ามปรามเบา ๆ
"ไม่มี 'แต่'" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นขึ้นเล็กน้อย "ผมให้ก็รับไปใช้ อย่าทำให้ผมต้องพูดซ้ำ"
ขวัญข้าวเม้มปากเล็กน้อย เธอรู้สึกถึงอำนาจที่แผ่ออกมาจากตัวเขา และรู้ว่าไม่ควรโต้เถียง
"ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ" เธอตอบเสียงแผ่ว พร้อมกับก้มลงมองโทรศัพท์เครื่องใหม่ในมือ
