บท
ตั้งค่า

ขุปเลี้ยง

ขวัญเอามือปาดน้ำตาออก ลมหายใจสั่นไหวอย่างพยายามควบคุมตัวเองให้เข้มแข็ง เธอพยายามที่จะลืมเรื่องราวทั้งหมด เพื่อที่จะไม่ต้องคิดมาก ตอนนี้เธอถูกเขาซื้อตัวมาแล้ว เขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้ เธอเดินไปยังห้องนอน เธอเปิดประตูเข้าไปอย่างช้า ๆ ภายในห้องนอนกว้างขวางและตกแต่งอย่างเรียบหรู เตียงขนาดคิงไซส์ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง ผ้าปูที่นอนสีเทาเข้มดูนุ่มสบาย ข้างเตียงมีโคมไฟดีไซน์เก๋และโต๊ะข้างเตียงเล็กๆ สองฝั่ง

สายตาของขวัญข้าวเหลือบไปเห็นตู้เสื้อผ้าบานใหญ่ เธอเดินเข้าไปใกล้และเปิดมันออกอย่างลังเล เพื่อจะหาผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำ ภายในตู้เสื้อผ้าจัดเรียงเสื้อผ้าผู้ชายไว้อย่างเป็นระเบียบ เสื้อเชิ้ตเนื้อดี กางเกงสแล็คสีเข้ม สูทที่ตัดเย็บอย่างประณีต และเนคไทหลากสีสัน ทุกชิ้นดูมีราคาและบ่งบอกถึงรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของ

ขวัญข้าวเลื่อนมือไปสัมผัสเนื้อผ้าของเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวหนึ่ง เนื้อผ้าละเอียดและนุ่มมือ เธอพอจะเดาออกว่าเสื้อผ้าเหล่านี้ต้องมีราคาแพงมาก

ที่มุมหนึ่งของตู้เสื้อผ้า เธอสังเกตเห็นผ้าขนหนูพับไว้อย่างเรียบร้อย ขวัญข้าวหยิบผ้าขนหนูสีขาวผืนใหญ่นั้นออกมา

ขวัญข้าวเดินเข้าไปในห้องน้ำที่เชื่อมต่อกับห้องนอน สายตาของเธอเหลือบไปเห็นขวดแชมพูและครีมอาบน้ำที่วางอยู่บนชั้นข้างอ่าง ทั้งสองขวดเป็นแบรนด์หรูสำหรับผู้ชาย บ่งบอกถึงความเป็นเจ้าของของครามอย่างชัดเจน เธอหยิบขวดครีมอาบน้ำขึ้นมาดม กลิ่นหอมสะอาด สดชื่น เหมือนกับเจ้าของของมัน

ขวัญข้าวเปิดน้ำอุ่นลงในอ่างอาบน้ำ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของสบู่อบอวลอยู่ในอากาษ เธอถอดเสื้อผ้าออกอย่างช้า ๆ ความรู้สึกอับอายยังคงวนเวียนอยู่ในใจ เธอไม่เคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อน การต้องมาใช้ของส่วนตัวของผู้ชายที่ไม่รู้จัก...มันช่างแปลกประหลาด

ขวัญข้าวค่อย ๆ ก้าวลงไปแช่ตัวในอ่างน้ำอุ่น ความร้อนช่วยให้ร่างกายที่เหนื่อยล้าของเธอผ่อนคลายลงบ้าง เธอหลับตาลง ปล่อยให้ความเงียบและไอน้ำโอบล้อม

ในหัวของขวัญข้าวเริ่มทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น พ่อของเธอติดการพนันจึงเอาเธอมาขาย การถูกประมูล และตอนนี้...การต้องมาอยู่ในห้องของผู้ชายที่ซื้อเธอมา

น้ำตาเม็ดเล็ก ๆ ไหลรินออกมาจากหางตาของขวัญข้าว หยดลงผสมกับน้ำอุ่นในอ่าง ความรู้สึกโดดเดี่ยวและสิ้นหวังถาโถมเข้ามาอีกครั้ง เธอไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร เธอจะต้องเผชิญกับอะไรบ้างภายใต้ชายคาของที่นี่

หลังจากขวัญข้าวอาบน้ำเสร็จ เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง เธอใช้ผ้าขนหนูสีขาวผืนหนาซับน้ำตามร่างกายอย่างเบามือ และเดินออกจากห้องน้ำ

เมื่อตัวแห้งสนิท ขวัญข้าวก็มองไปรอบ ๆ ห้องนอนเพื่อหาเสื้อผ้าสำหรับใส่ เธอไม่มีเสื้อผ้าติดตัวมาเลย เสื้อผ้าชุดเก่าที่เธอใส่มา เธอได้นำไปใส่ในเครื่องซักผ้าที่เธอเพิ่งสังเกตเห็นอยู่ในมุมหนึ่งของห้องครัว

ขวัญข้าวเดินไปยังตู้เสื้อผ้าบานใหญ่อีกครั้ง เธอเปิดมันออกอย่างลังเล สายตาของเธอสำรวจเสื้อผ้าของผู้ชายเหล่านั้นอย่างไม่มีทางเลือก

ในที่สุด เธอก็ตัดสินใจหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวเนื้อดีตัวหนึ่งออกมา มันดูตัวใหญ่เกินกว่ารูปร่างของเธอมาก แต่ก็คงดีกว่าไม่มีอะไรใส่

ขวัญข้าวสวมเสื้อเชิ้ตตัวนั้นอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เนื้อผ้าที่นุ่มและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของน้ำยาซักผ้าของผู้ชาย ทำให้เธอรู้สึกแปลก ๆ แต่ก็ให้ความอบอุ่นได้บ้าง

เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่คลุมเลยสะโพกของเธอลงมา ขวัญข้าวเดินไปยืนอยู่หน้ากระจก มองภาพสะท้อนของตัวเองในเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่ง ผมยาวสลวยเปียกชื้น ใบหน้าซีดเซียว...ภาพนั้นช่างดูโดดเดี่ยวและน่าสงสาร

เธอถอนหายใจแผ่วเบา ไม่มีทางเลือกอื่น เธอคงต้องใส่เสื้อตัวนี้ไปก่อนจนกว่ากฤตจะมารับเธอไปซื้อเสื้อผ้าในวันพรุ่งนี้

ขวัญข้าวเดินไปนั่งลงบนขอบเตียง มองออกไปยังหน้าต่างบานใหญ่ที่เห็นวิวเมืองยามค่ำคืน แสงไฟระยิบระยับราวกับดวงดาวที่อยู่ไกลเกินเอื้อม เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ ที่หลงทางอยู่ในเมืองใหญ่แห่งนี้ เธอทอดสายตามองโซฟาหนังตัวยาวที่ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง มันดูนุ่มสบาย แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจที่จะใช้สิ่งของทุกอย่างในห้องนี้

ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ เธอไม่กล้านอนบนเตียงในห้องนอนนี้ เตียงที่ดูหรูหราเกินไปสำหรับเธอ และที่สำคัญ...มันอาจจะเป็นเตียงของเขา เธอไม่รู้ว่าสถานะของเธอที่นี่คืออะไรกันแน่ เป็นแค่คนถูกซื้อมา...หรืออะไรที่มากกว่านั้น ความไม่แน่นอนนี้ทำให้เธอรู้สึกกระอักกระอ่วน

ขวัญข้าวตัดสินใจเดินไปยังโซฟาตัวยาว เธอทิ้งตัวลงนอนอย่างระมัดระวัง ความนุ่มของโซฟาโอบรับร่างกายที่เหนื่อยล้าของเธอ เธอขดตัวเล็กน้อย เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่คลุมร่างกายของเธอไว้

สายตาของขวัญข้าวเหม่อมองไปยังเพดานสีขาว ความเงียบภายในห้องทำให้ความคิดของเธอฟุ้งซ่าน เธอคิดถึงพ่อ...คนที่ผลักไสเธอมาสู่สถานการณ์อันเลวร้ายนี้ ความรู้สึกเสียใจและน้อยใจยังคงวนเวียนอยู่ในใจ

เธอพลิกตัวนอนตะแคง มองออกไปยังหน้าต่างบานใหญ่ แสงไฟจากเมืองหลวงยังคงส่องสว่าง แต่ในความรู้สึกของขวัญ ทุกอย่างกลับมืดมิดและอ้างว้าง เธอหลับตาลง น้ำตาเม็ดเล็ก ๆ ไหลซึมออกมาอีกครั้ง ความเหนื่อยล้าและความเศร้าทำให้เธอค่อย ๆ จมดิ่งสู่ห้วงนิทราบนโซฟาที่ไม่คุ้นเคยในห้องหรูของผู้ชายที่เธอเพิ่งเคยเจอ

 

แสงอาทิตย์อ่อน ๆ สาดส่องผ่านผ้าม่านบาง ๆ เข้ามากระทบเปลือกตาของขวัญข้าว เธอขยับตัวเล็กน้อย รู้สึกถึงความนุ่มสบายใต้ร่าง ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้น

ภาพแรกที่เห็นคือเพดานสีขาวสะอาดตาที่ไม่คุ้นเคย ขวัญขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ประมวลเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เธอจำได้ว่าตัวเองนอนหลับไปบนโซฟา

ขวัญข้าวขยับตัวเล็กน้อยบนโซฟานุ่ม เธอลืมตาขึ้นช้า ๆ เปลือกตายังหนักจากความอ่อนล้าทางร่างกายและใจ แขนเล็กยกขึ้นปิดตาไว้เมื่อแสงแดดจ้าเกินไปในช่วงแรก ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย

เธอกวาดตามองรอบห้อง ห้องยังคงอยู่ในความเรียบร้อย เงียบสงบเหมือนเดิม ราวกับว่าเวลาหยุดนิ่งตั้งแต่เมื่อคืน เสื้อเชิ้ตสีขาวของครามยังคงคลุมกายเธออยู่ กลิ่นหอมจางๆ จากเนื้อผ้ายังคงติดปลายจมูก ขวัญข้าวก้มมองตัวเองเล็กน้อยแล้วรีบห่มชายเสื้อให้มิดขึ้นอีกนิด รู้สึกเขินอายอยู่ลึก ๆ แม้จะไม่มีใครอยู่ในห้องก็ตาม

เสียงเล็ก ๆ ของท้องที่เริ่มร้องเตือนว่าเธอยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อวาน ทำให้ขวัญข้าวลุกขึ้นยืนอย่างระมัดระวัง เธอเดินตรงไปยังห้องน้ำ ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น ๆ ให้สดชื่นขึ้น ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดหน้าของตัวเองซับเบา ๆ 

ร่างบางจึงเดินกลับออกมายังโซนครัวเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น เธอเปิดตู้เย็นออกด้วยความหวังว่าจะมีอะไรพอรองท้องได้บ้าง แม้เพียงนมกล่องเดียวก็ตาม

แต่สิ่งที่เห็นในตู้เย็นมีเพียงน้ำเปล่าหลายขวด และเบียร์นำเข้าเรียงไว้เป็นแถว  เธอกวาดสายตามองซ้ำอีกครั้งราวกับไม่เชื่อสายตา

ไม่มีขนมปัง ไม่มีไข่ ไม่มีอาหารสำเร็จรูป ไม่มีกล่องกับข้าวใดๆ เลย

ขวัญข้าวยืนนิ่ง มองตู้เย็นอย่างสิ้นหวัง

“เขาไม่ทำอาหารกินเองเลยเหรอ...” เธอบ่นเบาๆ กับตัวเอง

ภาพรวมของห้องครัวก็ดูเรียบร้อยเกินไป ไม่มีร่องรอยการใช้งานใด ๆ บ่งบอกชัดเจนว่าชายหนุ่มเจ้าของห้องคงใช้ชีวิตด้วยอาหารสั่งมากกว่าการลงมือทำอะไรเอง

ขวัญข้าวถอนหายใจเบา ๆ เธอปิดตู้เย็นและยืนลังเลอยู่ตรงนั้นอยู่ครู่หนึ่ง

ขวัญข้าวเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง คราวนี้เพื่อชำระล้างร่างกายให้สดชื่นจริง ๆ ก่อนจะเริ่มต้นเช้าวันใหม่ เธอใช้เวลาสั้น ๆ อาบน้ำ เปลี่ยนจากเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขาเป็นเสื้อผ้าของตัวเองที่ตอนนี้แห้งสะอาด หลังจากที่เธอซักมันไว้เมื่อคืน

แม้จะเป็นเพียงเสื้อยืดธรรมดากับกางเกงยีนต์สีซีด แต่พอได้กลับมาใส่เสื้อผ้าของตัวเอง เธอก็รู้สึกถึงความเป็นตัวเองอีกครั้ง ราวกับได้เกราะบาง ๆ มาปกป้องใจ

ขวัญข้าวเดินไปที่กระเป๋าสะพายใบเล็กของเธอที่วางอยู่ข้างเตียง ก่อนจะค่อยๆ เปิดออกด้วยความหวัง

ของข้างในมีไม่มาก...โทรศัพท์ที่แบตหมดสนิท บัตรประชาชน ใบขับขี่เก่า ๆ และกระเป๋าเงินใบเล็กที่ขาดตรงมุม เธอเปิดกระเป๋าเงินออกดูแล้วนับแบงก์ที่อยู่ในนั้น

“ห้าร้อย...” เธอพึมพำเบาๆ กับตัวเอง มองแบงก์ใบเดียวในมือ พลิกมันไปมาอย่างลังเล รู้ดีว่านี่อาจเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่เธอมีติดตัวอยู่ตอนนี้

"ลงไปซื้ออะไรกิน ที่ซูเปอร์ก็ได้..." ขวัญข้าวพูดกับตัวเองเสียงเบา พยายามปลุกกำลังใจให้ลุกขึ้นจากความหิวและความหมดหวัง

เธอเดินไปหยิบคีย์การ์ด ที่โต๊ะหน้าโซฟา ก่อนจะเดินออกจากห้อง เสียงคลิกเบา ๆ ของประตูดังขึ้น ขวัญข้าวค่อยๆ ก้าวออกไปยังโถงทางเดินของคอนโดหรูที่เงียบสงัด หัวใจเธอเต้นระส่ำ ไม่คุ้นชินกับบรรยากาศแบบนี้เลยสักนิด ทุกอย่างดูสะอาด หรูหรา และห่างไกลจากโลกของเธออย่างสิ้นเชิง เธอเดินไปกดลิฟท์ ลิฟต์เลื่อนลงชั้นล่างอย่างช้า ๆ

ขวัญข้าวเงยหน้ามองตัวเองในกระจกภายในลิฟต์ เสื้อยืดเก่าๆ กับหน้าตาซีดเซียว เธอดูเหมือนคนแปลกปลอมในที่แห่งนี้อย่างชัดเจน

ประตูลิฟต์เปิดออกสู่ล็อบบี้ ขวัญข้าวเดินผ่านพนักงานต้อนรับที่มองเธออย่างแปลกใจเล็กน้อย แต่ไม่ได้เอ่ยถามอะไร เธอเดินตรงไปยังประตูทางออก และมุ่งหน้าไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ ที่เธอเห็นอยู่ไม่ไกลจากคอนโด เพื่อหาอะไรกินลองท้อง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel