ไม่เคยลืม
"เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อน" ครามกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ
"คุณ...จะนอนที่นี้หรอคะ"
เมื่อขวัญข้าวถามเช่นนั้น ครามก็หันกลับมามองเธอด้วยแววตาที่ยังคงเรียบนิ่ง
"ทำไมผมจะนอนที่นี่ไม่ได้" ครามถามกลับด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแปลกใจเล็กน้อย "นี่มันห้องของผม"
ขวัญข้าวหน้าเสียเล็กน้อย เธอรีบตอบเสียงแผ่ว "เปล่าค่ะ...แค่ถามดู"
ครามชะงักฝีเท้าที่กำลังจะเดินเข้าห้องน้ำ เขาหันกลับมามองเธออีกครั้ง ดวงตาคมกริบจ้องเธอราวกับจะอ่านใจให้ทะลุ
“ขวัญข้าว...” เขาเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มและหนักแน่นขึ้นกว่าเดิม “คุณคิดว่าผมประมูลตัวคุณมา เพื่อให้นอนอยู่ในห้องเฉย ๆ งั้นเหรอ”
คำถามนั้นทำให้เธอใจเต้นแรง หัวใจเต้นผิดจังหวะ มือเย็นเฉียบโดยไม่รู้ตัว
ขวัญข้าวพยายามกลั้นใจ ก่อนจะตอบเสียงสั่น "ขวัญรู้คะ ว่าคุณต้องการอะไรจากตัวของขวัญ แต่...วันนี้ขวัญยังไม่พร้อม”
ครามเดินเข้ามาใกล้ เธอถอยหลังโดยอัตโนมัติ จนแผ่นหลังชนกับผนัง
“ไม่พร้อม” ครามทวนคำช้า ๆ ดวงตาคมกริบของเขายังคงจับจ้องเธอไม่วางตา “ขวัญข้าว…คุณมีสิทธิปฎิเสธด้วยหรอ”
น้ำเสียงของเขายังคงนิ่ง เรียบ แต่ในความเรียบนั้นแฝงไปด้วยแรงกดดันที่ทำให้ขวัญข้าวรู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก
“เปล่าค่ะ... ขวัญไม่ได้หมายความแบบนั้น” เธอรีบพูด น้ำเสียงสั่นเล็กน้อย “แค่... ขวัญยังไม่เข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่าง แล้วก็ยังสับสนอยู่…”
“เข้าใจอะไร” ครามถามเสียงเรียบ ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด “แล้วสับสนอะไร”
ขวัญข้าวหลบตา กำชายเสื้อแน่นเหมือนเป็นสิ่งเดียวที่พอจะยึดเกาะได้ในตอนนี้ เธอสูดลมหายใจ แล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบา
“สับสนว่าคุณครามจะให้ขวัญอยู่ที่นี่...ในฐานะอะไรคะ”
แววตาของครามเปลี่ยนทันที เคร่งขรึม ลึก และน่ากลัวกว่าเดิม เขาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะย้ำถ้อยคำของเธอช้า ๆ
“ถามหาฐานะเหรอ”
เขาแค่นหัวเราะในลำคออย่างเย็นชา แล้วโน้มตัวลงเล็กน้อย เสียงที่เอื้อนเอ่ยต่อมาหนักแน่น เย็นเฉียบจนแทบหยุดลมหายใจเธอ
“คุณคือผู้หญิงของผม ขวัญข้าว... และตราบใดที่คุณยังอยู่กับผม ห้ามคุณยุ่งกับใครทั้งนั้น”
เขาหยุดเว้นจังหวะเล็กน้อย ดวงตาเรียบนิ่งแต่กดเธอไว้ไม่ให้ขยับหนี
“ผมไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร"
ขวัญข้าวใจเต้นระส่ำกับคำพูดนั้น ทุกคำที่หลุดออกมาจากปากของเขามันชัดเจน…เด็ดขาด…และทรงพลังจนเธอไม่สามารถหาคำใดมาตอบโต้อย่างมีเหตุผลได้
“แต่ขวัญ...ไม่ใช่ของเล่นนะคะ คุณครามพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก” เธอตอบกลับเสียงสั่น แม้จะพยายามรวบรวมความกล้าเอาไว้ทั้งหมดแล้วก็ตาม
ครามยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้มีแววขบขัน แต่กลับทำให้บรรยากาศรอบตัวเย็นยะเยือกยิ่งกว่าเดิม
“ไม่ถูก...แล้วคุณคิดว่าคุณมาจากที่ที่สูงส่งนักหรือไง” เสียงของเขาเย็นชา ก่อนจะโน้มตัวลงมากระซิบชิดข้างหูเธอ “แต่ที่ที่คุณจากมา... สำหรับผม มันต่ำจนไม่น่ามองเลยด้วยซ้ำ ที่ผมประมูลคุณมา คุณควรที่จะขอบคุณผมมากกว่านะ”
คำพูดของเขาเหมือนคมมีดกรีดลึกลงกลางอก ขวัญข้าวหลับตาแน่น สูดลมหายใจอย่างพยายามควบคุมตัวเอง ดวงตาของเธอสั่นระริก ราวกับกำลังกลั้นหยาดน้ำตาที่พร้อมจะไหลทะลักออกมาได้ทุกเมื่อ
“ขวัญไม่เคยลืมค่ะว่าขวัญมาจากไหน” เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขาเต็มไปด้วยแรงสะกด แม้น้ำตาจะเอ่อคลอ แต่เสียงกลับมั่นคงเกินกว่าที่เขาคาดคิด
“ขวัญขอบคุณคุณคราม... ที่พาขวัญออกมาจากตรงนั้น ถึงแม้ว่า...ที่นั้น อาจจะต่ำในสายตาคุณก็ตาม”
ครามนิ่งไป ดวงตาคมเข้มจ้องลึก ราวกับกำลังพยายามถอดรหัสทุกคำที่เธอไม่ได้พูดออกมา
ความเงียบแผ่ปกคลุมระหว่างทั้งสองคน มันหนักแน่น เยียบเย็น และกดทับจนลมหายใจแทบติดขัด
ก่อนที่เสียงของขวัญข้าวจะดังขึ้น แผ่วเบา…แต่มั่นคง
“ขวัญยอมทำทุกอย่างที่คุณครามต้องการค่ะ คุณครามอยากให้ขวัญทำอะไร ขวัญก็ยินดีค่ะ”
น้ำเสียงของเธอไม่มีแววอ้อนวอน ไม่มีการต่อรอง มีเพียงความนิ่งสงบของผู้หญิงคนหนึ่งที่ยอมรับโชคชะตาอย่างเต็มใจ
ครามเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนที่เสียงทุ้มของเขาจะดังขึ้นอีกครั้ง เรียบ เย็น และไม่ไยดี
“งั้นก็เริ่มจากคืนนี้”
เขาหมุนตัวเดินไปยังห้องน้ำ ทิ้งคำสั่งไว้โดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
“ไปอาบน้ำ แล้วมารอผมที่ห้อง”
เสียงประตูห้องน้ำปิดลง ทิ้งขวัญข้าวไว้กับความรู้สึกที่สับสน และคำสัญญาที่เธอเพิ่งให้ไป
คำสัญญาที่อาจเปลี่ยนทั้งชีวิตของเธอไปตลอดกาล
ขวัญข้าวยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ริมฝีปากสั่นระริกแม้จะพยายามกลืนความกลัวและความรู้สึกทั้งหมดลงคอแล้วก็ตาม เธอหันมองไปทางประตูห้องน้ำที่ปิดสนิท เสียงน้ำจากฝักบัวดังแว่วมาไกล ๆ เป็นเสียงที่ฟังดูเหมือนธรรมดา...แต่สำหรับเธอในตอนนี้ มันกลับกดทับหัวใจจนแน่นอึดอัด
เธอก้มหน้าลง ค่อย ๆ เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า ค้นหาชุดนอนที่เรียบร้อยและดูดีที่สุด และหยิบชุดคลุมอาบน้ำออกมาสวม เพื่อรอให้ครามอาบน้ำเสร็จ เธอก็จะอาบน้ำต่อจากเขา
มือของเธอสั่นตอนปลดกระดุมเสื้อ ดวงตาร้อนผ่าวเหมือนจะร้องไห้...แต่ไม่มีน้ำตาสักหยด เธอไม่ร้อง เพราะไม่มีสิทธิจะร้องอีกแล้ว
“ตั้งแต่วันนี้...เธอไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรอีกแล้วขวัญข้าว”
เธอกระซิบกับตัวเองในกระจกเงา
เมื่อถอดเสื้อผ้า และสวมเสื้อคลุมอาบน้ำแล้ว เธอก็เดินไปนั่งรอที่ขอบเตียง หัวใจของเธอเต้นแรง ราวกับกำลังรอคอยบางสิ่งที่ไม่รู้ว่าจะทำให้เธอเจ็บแค่ไหน
ไม่นาน เสียงประตูห้องน้ำก็เปิดออก
ครามเดินออกมาช้า ๆ ในชุดเสื้อคลุม สีหน้าเรียบนิ่งอย่างคนที่ไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
เขาเดินตรงเข้ามาใกล้เธอ หยุดยืนตรงหน้า แล้วเอ่ยขึ้นช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัวตรงความนิ่งเฉยของมัน
“ไปอาบน้ำได้แล้ว”
ขวัญข้าวเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย รับคำของเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ค่ะ...”
เธอลุกจากขอบเตียงช้า ๆ ฝีเท้าเบาราวกับไม่อยากให้พื้นได้ยินเสียงความกลัวในหัวใจ ขณะที่เดินผ่านตัวเขาไป กลิ่นสบู่อ่อน ๆ จากร่างครามจนหัวใจเต้นแรง
เมื่ออาบน้ำเสร็จ ขวัญข้าวก็หยิบเสื้อคลุมมาสวมอย่างลวก ๆ เธอสูดลมหายใจลึก ก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำออกมาอย่างช้า ๆ
ขวัญข้าวหยุดยืนอยู่ที่ปลายเตียง มือสองข้างกำชายเสื้อคลุมแน่นราวกับมันคือเกราะสุดท้ายที่พอจะปกป้องเธอได้จากสถานการณ์ที่กำลังเผชิญ
ดวงตาหลุบต่ำ ไม่กล้าเงยสบสายตาเขา
ครามเพียงเหลือบมองเธอ ก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วเดินเข้ามาใกล้ทีละก้าวช้า แต่หนักแน่น
“มานั่งนี่”
น้ำเสียงยังคงเรียบ...แต่แฝงแรงกดดันที่ไม่ต้องการคำปฏิเสธใด ๆ
ขวัญข้าวเดินมานั่งลงตรงขอบเตียงอย่างช้า ๆ มือยังคงจับชายเสื้อคลุมไว้แน่น แพขนตาสั่นระริกอย่างควบคุมไม่อยู่
เขายืนอยู่ตรงหน้า มองเธอราวกับเธอเป็นเพียงของสิ่งหนึ่ง จากนั้นจึงโน้มตัวเข้ามาใกล้ จนลมหายใจของเขาแทบจะปะทะใบหน้าของเธอ
เสียงของเขาดังขึ้นอีกครั้งเย็นจัด เยียบเย็นราวกับมีน้ำแข็งเกาะอยู่ในทุกถ้อยคำ
“คุณคิดว่าผมซื้อตัวคุณมา เพื่อให้นั่งนิ่ง ๆ เงียบ ๆ แบบนี้เหรอ”
ขวัญข้าวสะอึก เงยหน้าขึ้นอย่างช้า ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความกลัวและไม่แน่ใจ
แต่แววตาของครามกลับแข็งกร้าว ไม่อ่อนลงเลยแม้แต่น้อย
“ทำหน้าที่ของคุณซะ ก่อนที่ผมจะหมดความอดทน”
เธอค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้เขา มือที่ยังสั่นไม่หยุดเอื้อมไปปลดเชือกเสื้อคลุมของตัวเองออกช้า ๆ จนมันหล่นลงกับเตียง
ร่างกายเปลือยเปล่าภายใต้เสื้อคลุมบางเบา เป็นดั่งสัญลักษณ์แห่งความยอมจำนนโดยสมบูรณ์ไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีที่พึ่ง ไม่มีแม้แต่เสียงร้องขอความเห็นใจ
ขวัญข้าวหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าลึก แม้หัวใจจะสั่นไหวรุนแรงจนแทบทรุดลงไปตรงนั้น เธอก็ยังฝืนขยับร่างกายทีละน้อย...ช้า ๆ ...และเชื่องช้า
เธอโน้มตัวขึ้นคล่อมเขา...เหมือนหุ่นเชิดที่ถูกกำกับด้วยโชคชะตา ไม่ใช่เจตจำนงของตัวเอง
ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความลังเล ความหวาดกลัว...และความเจ็บปวดที่แฝงอยู่ในแววตาสั่นไหว
ครามยังคงนิ่ง ไม่แม้แต่จะเอื้อมมือมาสัมผัส ไม่มีคำพูดปลอบโยน ไม่มีแววลังเลในดวงตาคมนั้นมีเพียงความเย็นชาราวน้ำแข็ง
เขามองเธอ...อย่างคนที่รอแค่ให้เธอทำในสิ่งที่ถูกคาดหวัง
“ขวัญ...” เสียงเธอเบาหวิว คล้ายลมหายใจสุดท้ายของคนที่ใกล้หมดแรง “ขวัญไม่รู้ว่าต้องทำยังไง…ขวัญไม่เคย…”
ความเงียบปกคลุมครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงต่ำ เยือกเย็น
“คุณคิดว่าผมจะเชื่อ”
เขาเอนตัวเล็กน้อย ดวงตาไม่ไหวติง
“อย่าแกล้งไร้เดียงสาหน่อยเลย ขวัญข้าว ผมเบื่อเกมพวกนี้”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้นของคราม ขวัญข้าวก็รู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง ความรู้สึกอับอายและเสียใจถาโถมเข้ามาอีกครั้ง เธอเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา
ขวัญข้าวยกมือที่สั่นเทาขึ้นประคองใบหน้าคมเข้มของครามอย่างแผ่วเบา เธอจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่คมนั้นด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งความเจ็บปวด ความสิ้นหวัง และความกล้าหาญอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
จากนั้น เธอก็ค่อยๆ โน้มตัวลง จูบริมฝีปากหยักได้รูปของเขาอย่าง แผ่วเบา มันเป็นการจูบที่ปราศจากความปรารถนา มีเพียงความรู้สึกของการยอมจำนน ริมฝีปากของเธอสั่นเล็กน้อย ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร หรือต้องทำอย่างไรต่อไป มันเป็นการจูบที่ไร้เดียงสาและเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่สับสน
ครามปล่อยให้เธอจูบอยู่เช่นนั้นครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาจับจ้องใบหน้าของเธออย่างพิจารณา แต่ไม่ได้ตอบสนองใด ๆ
เมื่อขวัญข้าวผละริมฝีปากออก ครามก็ผลักร่างของเธอออกเบา ๆ
"พอ" เสียงของเขาต่ำและห้วน
ขวัญข้าวมองเขาด้วยความงุนงงและเจ็บปวด เธอไม่เข้าใจว่าเธอทำอะไรผิด
ครามไม่พูดอะไร เขาลุกขึ้นยืน มองลงมายังร่างเปลือยเปล่าของขวัญข้าวด้วยแววตาที่ยากจะอ่านออก
"ถ้าเธอทำไม่เป็น...ฉันจะทำเอง" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ แต่แฝงไปด้วยอำนาจที่ทำให้ขวัญข้าวรู้สึกอ่อนแรง
ครามโน้มตัวลงมาประกบริมฝีปากกับขวัญข้าวอย่างรุนแรงและป่าเถื่อน มันเป็นการจูบที่ปราศจากความอ่อนโยน มีเพียงความต้องการที่ดิบเถื่อนและอำนาจที่เขาต้องการแสดงออก
ริมฝีปากของเขาบดขยี้ริมฝีปากบางของเธออย่างหนักหน่วง จนขวัญข้าวรู้สึกเจ็บ เธอพยายามเบือนหน้าหนี แต่ครามก็จับใบหน้าของเธอไว้แน่น ไม่ยอมให้เธอหลบ
เขาแทรกลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากของเธออย่างรุกล้ำ กวาดต้อนลิ้นเล็กของเธออย่างไม่ปราณี ขวัญข้าวหายใจไม่ออก เธอพยายามดิ้น แต่แรงของเขามันมากเกินกว่าที่เธอจะต่อต้านได้
น้ำตาของขวัญข้าวไหลอาบแก้ม เธอรู้สึกเหมือนถูกรุกราน ถูกย่ำยีศักดิ์ศรีจนไม่เหลือชิ้นดี การจูบที่ควรจะเป็นสัญลักษณ์ของความรัก กลับกลายเป็นเครื่องมือของการแสดงอำนาจและการครอบครอง
ครามผละริมฝีปากออกอย่างรวดเร็ว มองลงมายังใบหน้าที่เปรอะเปื้อนน้ำตาของขวัญข้าวด้วยแววตาที่แข็งกระด้าง เขาจ้องมองใบหน้าที่เปรอะเปื้อนน้ำตาของขวัญข้าวด้วยแววตาที่เย็นชาและไร้ความปราณี
"หยุดร้องไห้ได้แล้ว" เขาออกคำสั่งเสียงต่ำ "อย่ามีน้ำตาให้ผมเห็น ทั้งหมดนี้มันเป็นหน้าที่ที่ผู้หญิงอย่างคุณต้องทำ จำไว้ด้วย"
คำพูดของเขาเหมือนกรีดลึกลงไปในใจของขวัญข้าว เธอเม้มปากแน่น พยายามกลั้นสะอื้นอย่างสุดความสามารถ แม้ว่าน้ำตาจะยังคงไหลรินออกมาอย่างห้ามไม่ได้ก็ตาม เธอหลับตาลง ปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบ ๆ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองไร้ค่าและไม่มีทางออก
ครามไม่ได้สนใจน้ำตาของเธอ เขามองเธอด้วยสายตาที่แข็งกระด้าง ครามกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ดวงตาคมกริบจ้องมองขวัญข้าวอย่างไม่ลดละ
"จำไว้ ขวัญข้าว ถ้าผมไม่ประมูลตัวคุณมา ป่านนี้คุณคงไปอยู่ในช่อง หรือไปเป็นของเล่นของไอ้เฒ่าหัวงูที่ไหนก็ไม่รู้"
คำพูดของเขาแทงใจดำของขวัญข้าวอย่างจัง แม้จะเจ็บปวดกับสิ่งที่ครามทำ แต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นอาจเป็นความจริง สถานการณ์ของเธอในคืนนั้นมันเลวร้ายจนแทบไม่มีทางออก
