บท
ตั้งค่า

คืนแห่งการตีราคา

แสงสีสลัวบาดตา สาดส่องร่างบอบบางที่ยืนตัวสั่นอยู่บนเวทีเล็กๆ เสียงโห่ร้องและเสียงต่อรองราคาดังกระหึ่ม ราวกับฝูงแร้งที่จ้องจะตะครุบเหยื่อ "ขวัญข้าว" หญิงสาววัยเพียงยี่สิบสี่ปี ก้มหน้าต่ำ น้ำตาคลอหน่วย เธอถูกขาย...เหมือนสิ่งของชิ้นหนึ่ง ไร้ซึ่งอิสระและศักดิ์ศรี

ในมุมมืดของคลับหรู "The Sand" คราม นั่งจิบวิสกี้เย็นเยียบ ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังร่างบนเวทีอย่างเฉยเมย เขามาที่นี่เพื่อจัดการธุรกิจบางอย่าง แต่สายตากลับต้องสะดุดกับหญิงสาวผู้น่าสงสารคนนั้น ท่าทางหวาดกลัว ดวงตากลมโตที่ฉายแววสิ้นหวัง...บางอย่างในตัวเธอดึงดูดความสนใจของเขาอย่างประหลาด

เสียงเคาะไม้ดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าการประมูลกำลังจะสิ้นสุดลง ราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ในใจของครามกลับเกิดความรู้สึกบางอย่างที่ไม่คุ้นเคย เขาไม่เคยสนใจ "สินค้า" เหล่านี้มาก่อน แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้...เขาไม่อยากให้เธอตกไปอยู่ในมือใครอื่น

"สิบล้าน!" เสียงทุ้มต่ำของครามดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ทำให้ทุกคนหันมามองอย่างตกตะลึง ราคาที่เขาเสนอสูงจนทุกคนต้องชะงัก

ไม่มีใครกล้าต่อราคา คราม...ประธานหนุ่มผู้ทรงอิทธิพลแห่งเมืองนี้ เมื่อเขาต้องการอะไร ก็ไม่มีใครกล้าขวาง

ขวัญข้าวเงยหน้าขึ้นมองไปยังทิศทางของเสียง ดวงตาของเธอเบิกกว้างเมื่อเห็นใบหน้าคมเข้มที่ไร้ซึ่งรอยยิ้มของผู้ชายคนนั้น เขา...เป็นใครกัน

ในที่สุด การประมูลก็จบลงด้วยราคาที่ครามเสนอ ขวัญข้าวถูกพาตัวลงจากเวที หัวใจของเธอเต้นระส่ำด้วยความหวาดกลัว เธอไม่รู้ว่าชะตากรรมของเธอจะเป็นอย่างไรต่อไป

ครามเดินเข้ามาใกล้ร่างบอบบางที่ยืนตัวสั่นเทาอยู่เบื้องหน้า มองเธอด้วนสายตาไร้ซึ่งความรู้สึก ก่อนจะเดินออกไปจากคลับ ครามเดินนำลิ่วๆ ออกจากคลับ "The Sand" โดยไม่แม้แต่จะชายตามองขวัญข้าวที่ยืนตัวสั่นเทาอยู่เบื้องหลัง กฤต ลูกน้องคนสนิทของเขาพยักหน้าให้ขวัญข้าวตามมาด้วยท่าทีสุภาพเจือความเห็นใจ

"คุณ..." กฤตเว้นวรรคเพื่อที่จะถามถามชื่อของเธอ

"ขวัญข้าวคะ เรียกขวัญก็ได้ค่ะ" เสียงของขวัญสั่นเครือเล็กน้อย

"ครับ คุณขวัญ ตามผมมานะครับ" กฤตผายมือไปยังทางออกอย่างนุ่มนวล

ขวัญเดินตามกฤตออกไปจากคลับ แสงไฟยามค่ำคืนสาดส่องใบหน้าเศร้าหมองของเธอ เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเดินเข้าสู่ความมืดมิดที่ไม่รู้จุดจบ

รถยนต์หรูสีดำจอดรออยู่ริมทาง กฤตเปิดประตูรถให้ขวัญขึ้นไปนั่ง ครามนั่งรออยู่ที่เบาะหลังฝั่งตรงข้าม แววตาของเขายังคงเรียบนิ่งจนเดาไม่ออก

เมื่อขวัญนั่งลงเรียบร้อยแล้ว กฤตก็ปิดประตูและเดินไปนั่งที่เบาะคนขับ รถเคลื่อนตัวออกจากหน้าคลับไปอย่างเงียบเชียบ

ขวัญข้าวรู้สึกอึดอัด เธอไม่กล้าสบตากับเขา ได้แต่ก้มหน้ามองมือของตัวเองที่กำลังสั่นเทา เธอไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เขาคือใคร รู้แต่เพียงว่าเขาคือคนที่ประมูลเธอมาในราคาสิบล้านบาท

"กฤต ไปส่งฉันที่บ้านก่อน แล้วค่อยพาเธอไปที่คอนโดของฉัน และนายก็จัดการตามที่ฉันสั่งด้วย" เสียงทุ้มต่ำของครามดังขึ้น ทำลายความเงียบภายในรถ

กฤตที่นั่งอยู่ด้านหน้าหันมามองกระจกหลังเล็กน้อย ก่อนจะตอบรับด้วยน้ำเสียงนอบน้อม "ครับ นาย"

ขวัญข้าวเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายตรงหน้าด้วยความสงสัย "คุณจะไปฉันไปไหนคะ" เธอถามเสียงแผ่ว

ครามไม่ได้หันมามองเธอ เขายังคงจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างรถ แสงไฟจากเสาไฟฟ้าส่องกระทบใบหน้าคมเข้มของเขาเป็นระยะ เผยให้เห็นโครงหน้าที่แข็งกระด้างและไร้ซึ่งอารมณ์

"ไม่ใช่เรื่องของคุณ ผมซื้อคุณมาแล้ว ผมจะทำอะไรหรือพาคุณไปที่ไหนมันก็เรื่องของผม" เสียงของเขาเย็นชาจนขวัญข้าวรู้สึกเหมือนถูกน้ำแข็งเกาะกุมหัวใจ

เธอจึงก้มหน้าลงอีกครั้ง ไม่กล้าถามอะไรอีก ได้แต่เก็บความสงสัยและความหวาดกลัวไว้ในใจ ใช่เธอมันเป็นแค่สิ่งของที่เขาประมูลมา เขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้

รถแล่นไปตามถนนในเมืองใหญ่ แสงสีสว่างจ้าของผู้คนและยวดยานพาหนะไม่ได้ช่วยให้ความรู้สึกมืดมิดในใจของขวัญข้าวจางหายไปเลย ตรงกันข้าม เธอกลับรู้สึกโดดเดี่ยวและแปลกแยกมากขึ้น

ไม่นานนัก รถก็จอดสนิทที่หน้าบ้านหลังใหญ่โตโอ่อ่าแห่งหนึ่ง แสงไฟสว่างไสวจากภายในบ้านลอดออกมาทางหน้าต่าง บ่งบอกถึงความมั่งคั่งและอำนาจของเจ้าของ

ครามเปิดประตูรถลง และเดินเข้าบ้านไปโดยไม่ได้หันหลังมามองเธอเลย กฤตเองก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองเธอผ่านกระจกมองหลังด้วยสายตาที่ยากจะตีความ

"คุณขวัญครับ" เสียงกฤตเรียกเบาๆ จากเบาะหน้า

ขวัญข้าวหันไปมองเขาด้วยดวงตาที่ยังคงสั่นระริก

"เดี๋ยวผมจะไปส่งคุณที่คอนโดนะครับ" กฤตกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ

รถเคลื่อนตัวออกจากหน้าบ้านหลังใหญ่อย่างเงียบเชียบมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางใหม่ที่ขวัญข้าวไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง

ในที่สุด รถก็เลี้ยวเข้ามาในคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง กฤตขับรถไปที่จอดรถและดับเครื่องยนต์ เขาหันมามองขวัญข้าวด้วยสีหน้าเห็นใจ

"ถึงแล้วครับ คุณขวัญ" เขากล่าว

กฤตลงจากรถและเดินนำขวัญข้าวไปยังประตูทางเข้าคอนโด ขวัญข้าวเดินตามหลังกฤต เมื่อมาถึงหน้าห้องชุดหรู กฤตก็ใช้คีย์การ์ดเปิดประตู

"เชิญครับ" กฤตผายมือให้ขวัญข้าวเดินเข้าไปข้างในห้องอย่างช้าๆ สายตากวาดมองไปรอบๆ อย่างประหลาดใจ นี่คือห้องชุดที่ตกแต่งอย่างหรูหราเกินกว่าที่เธอเคยจินตนาการไว้ ผนังสีอ่อนขับให้เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ทันสมัยดูโดดเด่น โซฟาหนังตัวใหญ่วางอยู่ตรงกลางห้องรับแขก โทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ติดอยู่บนผนังฝั่งตรงข้าม พรมผืนหนานุ่มสีเทาปูทับพื้นหินอ่อนเงาวับ ทุกอย่างดูใหม่และแพงระยับ

"นี่เป็นห้องของคุณครามครับ" กฤตกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ยังคงสุภาพ "คุณครามให้คุณมาอยู่ที่นี่"

ขวัญข้าวมองหน้ากฤตด้วยความไม่เข้าใจ "ให้อยู่ที่นี่...ทำไมคะ" เธอถามเสียงแผ่ว

กฤตหลุบตาลงเล็กน้อย "ผม...ไม่ทราบรายละเอียดครับ คุณครามสั่งให้ผมพาคุณมาที่นี่ ถ้าคุณอยากทราบอะไรต้องถามคุณครามครับ"

ขวัญข้าวมองสำรวจห้องอีกครั้ง เธอรู้สึกเหมือนตัวเองหลุดเข้ามาในโลกอีกใบ โลกที่แตกต่างจากบ้านเช่าโทรมๆ ของเธอราวฟ้ากับดิน

"แล้ว...ฉันต้องทำอะไรบ้างคะ" ขวัญข้าวถามด้วยความกังวล

กฤตเงียบไปครู่หนึ่ง "คุณครามไม่ได้สั่งอะไรเป็นพิเศษครับ คง...ให้คุณพักผ่อนที่นี่"

"พักผ่อน..." ขวัญข้าวทวนคำอย่างไม่แน่ใจ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่เพิ่งซื้อเธอมาถึงให้เธอมาพักผ่อนในห้องหรูเช่นนี้

"ครับ" กฤตตอบสั้นๆ "ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับพรุ่งนี้ช่วงบ่ายเดี๋ยวผมมารับไปซื้อเสื้อผ้านะครับ" เขากล่าวเสริม ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ขวัญข้าวยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง

เสียงประตูปิดลงเบาๆ ทิ้งให้ขวัญข้าวยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง ท่ามกลางห้องหรูที่เต็มไปด้วยความสง่างาม…แต่กลับไร้ความอบอุ่น

เธอถอนหายใจเฮือกเบาๆ ดวงตาไล่มองไปรอบห้องอีกครั้ง ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบเกินไป…แต่เธอกลับรู้สึกเหมือนอยู่ในกรงทองที่มีเพียงความเงียบงันเป็นเพื่อน

ขวัญข้าวเดินช้าๆ ไปที่หน้าต่าง มองแสงไฟนับพันของเมืองหลวงที่ทอดยาวไกลสุดสายตา วันนี้เป็นวันที่ยาวนานสำหรับเธอ

ขวัญข้าว เติบโตมาในบ้านเช่าโทรมๆ กับ "พ่อ" ผู้ซึ่งจมดิ่งอยู่กับการพนัน หลังจากที่แม่ของเธอจากไปด้วยอุบัติเหตุ ขวัญข้าวก็เหมือนถูกทิ้งไว้กลางทางตามลำพัง พ่อไม่เคยดูแลเอาใจใส่ มีแต่เสียงบ่นด่า และการขอเงินเพื่อไปเล่นพนัน

ขวัญข้าว (หรือข้าว) ต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก เธอรับจ้างล้างจาน ทำความสะอาดบ้านคนอื่น เพียงเพื่อประทังชีวิตและหาเงินมาจุนเจือพ่อที่เอาแต่สร้างหนี้สิน

ความหวังเดียวในชีวิตของข้าวคือการได้เรียนหนังสือให้จบ และมีชีวิตที่ดีกว่านี้ เธอตั้งใจเรียน ขยันขันแข็ง และเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ที่หามาได้

แต่แล้ว วันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอก็มาถึง เมื่อพ่อของเธอกลับมาบ้านด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียดและแววตาที่เต็มไปด้วยความโลภ เขาคว้าแขนข้าวไว้แน่น

"แกต้องช่วยพ่อ" เสียงของเขาหยาบกระด้าง

"ช่วยอะไรคะพ่อ หนูไม่มีเงินแล้วนะ" ข้าวตอบด้วยความหวาดระแวง

"ไม่ใช่เงิน...แกต้องไปกับฉัน" พ่อของเธอลากข้าวออกจากบ้าน ทั้งๆ ที่เธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

พวกเขานั่งรถแท็กซี่ไปยังคลับหรู "The Sand" ข้าวรู้สึกใจคอไม่ดีกับสถานที่แบบนี้ เมื่อเข้ามาข้างใน แสงสีฉูดฉาดและเสียงเพลงดังกระหึ่มก็ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว

แล้วเธอก็ได้รู้ความจริงอันแสนเจ็บปวด เมื่อพ่อของเธอผลักเธอขึ้นไปบนเวทีเล็กๆ ท่ามกลางสายตาของผู้ชายมากมายที่มองมาอย่างจาบจ้วง

"นี่คือลูกสาวของฉัน ใครให้ราคาสูงสุด เอาตัวเธอไปได้เลย!" เสียงพ่อของเธอดังขึ้นอย่างเลือดเย็น ราวกับเธอเป็นเพียงสินค้าไร้ค่า

น้ำตาของข้าวไหลอาบแก้ม เธอรู้สึกเหมือนถูกทรยศซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากคนที่ควรจะปกป้องเธอมากที่สุด

และในคืนนั้นเอง คราม ก็ปรากฏตัวขึ้นในสายตาของเธอ...ผู้ชายที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตอันแสนมืดมิดของเธอไปตลอดกาล

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel