บทที่ 2
ปริญชายหนุ่มรูปหล่อร่างกายสูงใหญ่เป็นที่สนใจของสาวน้อยสาวใหญ่มากมายต้องอยู่ในความดูแลของปกรณ์ผู้ซึ่งเป็นลุงหลังจากที่บิดาและมารดาจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาเรียนจบปริญญาโทด้านการบริหารจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศอังกฤษ ชายหนุ่มเป็นประเภทชอบเก็บตัวแต่เขาก็ยังสามารถบริหารธุรกิจของครอบครัวได้อย่างดีเยี่ยมแม้จะไม่เข้าทำงานในบริษัททุกวัน วันนี้เขาเข้ามาจัดการเรื่องสัญญาต่างๆแต่เช้าและเตรียมที่จะกลับไปทำงานต่อที่ห้องทำงานส่วนตัวที่คอนโด
“บอสครับ วันนี้มีประชุมตอนบ่ายโมงนะครับ”
“แต่ในตารางของผมไม่มีนี่ครับ” ชายหนุ่มก้มลงมองตารางงานในมือของตนอีกครั้งด้วยความสงสัย
“เราจะทำเซอร์ไพรส์ให้คุณพฤกษ์ไงครับ เห็นว่าจะมีการมอบของขวัญให้ด้วยนะครับ” พฤกษ์นั้นกำลังจะย้ายไปทำงานต่างสาขาวันนี้ทุกคนเลยตั้งใจจัดงานเลี้ยงส่งให้กับชายหนุ่มที่ผับชื่อดังแห่งหนึ่ง
“จริงด้วยวันนี้วันสิ้นเดือนแล้วสินะ ผมทำงานลืมวันลืมคืนไปเลย” ปริญส่ายศีรษะตัวเองไปมาเบาๆ อาจจะเป็นเพราะเขาเอาแต่คิดเรื่องงานจนลืมเรื่องราวต่างๆรอบกายไปบ้างรวมถึงการหาคนรักคู่เคียงข้างกายในวันที่ต้องการพักพิงหัวใจ
“วันนี้บอสต้องออกล่าเหยื่อแล้วครับ การที่มีสาวๆข้างกายมันทำให้หัวใจของเรากระชุ่มกระชวยได้นะครับบอส” พงษ์ศักดิ์พูดน้ำเสียงหยอกเย้า
“วันนี้ผมไม่ปฏิเสธก็แล้วกัน จะไปที่ไหนตอนไหนก็ส่งรายละเอียดมาด้วยแล้วกัน” ไหนๆคนสนิทก็จะต้องไปทำงานไกลกันเขาคงจะใจร้ายเกินไปแล้วถ้าไม่ไปร่วมฉลองเลี้ยงส่งด้วย
“จริงนะครับบอส วันนี้ผมจะดูแลบอสเอง ฮ่าๆ” พงษ์ศักดิ์หัวเราะชอบใจที่วันนี้บอสหนุ่มไม่ปฏิเสธงานเลี้ยงสังสรรค์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ณ ผับหรูแห่งหนึ่ง
รถหรูของชญานีขับมาจอดที่ด้านหน้าทางเข้า จากนั้นพนักงานก็บริการนำรถไปจอดที่ลานจอดรถด้านหลังให้ ชุดที่กรรัมภาสวมใส่คือชุดของคุณหมอชญานีซึ่งมันเซ็กซี่บาดใจคนที่มองมาจนเธอรู้สึกว่ากำลังเป็นจุดสนใจ สองสาวตรวจเช็คความเรียบร้อยก่อนที่จะสาวเท้าเดินเข้าไปด้านในแต่แล้วโทรศัพท์เครื่องหรูก็กรีดร้องเสียงดัง ชญานีทำหน้าไม่ถูกเมื่อเห็นว่าสายที่โทรเข้ามาเป็นมารดาของเพื่อนสนิท ใจจริงหล่อนไม่อยากโกหกแต่เพื่อเพื่อนหล่อนจะยอมทำมันอีกสักครั้งก็แล้วกัน
"สวัสดีค่ะคุณป้าทิพย์"
"หนูนีจ้ะ ลูกสาวของป้าอยู่กับหนูใช่ไหมลูก"
"ยัยพรีนน่ะหรอคะ ยัยพรีนไม่ได้อยู่กับหนูนะคะ"
"อย่าโกหกป้านะลูก ป้าเป็นห่วงลูกสาวของป้าจริงๆ"
"คือพรีนโทรมาหาหนูค่ะว่าจะมาอยู่กับเพื่อน แต่ไม่ได้บอกหนูเลยค่ะคุณป้าว่าเพื่อนคนนั้นคือใคร คุณป้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะเดี๋ยวยัยพรีนเลิกติสท์ก็คงกลับไปหาคุณป้าเอง"
"จ้ะ อย่างน้อยรู้ว่ายังปลอดภัยก็ยังดี ป้าไม่น่ารีบบอกเรื่องแต่งงานกับพรีนเลย ไม่อย่างนั้นก็คงไม่หนีป้าไปแบบนี้"
"แต่งงานกับใครหรอคะ ขออนุญาตถามนะคะคุณป้า"
"แต่งกับภานุไงลูก หนูก็น่าจะเคยเจอตาภานุแล้วนะจ๊ะ"
"คุ้นๆชื่อนะคะ คุณป้าคะนีต้องขอวางสายก่อนนะคะ"
"โอเคจ้ะ ป้าไม่รบกวนหนูแล้ว ขอบคุณนะจ๊ะ"
"ไม่เป็นไรเลยค่ะ สวัสดีค่ะ" หลังจากวางสายชญานีก็ถอนหายใจออกมาเสียงดัง แม้จะรู้สึกผิดแต่ก็เพราะทำเพื่อความรู้สึกของเพื่อน
"ราบรื่นดีจังคุณเพื่อน" กรรัมภาเอ่ยแซวเพื่อนสาวยิ้มๆ เธอหวังว่ามารดาจะเชื่อสิ่งที่ชญานีบอก
"ก็ถ้าตีบทไม่แตกก็โดนแม่หล่อนจัดการข้อหาริอาจโกหกท่านน่ะสิ เผลอๆอาจจะให้เราสองคนเลิกคบกันเลยก็ได้" ชญานีไม่อยากให้ประเด็นนี้กลายมาเป็นตัวตัดสินความเป็นเพื่อน แถมนายภานุอะไรนั่นเธอจำได้ดีว่าเขาเป็นคนแบบไหน ไม่น่าคบหาเอาเสียเลย
"ขอบใจแกมากนะ" กรรัมภารู้สึกซาบซึ้งใจมากๆที่เพื่อนสาวให้ความช่วยเหลือ
"ไม่ต้องขอบใจหรอก ฉันรู้ว่าแกอึดอัดแค่ไหนที่จะโดนจับแต่งงานกับคนที่ตัวเองไม่ได้ชอบพอด้วย"
"มีแต่แกนี่แหละที่เข้าใจฉัน" กรรัมภาทำท่าโผเข้ากอดเพื่อนสาวแต่โดนปฏิเสธทันที
"โนค่ะอย่ามากอดเดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าเราเป็นเลสเบี้ยนแล้วไม่มีหนุ่มๆมาสนใจ"
"ฮ่าๆ โอเคค่ะคุณเพื่อน เข้าไปข้างในกันเถอะฉันอยากสนุกจะแย่แล้ว" กรรัมภาหัวเราะคิกคักชอบใจ เวลาที่เธอได้มาอยู่กับชญานีทีไรเธอเหมือนได้มาปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมา
