บท
ตั้งค่า

13 หนักแค่ไหนก็ไม่เกี่ยง

เช้านี้ภาคินัยยืนอยู่หน้าแถวคนงานที่มารวมตัวกัน เขาแนะนำอัญชลิดาให้ทุกคนรู้จัก

“นี่คือคุณอัญ ผู้จัดการไร่คนใหม่ของพวกเรา” ภาคินัยกล่าวอย่างเป็นกันเอง

“ต่อจากนี้ไปให้คนงานทุกคน เชื่อฟังและทำตามคำสั่งของคุณอัญ” สายตาหลายคู่จับจ้องไปที่อัญชลิดา เธอส่งยิ้มให้ทุกคนอย่างเป็นมิตร แต่ก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่เคลือบแคลงสงสัย โดยเฉพาะจากนายชิด หัวหน้าคนงานที่ยืนมองเธออย่างพิจารณา

พอช่วงสายเมื่ออัญชลิดาเริ่มเดินสำรวจต้นองุ่นในไร่ นายชิดก็เดินตามเธอมาติดๆ อัญชลิดารู้แต่ไม่ได้หันไปมอง จนเสียงฝีเท้าดังอยู่ด้านหลังของเธอ

“คิดผิดคิดใหม่นะครับ ผู้หญิงตัวเล็กจะไหวเหร่อ!! งานในไร่มันหนักนะคุณ” เสียงแหบห้าวของนายชิดเอ่ยขึ้นที่ด้านหลังของเธอ

“ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้นล่ะ” อัญชลิดาถามกลับ

“ก็...คุณดูไม่เหมือนคนที่ทำงานหนักๆ ได้นี่ครับ” นายชิดตอบอย่างเหยียดๆ

“ฉันทำได้แน่นอนค่ะ” อัญชลิดากล่าวอย่างหนักแน่น นายชิดมองเธอด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม ก่อนจะแสยะยิ้มออกมาแล้วเดินจากไป

นายชิดตัดสินใจเดินตรงไปยังภาคินัยที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ไม่ไกลนัก เขาอยากรู้ให้แน่ชัดว่าเหตุใดเจ้านายถึงได้แต่งตั้งผู้หญิงร่างบอบบางอย่างอัญชลิดามาเป็นผู้จัดการในไร่ ทั้งๆ ที่เขาเองก็มีประสบการณ์และทำงานที่นี่มานาน

“พ่อเลี้ยงครับ” นายชิดเอ่ยด้วยเสียบนอบน้อม

“ผมมีเรื่องอยากจะถามพ่อเลี้ยงหน่อยครับ” ภาคินัยหันมามองนายชิดด้วยสายตาเรียบเฉย

“มีอะไร?”

“ทำไมพ่อเลี้ยงถึงจ้างคุณอัญชลิดามาเป็นผู้จัดการไร่ครับ?” นายชิดถามอย่างตรงไปตรงมา

“ผมคิดว่าผมเองก็มีประสบการณ์และทำงานที่นี่มานาน ผมมั่นใจว่าผมเหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากกว่านะครับ” ภาคินัยยกยิ้มมุมปาก เมื่อนายชิดกล่าวจบ

“นายคิดว่าตัวเองเหมาะสมกว่าคุณอัญชลิดางั้นเหรอ”

“ครับพ่อเลี้ยง” นายชิดตอบอย่างมั่นใจ

“ผมรู้จักไร่แห่งนี้ดีกว่าใครๆ ผมรู้ทุกซอกทุกมุมของไร่ ผมรู้ว่าต้องดูแลต้นองุ่นยังไง ผมรู้ว่าต้องจัดการคนงานยังไง” นายชิดรีบอวดอ้างทันที

“แล้วนายคิดว่าคุณอัญ เค้าไม่รู้เรื่องพวกนี้เลยเหรอ” ภาคินัยถาม

“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับพ่อเลี้ยง” นายชิดรีบตอบ ก่อนจะรีบพูดต่อทันที

“แต่ผมคิดว่าเธอคงไม่มีประสบการณ์มากพอที่จะทำงานนี้ได้หรอกครับ พ่อเลี้ยง”

“ประสบการณ์มันสร้างกันได้” ภาคินัยกล่าว

“คุณอัญเธอจบเกษตรมา เธอเป็นคนมีความสามารถ เธอเรียนรู้งานได้เร็ว และอีกอย่างเธอก็มีความคิดสร้างสรรค์ ผมเชื่อว่าเธอจะนำพาไร่ของเราไปสู่ความสำเร็จได้นายคอยดูสิ” มาถึงตอนนี้ภาคินัยก็ชักเริ่มไม่อยากแก้แค้นเธอเสียแล้ว

“แต่พ่อเลี้ยงครับ...” นายชิดพยายามแย้ง

“พอเถอะนายชิด” ภาคินัยกล่าวเสียงเข้ม

“ฉันตัดสินใจไปแล้ว และฉันก็จะไม่เปลี่ยนใจ” นายชิดเงียบไป เขาไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีก

“แล้วฉันหวังว่านายจะให้ความร่วมมือกับคุณอัญเค้านะ” ภาคินัยเอ่ยเตือนหัวหน้าคนงาน

“แล้วถ้านายมีอะไรที่ไม่เข้าใจ ก็ให้ถามเธอได้”

“ครับพ่อเลี้ยง” นายชิดตอบเสียงอ่อย เขาเดินจากไป ด้วยความรู้สึกขุ่นเคืองใจ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมภาคินัยถึงได้ให้โอกาสผู้หญิงคนนั้น ทั้งๆ ที่เขาเองก็ทำงานหนักและทุ่มเทให้กับไร่แห่งนี้มาโดยตลอด

“หรือว่า...” นายชิดพึมพำกับตัวเอง

“เธอจะเป็นเมียใหม่ของพ่อเลี้ยง” ความคิดนี้ทำให้เขาหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น เขาไม่ชอบใจเลยที่ผู้หญิงคนนั้นเข้ามามีบทบาทในไร่แห่งนี้

นายชิดรีบเดินจากไป คนงานหลายคนจับกลุ่มคุยกันถึงอัญชลิดา บ้างก็ว่าเธออาจจะเป็นหวานใจคนใหม่ของพ่อเลี้ยง แต่คำเอื้อยก็แย้งว่าภาคินัยเพิ่งจะสูญเสียภรรยาไป จะมีกะจิตกะใจไปรักใครได้อีก

“มันก็ไม่แน่หรอกโว้ย” คนงานผู้หญิงคนหนึ่งเถียงขึ้น

“พ่อเลี้ยงอาจจะแค่หาใครสักคนมาแทนที่เมียเก่าก็ได้”

“จันผาเอ็งอย่าพูดจาเหลวไหล” คำเอื้อยรีบปรามเพื่อนของเธอ

“คุณภาคินัยไม่ใช่คนแบบนั้น”

“เอ็งจะไปรู้อะไร” จันผาเถียง

“พ่อเลี้ยงอาจจะแค่หาคนมาคอยดูแลในไร่แทนเมียเก่าก็ได้ เวลาที่ไม่อยู่อะไรแบบเนี้ย”

“ถ้าอย่างนั้นก็คงเป็นงานหนักสำหรับคุณอัญ” คนงานอีกคนกล่าว

“เพราะพ่อเลี้ยงแกขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวดอยู่แล้ว”

“นั่นสิ” คนงานคนอื่นๆ เห็นด้วย

“ไม่รู้ว่าคุณอัญจะทนได้นานแค่ไหน” คำเอื้อยถอนหายใจ

อัญชลิดามานั่งพักใกล้ ๆ คนงานที่พักเที่ยงนั่งทานข้าวแล้วคุยกัน เธอสัมผัสได้ถึงสายตาที่จับจ้องมาจากทุกทิศทาง เธอรู้ว่าเธอต้องพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่าเธอมีความสามารถมากพอที่จะทำงานนี้ได้

อัญชลิดาตัดสินใจลุกขึ้นเดินสำรวจไร่ไปเรื่อยๆ เธอตั้งใจเรียนรู้งานทุกอย่างที่ภาคินัยสอน และพยายามทำความเข้าใจกับระบบการทำงานของไร่องุ่นแห่งนี้ แต่สายตาของคนงานที่มองมายังเธออย่างเคลือบแคลงสงสัย ก็ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดอยู่ไม่น้อย

ระหว่างที่อัญชลิดากำลังเดินตรวจดูแปลงองุ่น นายชิดก็เดินเข้ามาหาเธออีกครั้ง

“คุณอัญครับ” นายชิดเรียก

“มีอะไรเหรอคะ” อัญชลิดาถาม

“ผมแค่อยากจะบอกว่า ถ้าคุณอัญมีอะไรให้ผมช่วย ก็บอกได้เลยนะครับ” นายชิดกล่าว เขารู้ว่าเธอคงไม่ธรรมดาแน่ ๆ จึงไม่กล้าพูดจารุนแรงกับเธอ และเอาไว้มีโอกาสค่อยหาวิธีเล่นงานทีหลัง

“อ๋อ..ขอบคุณค่ะ” อัญชลิดากล่าวขอบคุณ

“แต่ว่า...” นายชิดกล่าวต่อ

“ถ้าคุณอัญอยากจะเรียนรู้งานจริงๆ ผมว่าคุณอัญควรจะลองลงมือทำเองบ้างนะครับ” อัญชลิดาเข้าใจในสิ่งที่นายชิดพูด เธอรู้ว่าเธอต้องพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่าเธอมีความสามารถมากพอที่จะทำงานนี้ได้

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ” อัญชลิดากล่าว

“ผมหวังว่าคุณอัญจะไม่ถือสาผมนะครับ” นายชิดกล่าวก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก

“ไม่เลยค่ะ” อัญชลิดาตอบอย่างเป็นกันเอง

“ฉันเข้าใจดี” นายชิดยิ้มให้เธอ ก่อนจะเดินจากไป อัญชลิดามองตามเขาไป ก่อนจะเริ่มลงมือทำงานด้วยตัวเอง เขาจะต้องหาทางเล่นงานเธอให้จงได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง!

อัญชลิดาเริ่มจากการตรวจดูต้นองุ่นแต่ละต้นอย่างละเอียด เธอสังเกตเห็นว่ามีต้นองุ่นบางต้นที่เริ่มมีอาการของโรคราน้ำค้าง เธอจึงรีบแจ้งให้นายชิดทราบ

“จันผา ต้นองุ่นแปลงนี้เริ่มติดโรคราน้ำค้างแล้ว” อัญชลิดารีบ คนงานผู้หญิงที่อยู่ใกล้ ๆ เธอจึงรีบเดินมาดูต้นองุ่นตามที่อัญชลิดาบอก

“จริงด้วยค่ะ คุณอัญ!!!” เธอตกใจ

“ขอบคุณมากนะครับคุณอัญ ถ้าคุณอัญไม่สังเกตเห็น คงจะเสียหายหนักแน่ๆ” จันผารีบบอกคนงานอีกหลายคนให้รีบเตรียมยาพ่น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel