บท
ตั้งค่า

บทที่3 แพรวารินทร์ 1

เวลาต่อมา

ห้องผ่าตัด

หลังจากรถพยาบาลพาคนเจ็บมาถึงโรงพยาบาลหญิงสาวก็ถูกนำตัวเข้าทำMRIทันทีและผลก็ออกมาว่ามีเลือดคั่งอยู่ในสมองบริเวณจุดสำคัญพอดีจึงถูกนำตัวเข้าห้องผ่าตัดทันทีโดยมีพงศ์พยัคฆ์เป็นหัวหน้าทีมแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด โชคดีที่ไม่มีเนื้องอกอย่างที่พงศ์พยัคฆ์กังวลแต่คนเจ็บก็มีเลือดคั่งมาก่อนหน้านี้แล้ว

“การผ่าตัดครั้งนี้อันตรายมากเราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษขอให้ทุกคนอย่าประมาท เอาล่ะก่อนอื่นเราจะเปิดกะโหลกเพื่อระบายเลือดที่คั่งออกทุกคนพร้อม” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นทุกคนพยักหน้าก่อนที่การผ่าตัดจะเริ่มขึ้นอย่างระมัดระวังจนกระทั่งสิ้นสุดการผ่าตัด ร่างอันเหนื่อยล้าก้าวออกจากห้องผ้าตัดก่อนที่จะพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยล้าและโล่งใจ

“เป็นไงบ้างวะเสือ ปลอดภัยแล้วใช่มั้ย” ปัญจวัตรเอ่ยถามเพื่อนรักหลังจากให้การกับตำรวจเท่าที่เห็นและพาเด็กน้อยที่ดูท่าจะหิวไปทานข้าวเพราะตนกับกุมารแพทย์สาวก็ทานไปได้ไม่ถึงสามคำก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นซะก่อนจากนั้นชายหนุ่มจึงขับรถกลับมาที่โรงพยาบาลพร้อมกับฟ้ารดาและเด็กหญิงตัวน้อยที่หยุดร้องไห้แล้ว

หมอหนุ่มพยักหน้าก่อนที่จะสอบถามถึงการติดต่อญาติคนไข้ “ปลอดภัยแล้วการผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดีแล้วมีญาติมารับแม่หนูนี่รึยัง”

“เดี๋ยวพ่อของน้องน้ำก็คงมา”ปัญจวัตรเอ่ยบอก คำตอบสั้นๆ ของปัญจวัตรทำให้เพื่อนหนุ่มทำหน้างุนงงพร้อมกับพูดออกมา “น้องน้ำ?”

“ใช่น้องเขาชื่อน้องน้ำแล้วบังเอิญมากว่ะ น้องน้ำเป็นลูกไอ้ไมค์” ปัญจวัตรเอ่ยไขข้อสงสัยของเพื่อนรักในตอนที่ตนหยิบโทรศัพท์ของคนเจ็บขึ้นมาจะโทรหาคนรู้จักได้เห็นรูปของหญิงสาวกับชายหนุ่มที่รู้จักอุ้มเด็กหญิงอยู่พอฟ้ารดาเอ่ยถามเด็กน้อยก็บอกว่าเป็นคุณพ่อทำให้ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมาโทรอย่างไม่ลังเล

“ลูกไอ้ไมค์เหรอเนี่ย...สวัสดีครับน้องน้ำ อาชื่อเสือนะอาเป็นเพื่อนกับพ่อของหนูตอนนี้แม่หนูปลอดภัยแล้วนะครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกแก่เด็กน้อยที่เพิ่งรู้ว่าเป็นลูกเพื่อนสนิทอีกคนแต่เพราะตนและปัญจวัตรเรียนแพทย์ส่วนพิชัยพลหรือไมค์นั้นเรียนวิศวะฯ ทำให้ห่างกันไปจนกระทั่งได้ข่าวว่าเพื่อนสนิทแต่งงานและมีลูกแล้วแต่เพราะงานและหลายๆ เรื่องทำให้ทั้งสามไม่ได้ติดต่อกันแม้มีเบอร์โทร

ในขณะพงศ์พยัคฆ์มองหนูน้อยอย่างเอ็นดูอยู่นั้นร่างของพิชัยพลก็เดินเข้ามา

“เสือ นุชเป็นไงบ้างวะ” พิชัยพลรีบตรงมาหาเพื่อนสนิททันทีพร้อมกับตำรวจที่มาสอบปากคำ ชายหนุ่มผู้มาใหม่รีบรับลูกสาวไปอุ้มและปลอบทันทีขณะที่พงศ์พยัคฆ์มองภาพนั้นอย่างเอ็นดูและชื่นชมในบรรยากาศของพ่อลูกก่อนจะตบไหล่เพื่อน

“ปลอดภัยแล้วอีกสองสามวันคงฟื้น”

“เกิดอะไรขึ้นวะ” พิชัยพลเอ่ยถามอย่างสงสัย ตอนที่รู้เรื่องเขาตกใจจนแทบตั้งสติไม่ได้ พอได้สติก็รีบมุ่งตรงมาทันทีด้วยความห่วงลูกและภรรยา

“เมียนายขับย้อนศรแล้วรถก็ชนประสานงากับรถของคู่กรณีที่ขับมาด้วยความเร็วเกินกำหนด” พงศ์พยัคฆ์ที่เห็นเหตุการณ์เต็มสองตาเอ่ยบอกเพื่อนและนายตำรวจที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

นายตำรวจหนุ่มฟังแล้วขมวดคิ้วเพราะจากคำให้การของคู่กรณีไม่ตรงกับที่หมอหนุ่มพูดจนต้องเอ่ยถามขึ้น “ขอโทษนะครับคุณเห็นเหตุการณ์รึเปล่าเพราะคู่กรณีของคุณนุชตรีญาบอกว่าเขาขับตามกฎหมายกำหนดแต่คุณนุชตรีญาขับย้อนศรมาด้วยความเร็ว”

“ผมนั่งทานข้าวอยู่ที่ร้านหน้าจุดเกิดเหตุหันหน้าเข้าทางถนนจุดที่ชนก็หน้าร้านพอดี รถคันนั้นขับมาด้วยความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด ส่วนรถของนุชตรีญาขับย้อนศรมาไม่เร็วมาก แล้วก็นะคุณตำรวจฝ่ายคู่กรณีไม่ได้เป็นอะไรมากแต่คุณนุชตรีญาถูกชนจนศีรษะไปกระแทกกับอะไรบางอย่างจนหัวแตก เลือกออกทางจมูกความน่าจะเป็นมันเป็นได้มากกว่าว่ารถของคุณนุชตรีญาถูกชนกระแทกอย่างแรงนะครับ หรือถ้าคุณตำรวจไม่เชื่อที่ผมพูดตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าร้านได้นะผมจำได้ว่าตอนเข้าไปผมเห็นอยู่” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกแก่นายตำรวจหนุ่มด้วยน้ำเสียงเรียบและเยือกเย็นหลังจากนายตำรวจหนุ่มพูดเป็นนัยๆ ว่าตนพูดเข้าข้างภรรยาของเพื่อนสนิท

นายตำรวจหนุ่มได้แต่นิ่งไปก่อนที่ลูกน้องจะโทรศัพท์เข้ามาบอกสิ่งที่เห็นในกล้องวงจรปิดของทางร้านซึ่งตรงกับที่ศัลยแพทย์หนุ่มเอ่ยบอกจนต้องกล่าวขอโทษขอโพย

“ผมต้องขอโทษจริง ๆ นะครับที่พูดเหมือนกับว่าคุณหมอปกป้องเพื่อนเพราะคู่กรณีเป็นลูกชายคนใหญ่คนโตทำให้ผมเชื่อว่าฝั่งคุณผิดไปก่อนจะเห็นหลักฐาน”

“งั้นก็สรุปว่าผิดทั้งคู่แต่ผิดคนละอย่างใช่มั้ยครับ” พิชัยพลเอ่ยถาม

“ใช่ครับผิดทั้งคู่แต่ผิดคนละกระทง คงต้องเรียกมาเซ็นรับทราบข้อกล่าวหาและเสียค่าปรับและดำเนินการตามความผิดครับ คงต้องรอให้คุณนุชตรีญาหายดีแล้วค่อยเข้าพบเจ้าพนักงานนะครับ”

“ขอบคุณครับ ขอบใจนายด้วยว่ะเสือถ้าไม่ได้นายแล้วก็อีกสองคนช่วยฉันคงเสียนุชกับน้องน้ำไป” พิชัยพลเอ่ยขอบคุณนายตำรวจหนุ่มก่อนหันมาขอบคุณเพื่อนที่เข้าไปช่วยไว้ทัน

“เปลี่ยนคำขอบใจเป็นเลี้ยงข้าวได้ป่ะไอ้เสือมันยังไม่ได้กินอะไรเลยคำแรกกำลังจะเข้าปากดังโครมซะก่อนดีนะก่อนมาเนี่ยฉันแวะพาน้องน้ำกับหมอฟ้าทานข้าวก่อนไม่งั้นละก็แย่แน่” ปัญจวัตรเอ่ยขึ้นเพราะจำได้ว่าเพื่อนรักยังไม่ได้ทานอะไร

“งั้นฉันเลี้ยงข้าวนายแล้วกันไอ้เสือแล้วก็เลี้ยงกาแฟนายกับคุณหมอคนนี้ด้วยไอ้ปัญจ์ ตอบแทนที่ช่วยดูแลน้องน้ำให้ ไปกัน” พิชัยพลเอ่ยบอกและชวนทั้งสามไปทานข้าวที่ร้านของผู้เป็นพี่สาวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล

“คราวนี้อย่าให้มีเหตุแบบเมื่อกี้อีกแล้วกัน สัญชาตญาณของหมอจะได้ไม่ต้องทำลายการทำงานของกระเพาะอาหารโรคกระเพาะจะได้ไม่ถามหา” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยอย่างขำขันทว่าใบหน้าเฉยชาก่อนเดินตามเพื่อนสนิทไปติดๆ ตามด้วยสองหนุ่มสาวที่เดินตามหลังไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel