บทที่ 3
บทที่ 3
เพื่อนๆ ของใบหม่อนพาเธอมาที่โรงพยาบาลก่อนจะพบว่าแพ้สารแอลกอฮอล์จริงๆ หมออนุญาตให้กลับบ้านได้เนื่องจากไม่ได้เป็นอะไรรุนแรงนัก
"เกือบซวยแล้วเห็นไหม"หยกต่อว่าเพื่อนสาวอย่างนึกโมโห ถ้าใบหม่อนเป็นอะไรขึ้นมาพวกเธอจะทำยังไง
"ฉันขอโทษ ฉันไม่รู้นิ คราวหลังฉันจะไม่ทำอีกแล้ว" โยเอ่ยอย่างรู้สึกผิด เบลล์ตบบ่าอย่างให้กำลังใจรู้ว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้
"อึก โอ้กก~ แหวะ" ใบหม่อนทำท่าคลื่นไส้ก่อนจะอ้วกออกมาจนหมดไส้หมดพุง ทำเอาเพื่อนๆ ถึงกับตกอกตกใจ
"งื้อ~ รถฉัน" จูนโอดครวญ
"หม่อน แกเป็นยังไงบ้าง โอเคขึ้นไหม" เบลล์ถามอย่างเป็นห่วง
"โอ้ย ปวดหัวจัง ทำไมมันคันแบบนี้เนี่ย" ใบหม่อนยกมือขึ้นกุมขมับพลางเกาไปทั่วแขนและลำคอจนเป็นผื่นแดง
"อย่าเกา ยิ่งเดามันจะยิ่งคัน" หยกห้ามปราม
"ก็ฉันคันนี่นา แล้วเราอยู่ไหนกันเนี่ย" ใบหม่อนที่เพิ่งตาสว่างหันมองไปรอบๆ อย่างแปลกใจ ไม่คุ้นทางเลยสักนิด
"ไปบ้านฉันน่ะ พรุ่งนี้ค่อยกลับบ้านกัน" จูนเอ่ยบอกขณะขับรถไปตามเส้นทาง
"เฮ้ยไม่ได้! แม่ฉันเป็นห่วงแย่" ใบหม่อนเอ่ยอย่างตกใจ ขืนเธอไม่กลับบ้านมีหวังแม่ได้บ่นหูชาแน่ๆ
"ก็โทร.ไปบอกแม่แกสิ" โยเสนอ
"ไม่เอาหรอก ฉันนอนบ้านคนอื่นไม่หลับอะ ไปส่งฉันที่ป้ายรถเมย์เถอะนะ"
"นี่มันดึกแล้วนะ ไม่มีรถวิ่งแล้วละ"
"ฉันว่าแกโทร.บอกป้าบัวอย่างที่หยกมันบอกเถอะ เราจะนอนค้างที่บ้านจูนกัน พรุ่งนี้ค่อยกลับนะ" เบลล์อ้าปากหาวอย่างรู้สึกง่วง
"เอางั้นเหรอ"
เธอไม่เคยเถลไถลแบบนี้เลยกลัวว่าแม่จะเป็นห่วง เพื่อนทุกคนพร้อมใจกันพยักหน้าทำให้เธอต้องจำยอมโทร.ไปขอแม่เพื่อนอนบ้านเพื่อน ตอนแรกเธอนึกว่าแม่จะโกรธแต่ตรงกันข้ามกลับบอกให้เธอดูแลตัวเองดีๆ
เช้าวันต่อมาเพื่อนๆ ของใบหม่อนขับรถมาส่งเธอที่บ้านตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยถูกหญิงสาวรบเร้าให้พากลับบ้านตั้งแต่เช้า ใบหม่อนเดินเข้าบ้านเป็นจังหวะเดียวกับที่ใบบัวถือถาดขนมออกมาวางที่รถเข็น
"อ้าว กลับมาแล้วเหรอ ไปนอนพักไป เดี๋ยวแม่จะไปขายของที่ตลาดแล้ว" ใบบัวกำลังง่วนอยู่กับการจัดของ ก่อนจะรู้สึกถึงอ้อมกอดจากด้านหลัง
"แม่ไม่โกรธหนูเหรอจ้ะ หนูขอโทษที่เถลไถลนะจ้ะแม่" ใบหม่อนซบใบหน้าลงที่แผ่นหลังผู้เป็นแม่อย่างออดอ้อน
"แม่ไม่โกรธหรอก หม่อนโตเป็นสาวแล้วนะ แม่ก็เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อนทำไมแม่จะไม่เข้าใจละ" ใบบัวหันมาลูบผมนุ่มสลวยของบุตรสาวอย่างอ่อนโยน
"ขอบคุณนะคะแม่ หนูรักแม่ที่สุดเลย" ใบหม่อนหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องไปนอนต่ออย่างอ่อนเพลีย
ใบบัวมองตามบุตรสาวพลางส่ายหัวน้อยๆ เธอไม่ได้อยากบงการชีวิตลูกมากนัก ด้วยวัยกำลังเป็นสาวเธอเชื่อว่าใบหม่อนรู้ว่าอะไรควรและไม่ควร ลูกสาวเธอควรเรียนรู้การใช้ชีวิตภายนอก เพราะอีกหน่อยก็ต้องไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นแล้วเธอคงตามไปดูแลไม่ได้ตลอด แม้จะรู้สึกเป็นห่วงลูกมากแค่ไหนแต่ลูกก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง
ใบบัวเดินไปในห้องของตัวเองก่อนจะเอื้อมมือหยิบกล่องสแตนเลสเก่าๆ ลงมา ข้างในเป็นสมุดบัญชีเงินฝากที่เธอฝากไว้ให้ใบหม่อนทุกๆ เดือนด้วยหวังว่าให้ลูกใช้ในอนาคต
"แค่กๆ ๆ " ใบบัวเอามือป้องปาก ไอจนหน้าดำหน้าแดงก่อนจะหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นเลือดที่อยู่บนฝ่ามือ ใบบัวรีบไปล้างมืออย่างรวดเร็วก่อนจะออกไปขายขนมไทยที่ตลาดดั่งเช่นทุกวัน
*****
เสียงเครื่องจักรทำงานดังกระหึ่มก้องไปทั่วบริเวณ ผู้คนมากมายเดินขวักไขว่ประจำหน้าที่ตัวเองที่ต้องรับผิดชอบเมื่อเจ้าของโรงงานมาเยือน ร่างอวบอ้วนของเจ้าสัวเดินไปตามทางพร้อมกับผู้ดูแลสามสี่นาย
"เป็นยังไงบ้างอาเธียร์ โรงงานอั้วใช้ได้ไหม" เจ้าสัวจางหย่งหันไปคุยกับหนุ่มนักธุรกิจที่เดินอยู่ข้างๆ
"ก็ดีนะครับเจ้าสัว เหมาะกับการลงทุน" เธียเตอร์หันไปตอบเจ้าสัวอย่างเอาใจ ใครได้เป็นผู้ถือหุ้นร่วมกับเจ้าสัวจางหย่งนักธุรกิจที่โด่งดังในประเทศย่อมเป็นผลดีแก่ตัวเขา ในอนาคตจะขยายฐานธุรกิจก็ย่อมง่าย
"อั้วดีใจที่ลื้อชอบนะ อาธีระสบายดีไหม" เจ้าสัวหมายถึงพ่อของเขา ท่านเป็นหุ้นส่วนกันมาก่อนในตอนนี้ธุรกิจก็สืบทอดมาจนถึงรุ่นลูกเขาจึงต้องมาดูงานด้วยตัวเองเป็นการศึกษาไปในตัว
"สบายดีครับเจ้าสัว ป๊าบอกว่าว่างๆ อยากชวนเจ้าสัวไปทานข้าวด้วยครับ"
"ได้สิๆ ฝากบอกอาธีระว่าว่างๆ อั้วจะแวะไปหานะ"
"ครับเจ้าสัว" เธียเตอร์เดินมองไปรอบๆ ทั่วโรงงาน การผลิตผลไม้แปรรูปส่งออกต่างประเทศสร้างกำไรมหาศาลให้กับเจ้าสัวจางหย่งเป็นอย่างมาก มีนักธุรกิจมากมายอยากมาร่วมลงทุนแต่ก็ถูกปฏิเสธไป หากไม่มีบารมีพ่อของเขาช่วยเขาเองก็คงไม่พ้นถูกปฏิเสธไปเช่นกัน
เจ้าของร่างสูงสง่าเดินไปทางไหนก็ไม่พ้นสายตาของบรรดาสาวๆ โรงงานที่เหลียวมองกันเป็นแถบ ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลา ผิวขาวราวกับปูนปั้นแววตาเฉี่ยวคมบวกกับแพขนตายาวงอน คิ้วเข้มพาดเฉียงเป็นเสน่ห์น่าดึงดูดของเขา จมูกโด่งเป็นสันรับกับปากหยักสีสวยชนิดที่ผู้หญิงยังอาย เขาชอบสันโดษและรักอิสระ ปกติเขาต้องคุมงานที่ญี่ปุ่นแต่ด้วยต้องมาต่อรองเรื่องธุรกิจกับเจ้าสัวเขาจึงต้องบินมาที่ไทย พ่อแม่และน้องชาย น้องสาวเขาก็อยู่ที่นี่ เขาเป็นพี่คนโตดูแลธุริกิจเกือบทั้งหมดของบิดา ครั้นจะหวังพึ่งน้องชายที่เอาแต่เที่ยวคงไม่ได้อะไร ให้ล่อผู้หญิงคงง่ายกว่าสำหรับน้องชายเขา
