6“ขับชนมันเลย”
ปัง!ปัง!ปัง!
“อ้ากกก!!” ร่างชายชุดดำถูกกระสุนพุ่งเข้าใส่ถึงกับล้มตายลง คริสรีบวิ่งไปอีกทางแล้วเปิดฉากยิงใส่ลูกน้องของเอกพงศ์อย่างบ้าคลั่ง ใครที่มันกล้าลองดีกับพวกเขารับรองว่าไม่ตายดี
“พวกมึงเป็นบ้าอะไรกัน พวกกูไปทำอะไรให้พวกมึง พวกมึงถึงได้เป็นบ้ามาถล่มพวกกูอยู่แบบนี้” ลูกน้องคนสนิทของเอกพงษ์ตะโกนด่าคริสเตียน
“มึงไม่ได้ทำหรอก แต่นายมึงทำ”
“นายกูไปทำอะไรให้พวกมึง ตอนนี้นายไม่เคยสั่งให้พวกกูไปทำอะไรที่เกี่ยวกับตระกูลของพวกมึงเลย ถ้านายกูทำจริงทำไมพวกกูจะไม่รู้”
“กูไม่สน ทำแม่กูเจ็บปางตายกูจะฆ่าล้างโคตรพวกมัน”
“ไอ้ระยำ”
“ไอ้พวกหมากระจอกอย่ามาเห่ากับกู”
ปัง!ปัง!
เสียงปืนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ คริสเตียนยิงลูกน้องของเอกพงศ์ล้มลงกับพื้น ส่วนลูกน้องคนสนิทของเขาก็ทำงานอย่างดีเยี่ยม
“อ้ากกก!!”
ปัง!ปัง!ปัง!
“เอาระเบิดปาใส่มันเลย” พีระตะโกนภิภพยิ้มแล้วดึงสลักระเบิดใส่เข้าไปในคฤหาสน์
ตู้ม!!
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เอกพงศ์กับภรรยาวิ่งหลบไปอีกทาง ส่วนพวกคนใช้หนีตายกันอลม่าน
“อย่าคิดว่าพวกมึงจะรอด” คริสเตียนวิ่งฝ่าคมกระสุนเข้าไปในบ้านเขากวาดสายตามองหาเอกพงศ์กับครอบครัว เขาจำได้ว่าอลิสเคยแนะนำโมนาว่ามีพี่ชายชื่อโนอาห์ วันนี้แหละเขาจะฆ่ามันให้หมด
ตึก!ตึก!ตึก!
เสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้เอกพงศ์ถึงกับตัวสั่นงันงก คริสเตียนมาถล่มเขาแบบไม่ทันตั้งตัว มันจึงทำให้เขาตั้งรับไม่ทัน หาอาวุธอะไรไม่ทันเลยแม้แต่น้อย
“โมนา...” ชายวัยกลางคนเอ่ยอย่างตระหนก วันนี้ลูกสาวเพิ่งมาอยู่ที่บ้าน มันยิ่งทำให้เขากังวลในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
“ลูกอยู่ข้างบนจะทำอย่างไรดี” รตีเสียงสั่นมองสามีด้วยแววตาสั่นระริก รู้สึกกลัวจับขั้วหัวใจเมื่อคิดได้ว่าลูกสาวจะไม่ปลอดภัย
“อย่าคิดว่าพวกมึงจะรอด”
ตึก!ตึก!ตึก!
คริสเตียนประกาศกร้าวเดินตรงเข้าไปต้นเสาที่ทั้งสองหลบซ่อนอยู่ คนสารเลวอย่างพวกมันอย่าหวังว่าจะรอด
“พ่อคะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้คริสเตียนหันไปมอง เป็นจังหวะเดียวกันกับลูกน้องผู้ซื่อสัตย์ของเอกพงศ์ตัดสินใจออกมาจากอีกมุมแล้ววิ่งเข้าแย่งปืน ถ้าเกิดยิงสวนคนที่จะเป็นอันตรายเห็นจะเป็นบุตรสาวของเจ้านาย ซึ่งเขายอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้
ปัง!ปัง!ปัง!
“กรี๊ด!” โมนากรีดร้องออกมา เมื่อปืนที่ลูกน้องบิดายื้อแย่งกับชายร่างสูงลั่นไปมา
“พาคุณผู้หญิงหนีไป ไปห้องที่คุณหนูทำไว้สมัยเด็ก”
“ค่ะ” โมนาพยักหน้า รีบไปหาบุพการี
“เราต้องรอดด้วยกันสิ”
“นายไปก่อนเดี๋ยวผมตามไป คุณหนูรีบพาท่านทั้งสองไป” โมนามองหน้านนท์แล้วจับมือของบุพการีให้วิ่งไปประตูลับหลังห้องครัวพอเปิดเข้าไปก็เจอกับอุโมงค์เล็ก ๆ ที่เธอกับพี่ชายเคยทำเอาไว้สมัยเด็ก
“พวกมันทำแบบนี้กับเราทำไม?”
“พ่อก็ไม่รู้ พ่อไม่เคยมีเรื่องกับไอ้คริสเตียน”
“คริสเตียน ดำรงพงษ์เมธาเหรอคะ?”
“ใช่” คำตอบของบิดาทำเอาหญิงสาวต้องเบิกโตโพลงอย่างตกใจ “ดูเหมือนน้องมันก็มาด้วย ตั้งตัวไม่ทันเลยถ้าโนอาห์อยู่ก็คงดี”
“มันเป็นไปได้ยังไง ไม่เคยมีเรื่องอะไรแล้วเขาจะทำเราทำไม”
“พ่อเกลียดพวกมันก็จริง แต่พ่อไม่เคยทำอะไรมัน พ่อก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน” เอกพงศ์เอ่ยอย่างไม่เข้าใจพร้อมกับก้าวเดินไปที่อุโมงค์มืดๆ มีเพียงแสงรำไรจากแสงไฟดวงเล็กที่ถูกติดเอาไว้ด้วยความระมัดระวัง
“แล้วเกิดเรื่องแบบนี้เราจะทำยังไงดี”
“ไอ้เอกภพคงไม่รู้ว่าเราโดนถล่มแน่ๆ”
“นั่นสิคะ”
“เราควรรรีบไปนะคะ คริสเตียนเขาเป็นคนฉลาด อีกไม่นานเขาต้องเจออุโมงค์ที่เราเข้ามา”
“เราน่าจะมีโทรศัพท์สักเครื่องส่งข้อความขอความช่วยเหลือที่ปลายอุโมงค์”
“แต่สถานการณ์มันรวดเร็วไปหมด เลยไม่ได้หยิบมา เรารีบไปกันเถอะค่ะ ถ้าช้าจะไม่ทันการณ์”
“อืม” เอกพงศ์พยักหน้า ทั้งสามรีบสาวเท้าไปเพื่อไปให้ถึงประตู
“ระวังด้วยนะพ่อ” โมนาเดินไปตามอุโมงค์ที่เธอกับพี่ชายเคยให้คนงานมาขุดเอาไว้ตั้งแต่สมัยเด็ก ระยะทางที่ทำอุโมงค์เอาไว้ประมาน500เมตรทะลุออกไปข้างถนนนอกรั้วคฤหาสน์พอดี
ตอนนี้เธอรู้สึกกลัวมากๆหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ กลัวผู้ชายใจร้ายนามว่าคริสเตียนมาฆ่าพ่อแม่ของเธอ
ไม่เคยคิดฝันว่าเขาจะใจร้ายทำร้ายครอบครัวของเธอได้ ยิ่งพ่อแม่บอกไม่เคยไม่ทำอะไรครอบครับเขาเลย โมนาก็ยิ่งงงในสิ่งที่เกิดขึ้น
ทั้งสามเดินมาจนถึงประตูเหล็กเก่าๆมีบันไดพาดไปจนถึงประตูด้านบน พอมาถึงที่นี่ทุกคนก็รู้สึกอึดอัดมากๆเพราะอากาศไม่ถ่ายเท เริ่มหายใจไม่สะดวก
“พ่อจะดันเปิดขึ้นไปเอง” เอกพงศ์เอ่ยแล้วเดินขึ้นบันได ตอนนี้สภาพบันไดสภาพไม่ค่อยจะสู้ดีนัก พร้อมที่จะพังได้ทุกเมื่อ เขาจึงพยายามก้าวเดินอย่างระมัดระวัง
“ดันขึ้นไปค่ะ”
“อึบ มันดันไม่ขึ้น” พยายามดันประตูเหล็กที่มันปิดอยู่อย่างสุดความสามารถ แต่มันก็ขยับเขยื้อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ตึก!ตึก!ตึก!
เสียงฝีเท้าดังเข้ามาตามทางอุโมงค์เรื่อย ๆ หัวใจของโมนายิ่งเต้นรัวราวกับกลองชุด มันหวาดกลัวไปหมด
ปึก!ปึก!
“ออกแล้ว!” เอกพงศ์รีบขึ้นไปข้างบนแล้วยื่นมือลงมา “บันไดไม่ค่อยดีโมนาขึ้นมาก่อน”
“ให้แม่ขึ้นไปก่อน” หญิงสาวรีบเอ่ยแย้ง เธอไม่ได้ห่วงตัวเองเท่าบิดามารดาของตนเอง ต่อให้เธอต้องตายแล้วบิดามารดารอดเธอก็ยินดี
“เร็วสิคุณรตียื่นมือมา เร็ว”
“ค่ะ” รตีก้าวขึ้นบันไดแล้วยื่นมือให้สามี
แกรก! เสียงบันไดที่มีสนิมเกาะเกรอะกัง บวกด้วยน้ำหนักตัวที่มากของรตีทำให้บันไดรับน้ำหนักไม่ไหวมันเริ่มลั่นดังขึ้น
ตึก!ตึก!ตึก! จากเสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นเป็นจังหวะเริ่มกระชั้นขึ้น โมนาตัดสินใจขึ้นบันไดแล้วดันร่างของมารดาขึ้น
กึกๆโคร้ม!
“ว้าย!” บันไดพังลงทำให้ร่างเล็กของโมนากลิ้งลงไปกองกับพื้น เป็นจังหวะเดียวกันที่บิดาคว้ามือมารดาเอาไว้ได้ “รีบดึงขึ้นไป” เอกพงศ์พยายามดึงภรรยาขึ้นจนสำเร็จ จากนั้นก็โน้มตัวเพื่อดึงร่างบุตรสาวขึ้น
ตึก!ตึก!ตึก! เสียงฝีเท้าตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว โมนาพยายามกระโดดคว้ามือบิดาแต่ทว่ามันไม่ถึง เธอพยายามอยู่นานแต่ก็ไม่สามารถคว้ามือของบิดาได้เลย เสียงฝีเท้าก็ยิ่งตรงเข้ามาเรื่อยๆ
“ปิดประตูแล้วรีบหนีไป ถ้าพ่อกับแม่ช้าเราจะตายกันหมด สัญญาได้ไหมว่าจะหนีถ้าเกิดโมนาขึ้นไปไม่ได้”
“ไม่..”
