ตอนที่8
20.00น.
เชียงใหม่
อิทธิกรได้วานให้ทศพลพาพัชรินทร์หนีไปที่บ้านของพิมพรรณตอนนี้เขาว่าจ้างพิมพรรณให้ดูแลพัชรินทร์และคิดว่าที่บ้านของพิมพรรณนั้นน่าจะเป็นที่ๆปลอดภัยที่สุดสำหรับพัชรินทร์
“ทุกอย่างโอเคแล้วงั้นอาขอตัวกลับเลยนะหนูพัชนี่บัตรเครดิตของอาหนูพัชใช้ได้ตลอดเวลา”
ทศพลพาสองสาวนั่งเครื่องมาที่เชียงใหม่แล้วต่อรถมาส่งทั้งสองที่บ้านของพิมพรรณกว่าจะถึงก็มืดพอดีก่อนกลับเขายื่นบัตรเครดิตของเขาเอาไว้ให้พัชรินทร์เพราะใช้บัตรของเขาจะปลอดภัยที่สุด
“ขอบคุณค่ะคุณอา”
พัชรินทร์ยกมือไหว้ทศพลที่ช่าวยเหลือเธอ
“นี่เงินค่าจ้างของหนูพิมงวดแรกที่กรฝากเอาไว้ให้”
ทศพลยื่นซองสีน้ำตาลที่อิทธิกรฝากมาให้กับพิมพรรณในนั้นมีเงินค่าจ้างสามเดือนแรกที่อิทธิกรจ่างพิมพรรณให้ดูแลพัชรินทร์และถือเป็นค่าเช่าบ้านนี้ไปในตัวด้วย
“ขอบคุณค่ะบอกคุณกรว่าไม่ต้องห่วงอะไรนะคะพิมจะดูแลคุณพัชอย่างดีเลยค่ะ”
พิมพรรณรับปากว่าจะดูแลพัชรินทร์อย่างดีเพราะตอนนี้ก็ถือว่าลงเรือลำเดียวกันแล้ว
“งั้นอาไปล่ะ”
ทศพลสบายใจแล้วที่เห็นสองสาวอยู่ในที่ปลอดภัยเขาจำเป็นต้องรีบกลับให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะไม่มีใครสงสัย
หลังจากที่ทศพลไปแล้วพิมพรรณก็พาพัชรินทร์เข้ามาในบ้านหลังที่ไม่เล็กไม่ใหญ่มากของเธอที่เอก่อนเธออยู่กับแม่เพียงสองคนและย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพเมื่อเธอเริ่มเข้าปีหนึ่งนานแล้วเหมือนกันที่เธอไม่ได้กลับมาที่นี่แต่ที่นี่ยังดูสภาพดีเพราะน้าชายของเธอเข้ามาทำความสะอาดที่นี่เป็นประจำ
“บ้านหลังนี้เป็นบ้านแม่ของฉันเองคุณพัชพอจะอยู่ได้นะคะ”
“ฉันอยู่ที่ไหนก็ได้ค่ะที่ปลอดภัย”
“นี่ห้องคุณพัชค่ะส่วนฉันจะนอนอยู่ห้องข้างๆมีอะไรโทรเรียกฉันได้ตลอดเลยนะคะ...คืนนี้พักผ่อนให้เต็มที่นะคะที่นี่ปลอดภัยสำหรับคุณ”
พิมพรรณเอ่ยก่อนที่จะขอตัวเข้าห้องตัวเองไป
“ค่ะ”
คำว่าที่นี่ปลอดภัยทำให้พัชรินทร์สบายใจอยู่ไม่น้อยเธอหวังว่าความสงบของที่นี่จะช่วยเยียวยาจิตใจของเธอได้ไม่มากก็น้อย
วันต่อมา
“เมื่อคืนหลับสบายดีมั้ยคะ”
พิมพรรณออกมาจากห้องเห็นพัชรินทร์ยืนชมวิวอยูที่ระเบียงบ้านจึงเข้ามาทักด้วยรอยยิ้ม
“ค่ะ..ที่นี่อากาศดีแถมธรรมชาติก็ยังสวยงามมากๆเลยนะคะ”
พัชรินทร์ยิ้มอ่อนทั้งมองธรรมชาติยามเช้าที่นี่อย่างชื่นชม
“ค่ะ..ตอนเด็กๆที่ฉันอยู่กับแม่ที่นี่ก็ชอบตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกันเสมอเลยค่ะ”
พิมพรรณตื่นมาในเช้าๆแบบนี้เธออดจะคิดถึงสมมัยก่อนไม่ได้
“ตอนนั้นคุณคงจะมีความสุขมากเลยนะคะ”
พัชรินทร์สัมผันได้ถึงความสุขจากรอยยิ้มของพิมพรรณเหมือนเธอที่เวลาพูดถึงเวลาที่อยู่กับดวงสมรเธอก็จะอดอมยิ้มไม่ได้เช่นกัน
“ค่ะมีความสุขมากๆ...คุณพัชเห็นไร่ที่อยู่บนเนินโน่นมั้ยคะ”
พิมพรรณชี้ไปที่ไร่บนเนินเขาที่ไม่ไกลจากบ้านของเธอนัก
“ค่ะ”
“ไร่ตาฉันเองค่ะวันนี้ฉันจะพาคุณไปแนะนำกับคนที่นี่ในฐานะเพื่อนของฉันนะคะ”
“เอ่อ..คือ”
ไม่ใช่ว่าตอนนี้พัชรินทร์ไม่อยากไปแต่พอก้มดูเนื้อตัวเธอแล้วรอยเขียวช้ำยังคงมีเต็มไปหมดทั้งเสื้อผ้าก็ยังไม่มีเปลี่ยนอีกด้วย
“อ๋อ...ฉันมีเสื้อผ้าเตรียมไว้ให้คุณแล้วค่ะ”
เรื่องนั้นพิมพรรณรู้ดีเลยจัดหาเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวให้พัชรินทร์เรียบร้อยแล้ว
ช่วงสายของวัน
ไร่เริงฤทธิ์
ไร่เริงฤทธิ์เป็นไร่ของตาพิมพรรณชื่อเริงฤทธิ์นี่ก็เป็นชื่อของตาเธอไร่นี้ตากับยายของเธอบุกเบิกสร้างกันมาด้วยสองมือสองไม้ของพวกท่านแม้ไร่นี้จะไม่ใหญ่มากแต่มันก็สามารถทำกันเป็นครอบครัวเลี้ยงกันเองได้และตอนนี้ก็มีเหล่าคนแถวนี้ที่มารับจ้างในไร่อีกหลายสิบชีวิตด้วย
ในระแวกนี้ไร่เริงฤทธิ์ดูจะเป็นไร่ที่เล็กที่สุดแถวนี้ก็มีไร่แบบนี้อยู่หลายไร่แต่ส่วนมากจะถูกไร่ภิภพกว้านซื้อไปจนหมดไร่ที่ใหญ่ที่สุดแถวนี้ก็เห็นจะเป็นไร่ของภิภพนั่นเองยิ่งพิมพรรณไม่ได้กลับมาที่นี่หลายปีไม่รู้ว่าไร่ภิภพขยายอาณาเขตกว้างใหญ่ขนาดไหนแต่เธอจะไม่ยอมให้ไร่ของเธอเป็นส่วนหนึ่งของไร่นั้นเด็ดขาด
"ตาจ๋า"
พิมพรรณพาพัชรินทร์ขับมอเตอร์ไซต์คันเก่าของเธอขึ้นมาที่ไร่เมื่อมาถึงหน้าบ้านไม้สักหลังใหญ่เธอก็ขับรถไปจอดในโรงรถข้างๆบ้านแต่ไม่เห็นรถสักคันเห็นแต่ตาของเอนั่งคัดองุ่นอยู่กับคนงานในไร่
"ไอ้ตัวแสบตากลับมาแล้วทำไมกลับมาไม่บอกไม่กล่าวเลยล่ะ"
เริงฤทธิ์เห็นหลานสาวของเขาก็รีบลุกเข้ามากอดด้วยความดีใจปกติได้แต่โทรคุยกันวันนี้ได้เจอตัวเสียที
"พิมกับเพื่อนกลับมาพร้อมเพื่อนกะทันหันน่ะจ่ะนี่พัชเพื่อนหนู..."
พิมพรรณรีบแนะนำพัชรินทร์ให้ตาของเธอได้รู้จัก
"สวัสดีค่ะ"
พัชรินทร์รีบยกมือไหว้ชายชราตรงหน้า
"หวัดดีลูกหวัดดี"
เริงฤทธิ์รับไหว้พัชรินทร์และตบบ่าเธอเบาๆด้วยความเอ็นดู
"ตาแล้วนี่กำลังทำอะไรกันอยู่หรอจ้ะ"
"กำลังคัดสตรอเบอรี่พวกนี้แปรรูปน่ะสิ"
"นี่งานล้นมือจนต้องทำเองเลยหรอจ้ะ"
เมื่อก่อนเธอจะเห็นตาของเธอนั่งทำบัญชีมากกว่าไม่ยักรู้ว่าเดี๋ยวนี้ตาของเธอต้องมานั่งทำงานหลังขดหลังแข็งทั้งที่อายุปูนนี้แล้วด้วย
"ป่าวหรอก..ตาไม่มีเงินจ้างคนเยอะอย่างเมื่อก่อนแล้ว"
เริงฤทธิ์เอ่ยเสียงอ่อนแต่ก็ยังฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้หลานของเขาต้องเป็นกังวล
"ตอนนี้มันขนาดนี้เลยหรอจ้ะ"
พิมพรรณพอจะรู้จากน้าของเธอมาบ้างว่าที่ไร่ผลผลิตมันขายไม่ได้ราคาแต่ก็ไม่คิดว่าจะวิกฤตจนไม่มีเงินที่จะจ้างคนงาน
"ก็ค่าหยุกค่ายามันก็แพงไหนจะผลผลิตที่ได้ก็ขายไม่ได้ราคาก็ต้องถูๆไถๆไปนั่นแหละพิมเอ้ย"
"แล้วน้าภูล่ะ"
"ลงแรงกับคนงานอยู่ท้ายไร่นู่นถางหญ้ากัน"
"อ๋อ..จ่ะ"
"สตอเบอรี่พวกนี้คุณภาพดีนะคะทำไมขายไม่ได้ราคาล่ะคะ"
พัชรินทร์หยิบดูสตอเบอรี่ในลังที่กำลังจะแปรรุปเธอเห็นว่ามันยังคุณภาพดีอยู่เลยไม่เข้าใจว่าทำไมขายไม่ได้ราคา
