ตอนที่9
"มันอยู่ที่พ่อค้าคนกลางตีราคาน่ะลูกอาศัยแปรรูปฝากขายร้านค้าแถวตลาดพอได้ราคาบ้าง"
"ที่นี่เคยขายออนไลน์โดยตรงกันมั้ยคะ"
"คนที่นี่ก็ไม่เคยทำซะทีนะเพราะเก็บได้เท่าไรก็ส่งคนกลางหมดกลัวเหลือเอาไว้แล้วขายไม่ได้คนเลยไม่ทำกันไหนจะต้องมีขั้นตอนการจัดส่งอีกคนของเราก็ไม่ค่อยพอน่ะลูก"
"ถ้าพัชจะลองโพสขายจะเป็นอะไรมั้ยคะ"
พัชรินทร์เริ่มเห็นว่าที่นี่พอจะมีอะไรให้เธอทำเพื่อที่จะลืมเรื่องร้ายๆได้แล้ว
"เอาเลยลูกถ้าหนูมีเวลา"
เริงฤทธิ์ไม่ขัดหากหญิงสาวทำได้ก็เป็นผลดี
"ค่ะ"
"จะทำจริงๆหรอคะ"
พิมพรรณหันมาถามพัชรินทร์เพื่อความแน่ใจ
"ค่ะ...ลองดูนะคะเราจะได้เงินเต็มๆไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง"
พัชรินทร์แน่ใจว่าเธอจะทำแต่เธอยังไม่แน่ใจเรื่องผลลัพท์ว่ามันจะออกมาดีหรือไม่แต่ยังไงก็ต้องลองกันสักตั้งไม่ลองก็ไม่รู้เพราะเธอไม่อยากให้ของดีแบบนี้ขายไม่ได้ราคาทั้งที่มันควรจะได้
อาทิตย์ต่อมา
ตั้งแต่วันที่พัชรินทร์เริ่มคิดพอกลับไปบ้านเธอก็เริ่มทำสตอรี่ของสตรอเบอรี่ที่นี่ลงเพจปรากฏว่าได้รับความสนใจอย่างล้นหลามภายในอาทิตย์เดียวสามารถส่งสตรอเบอรี่ได้หลายพันกิโลเลยทีเดียว
"ไม่คิดเลยนะคะว่าออเดอร์จะเยอะขนาดนี้"
วันนี้พิมพรรณกับพัชรินทร์ตื่นมาจัดการเตรียมสตอเบอรี่ส่งตั้งแต่เช้าพิมพรรณแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าอาทิตย์เดียวเท่านั้นเธอจะขายของได้เยอะขนาดนี้
"เห็นมั้ยถ้าเราไม่ลองก็ไม่รู้"
พัชรินทร์เอ่ยด้วยรอยยิ้มการทำงานนี้ทำให้เธอสุขภาพจิตดีขึ้นมากจนตอนนี้เธอแทบจะลืมความเจ็บปวดในอดีตได้บ้างแล้ว
"เงินก้อนแรกค่าสตอเบอรี่จ่ะตา"
พิมพรรณเดินเข้าไปในบ้านเพื่อเอาเงินก้อนแรกที่เบิกมาจากบัญชีมาให้ตาของเธอโดยหักค่าอุปกรณ์การส่งและค่าส่งไปแล้ว
"สตอเบอรี่ไม่เท่าไรขายได้เงินเยอะขนาดนี้เลยเร้อ"
เริงฤทธิ์ถึงกับเบิกตาโพรงเมื่อเห็นเงินก้อนตรงหน้าไม่คิดว่าสตรอเบอรี่ที่ส่งกันก่อนหน้าไม่กี่วันจะได้รายได้เยอะขนาดนี้หากขายให้พ่อค้าคนกลางคงจะได้ไม่เท่าไรด้วยซ้ำ
"จ่ะตา.."
"ขอบใจนะลูกขอบใจมากๆเลย"
"เดี๋ยวพิมกับคุณพัชจะช่วยสอนคนที่นี่เกี่ยวกับวิธีการจัดส่งจะได้ส่งออกได้เยอะขึ้น"
พิมพรรณกับพัชรินทร์คุยกันแล้วว่าคงจะต้องหาคนช่วยเพิ่มไม่อย่างนั้นเธอสองคนทำกันไม่ทันแน่
เดือนต่อมา
พัชรินทร์กับพิมพรรณตอนนี้ก็ง่วนอยู่แต่กับการส่งผลไม้ในไร่ยิ่งเห็นเม็ดเงินทั้งคู่ก็ตั้งใจทำงานกันมากขึ้นตอนนี้พัชรินทร์เองก็กลับมาสดใสร่าเริมดั่งเช่นเดิมแล้วเพราะธรรมชาติและผู้คนที่นี่ทำให้เธอเหมือนได้ชีวิตใหม่อิทธิกรเองก็ติดต่อพัชรินทร์มาบ้างเพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเมื่อรู้ว่าน่องสาวตนอยู่ดีเขาก็หมดห่วง
"พิมวันนี้น้าต้องพาคนในไร่ไปหาหมอเราขับรถไปส่งของเองได้มั้ย"
ภูผาเดินมาบอกหญิงสาวทั้งสองในช่วงเช้าว่าวันนี้เขาคงไปส่งของให้ไม่ได้เพราะต้องพาคนงานในไร่ไปหาหมอ
ภูผาชายหนุ่มวัยสามสิบสามเป็นน้าชายพิมพรรณด้วยอายุที่ห่างกันไม่มากนักทำให้พิมพรรณและน้าชายค่อนข้างสนิทกันอีกอย่างภูผานั้นก็ไม่มีครอบครัวด้วยเพราะมัวแต่ช่วยพ่อของเขาทำงานในไร่ชายหนุ่มเป็นคนหน้าตารูปร่างดีจึงมีผู้หญิงมาติดหลายคนแต่เขาก็ไมยักจะสนใจเพราะสนใจทำงานอย่างเดียวมากกว่าอีกทั้งกลัวว่าชีวิตคู่จะล้มเหลวเหมือนพี่สาวของเขาอีกด้วย
"ได้จ่ะน้าไม่มีปัญหาอยู่แล้ว"
เห็นทีพวกเธอต้องเร่งมือแล้วเพราะต้องไปส่งของเองแต่มันก็เป็นเหตุสุดวิสัยซึ่งพิมพรรณก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
16.00 น.
ขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง
"เดี๋ยวผมช่วยครับ"
ทรงรบรีบเข้ามาช่วยหญิงสาวทั้งสองคนที่กำลังแบกกล่องเข้าไปส่งด้านใน
"ขอบคุณค่ะ"
พัชรินทร์ขอบคุณชายหนุ่มร่างสูงใบหน้าคมเข้มตรงหน้าด้วยรอยยิ้มที่เขาอุตส่าห์มีน้ำใจมาช่วยพวกเธอ
"นี่ของจากไร่ภิภพหรอคะส่งอะไรหรอ"
พิมพรรณเห็นกล่องเป็นชื่อของไร่ภิภพเธอจึงสงสัยและถามชายหนุ่มคนที่กำลังช่วยพวกเธออยู่ทันทีว่าส่งอะไร
"พวกผลไม้สดจากไร่น่ะครับ"
"เจ้านายคุณก็ช่างจับธุรกิจตามคนอื่นจริงนะคะ"
พิมพรรณได้ยินเช่นนั้นก็กัดฟันกรอดที่ไร่ใหญ่อย่างไร่ภิภพมาจับธุรกิจตามไร่เล็กๆของพวกเธอ
"คุณพิมคะ"
พัชรินทร์เห็นว่าพิมพรรณกำลังไม่พอใจจึงเรียกชื่อของหญิงสาวเพื่อเรียกสติ
"ธุรกิจนี้เดี๋ยวนี้ใครๆเค้าก็ทำกันนะครับอีกอย่างผู้บริโภคก็เป็นคนเลือกที่จะซื้อผมเองผมไม่ได้ไปยัดเยียดพวกเค้าซะหน่อย"
ทรงรบตอกลับหญิงสาวหน้าหวานแต่ปากไม่หวานเหมือนหน้าด้วยน้ำเสียงยียวนทำเอาพิมพรรณได้แต่กำมือแน่นเถียงอะไรไม่ออกเพราะมันก็จริงอย่างที่เขาพูด
ครู่ต่อมา
"เรียบร้อยแล้วกลับกันเถอะ"
สองสาวอยู่ในขนส่งไม่นานเธอก็จัดการธุระเสร็จเมื่อจ่ายเงินค่าส่งได้พิมพรรณก็อยากจะกลับอย่างรวดเร็วเพราะไม่อยากอยู่ใกล้ชายหนุ่มที่ส่งของเคาเตอร์ข้างๆเธอนานเพราะมันทำให้อารมณ์ของเธอค่อนข้างขุ่นมัวเธอรู้ว่าธุรกิจออนไลน์ใครๆก็ทำได้แต่หากไร่ภิภพทำก็เท่ากับเธอมีคู่แข่งเพิ่มและเป็นคู่แข่งรายใหญ่กว่าเธอหลายเท่าเสียด้วย
"คุณพัช..คุณพัชเป็นอะไร"
ไม่ทันได้เปิดประตูออกจากขนส่งพิมพรรณก็ต้องรีบประคองร่างพัชรินทร์เอาไว้เพราะจู่ๆเธอก็เป็นลมล้มพับไป
