ตอนที่5
เย็นของวัน
“ขอโทษนะคะมันเป็นหน้าที่ฉันกลับก่อนนะคะแล้วพรุ่งนี้จะรีบมาแต่เช้า”
ก่อนกลับพิมพรรณต้องล่ามโซ่พัชรินทร์ไว้เช่นเดิมด้วยหน้าที่และเพื่อที่เธอจะนอนหลับได้อย่างเต็มตา
“ค่ะ”
พัชรินทร์ยิ้มอ่อนเธอเข้าในพิมพรรณทุกอย่างแค่ช่วงกลางวันหญิงสาวปล่อยเธอให้เป็นอิสระก็ดีแค่ไหนแล้ว
22.00 น.
แกร๊กกก
“คุณพิมหรอคะ...พี่คิณ”
พัชรินทร์สะลึมสะลือตื่นขึ้นมาหลังจากที่หลับไปได้พักใหญ่เธอคิดว่าเป็นพิมพรรณที่เข้ามาในเวลานี้แต่กลับไม่ใช่เป็นอคิณที่เดินเข้ามาหาเธอเขาตาแดงก่ำน่าจะเกิดเพราะความเมาทั้งสายตาแข็งกร้าวที่มองเธอในตอนนี้นั้นทำให้พัชรินทร์กลัวเขาอยู่ไม่น้อย
“อื้อ...”
อคิณเปิดกล่องอะไรบางอย่างที่พึ่งล้วงมาจากกระเป๋าและเดินดุ่มๆผ่าความแสงไฟสลัวเข้ามาจับยัดใส่ปากของหญิงสาวจนเธอต้องกลืนเข้าไปโดยที่ต่อต้านอะไรไม่ได้
“อ..อะไรคะ..”
พัชรินทร์ถามเสียงสั่นด้วยความตื่นกลัวเพราะไม่รู้ว่าเมื่อครู่ที่เธอกลืนเข้าไปมันคืออะไร
“ไม่ถึงกับตายหรอก”
อคิณเอ่ยเสียงแข็งทั้งบีบไหล่ทั้งสองของหญิงสาวจนแน่นลมหายใจที่เข้าออกฟึดฟัดด้วยความโกรธเกลียดของเขาที่มีแต่กลิ่นแอลกอฮอลทำให้พัชรินทร์พอจะรู้ว่าเขาดื่มมาหนักพอสมควร พัชรินทร์ได้แต่นั่งนิ่งตัวเกร็งมองอคิณไม่ละสายตาท่าทางที่น่ากลัวของเขาตอนนี้ทำให้เธอเผลอเลยไม่ได้จริงๆไม่รู้ว่าเขาจงใจมาทำอะไรที่นี่กันแน่จะพูดอะไรก็ไม่พูดได้แต่นั่งจ้องเธอตาแข็งอยู่อย่างนั้น
“หึ่”
ไม่นานอคิณก็สบถในลำคออย่างพอใจเมื่อเห็นหญิงสาวเริ่มสะลึมสะลือควบคุมร่างกายของตัวเองไม่ได้แล้วเขาจึงกระชากเธอมานอนราบกับเตียงนุ่ม พัชรินทร์ที่ควบคุมตัวเองไม่ได้น้ำตาเจ้ากรรมก็เริ่มรื้นขึ้นมาหยดลงที่นอนไม่ขาดสายเธอมองอคิณเปลื้องผ้าของเธอออกทีละชิ้นช้าๆด้วยความทรมานใจ
"ปล่อยย.. ฮือ.. อือ"
พัชรินทร์ส่งเสียงอ่อนเธอตาลอยตัวอ่อนปวกเปียกเพราะฤทธิ์ยากล่อมประสาทที่อคิณจับยัดใส่ปากของเธอเมื่อครู่ ทั้งยังทรมานใจกับสายตาของชายหนุ่มที่มองร่างกายของเธอด้วยความเหยียดหยาม
"อือ.. ออก.. ไป"
พัชรินทร์พยายามรวบรวมกำลังถดตัวหนีคนที่กำลังกระทำอนาจารกับร่างกายของเธอแต่ก็ยากลำบากเกินที่จะทำได้
"ยังจะมีแรงไล่ฉันยังงั้นหรอ"
อคิณปลดโซ่ที่ข้อเท้าหญิงสาวและค่อยๆถอดเสื้อผ้าของเขาออกช้าๆต่อหน้าร่างบางที่กำลังควบคุมตัวเองไม่ได้เพราะฤทธิ์ยาอยู่บนเตียงเขาจะให้เธอเห็นทุกเหตุการณ์อย่างเต็มสองตาว่าเขานั้นทำอะไรกับเธอบ้าง
"อื้อ.."
ในขณะที่คนตัวโตกำลังแทรกตัวมากึ่งกลางเรียวขาของเธอทั้งสองพัชรินทร์ทำได้แค่ส่งเสียงประท้วงในลำคอเท่านั้นแม้ในใจอยากจะหนีเขาไปแค่ไหนก็ตาม
"หน้าอกเธอเต็มไม้เต็มมือดีนะ"
อคิณค่อยๆโน้มตัวดูดคลึงหยอกล้อเต้างามที่ตั้งอูมชูชันอยู่ตรงหน้าเล่นทั้งเงยหน้าพูดคุยกับหญิงสาวให้เธอได้จำว่าเขาสัมผัสส่วนไหนของเธอแล้วบ้าง
"อย่าพยายามเลยเธอจะต้องตกนรกทั้งเป็นอย่างที่ฉันบอกนั่นแหละ"
อคิณจับแขนของหญิงสาวขึงกับเตียงเมื่อเห็นว่าเธอกำลังพยายามยกมือที่ไม่มีแรงมาดันเขาออก
".. จำภาพนี้เอาไว้นะ อ.. อ้าสส"
อคิณโน้มตัวนั่งขึ้นและเอ่ยกับหญิงสาวที่น้ำตารื้นด้วยรอยยิ้มมุมปากก่อนที่เขาจะยกขาทั้งสองข้างของเธอขึ้นและดันแท่งร้อนเข้าไปจนมิดลำในครั้งเดียวความคับแน่นของช่องทางรักหญิงสาวบีบตัวตนของเขาแทบปริแตกจึงทำให้อคิณคำรามออกมาเสียงหลง
"อ.. อ๊ายย.."
พัชรินทร์เบิกตาโพรงแม้เธอจะอยู่ในอาการสะลึมสะลือแต่ความเจ็บมันไม่ได้ลดน้อยลงจากอาการปกติเลยเธอร้องออกมาเสียงอ่อนเพราะไม่มีแรงทั้งยังหยุดหายใจไประยะหนึ่ง ตอนนี้เนื้อตัวเธอเริ่มสั่นเทาหนักขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าแต่มีหรือคนป่าเถื่อนอย่างอคิณจะยอมหยุดการกระทำยิ่งเห็นเธอทรมานเขายิ่งสะใจ
"หึ่.."
อคิณมองหยดเลือดบนเตียงสีขาวก็กระหยิ่มยิ้มอย่างพอใจที่เขานั้นเป็นคนแรกของเธอโดยที่เธอไม่เต็มใจสิ่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะเป็นแผลในใจของหญิงสาวไปตลอดชีวิต
"อืม... อ้าสสส.."
อคิณอัดสะโพกแกร่งกระแทกเข้าออกช่องทางรักของคนใต้ล่างจนเลือดกระเด็นเต็มหน้าขาของทั้งคู่หญิงสาวตัวโยนทั้งสั่นเทาด้วยความเจ็บ
"ฮ่าๆๆๆๆ"
นานสองนานจนร่างบางทนกับเหตุการณ์นี้ไม่ไหวจึงสลบเหมือดไปอคิณจึงหยุดการกระทำนี้ได้และหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเขาโยนผ้าห่มปิดร่างบางที่มีแต่รอยเขียวช้ำอย่างไม่สนใจจัดการล้างตัวของเขาและกลับไปโดยที่ปล่อยให้หญิงสาวนอนอยู่แบบนั้นคนเดียว
"อะไรกันเนี่ย...คุณพัช..ตื่นค่ะ..คุณพัช"
ในวันต่อมาพิมพรรณเข้ามาทำงานในตอนเช้าเป็นปกติแต่เมื่อเห็นสภาพของพัชรินทร์เธอแทบเข่าอ่อนกับข้าวที่ถืออยู่ในมือล่วงหล่นไปโดยไม่ได้ตั้งใจหญิงสาวนอนเปลือยกายเนื้อตัวฟกช้ำทั้งเตียงนอนก็เต็มไปด้วยรอยเลือด
"อืม..อืออ"
พัชรินทร์พอจะมีสติบ้างแล้วแต่เธอขยับกายของเธอไม่ได้เลยเมื่อยากล่อมประสาทหมดฤทธิ์มันไม่ได้ทำให้เธอลืมอะไรไปภาพเมื่อคืนยังเป็นภาพจำที่แสนเจ็บปวดของเธอจนแทบไม่อยากจะตื่นขึ้นมารับรู้อะไรอีกเลย
"ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ด้วยนะ"
พิมพรรณเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้หญิงสาวไปเธอก็บ่นไปเพราะรู้สึกสงสารคนตัวเล็กจับใจทั้งคิดตำหนิตัวเองในใจว่าไม่น่ารับงานนี้ตั้งแต่แรกเลย
