บทที่37 ครอบครัวของคะนิ้ง
อริสาลอบสังเกตบุคคลที่มีบุคลิกคล้าย ๆ สีหราชแล้วต้องยอมรับกับตัวเองว่านลินญาจะเห็นอีกฝ่ายเป็นตัวแทนของสีหราชก็ไม่แปลก เพราะอีกฝ่ายก็ดูมีบุคลิกคล้ายตาหมอทะเล้นแต่จริงจังคนนั้นอยู่มาก ทั้งรสนิยมการแต่งตัว ของที่ใช้ หรือแม้แต่แบรนเสื้อผ้า คนอะไรรสนิยมคล้ายกันจริง ๆ
ต่างจากฝาแฝดของสีหราชลิบลับ รายนั้นนอกจากหน้าตาแล้วแทบจะไม่มีอะไรเหมือนกันเลย คนนึงชอบความสงบแต่อีกคนชอบอะไรที่มันผาดโผน คนนึงเน้นวิชาการ อีกคนเน้นกำลัง
จะว่าไปก็เหมือนกับพ่อกับแม่ของทั้งคู่นั่นล่ะนะ สีหราชให้ความรู้สึกเย็นสบายดั่งสายน้ำเหมือนคุณหมอกานต์รวี ส่วนศารทูลนั้นร้อนดั่งไฟที่โหมกระหน่ำเหมือนท่านสัตยาสมัยหนุ่ม ๆ ที่ลุยแหลกยิ่งกว่าปะป๊าของเธอ
ระหว่างที่อริสาคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่นั้นเสียงกรี๊ดกระดี๊กระด๊าก็ดังขึ้น เป็นของนปภานั่นเองไม่ต้องมองดูอริสาก็พอจะเดาได้ คงได้เห็นคนที่อยากเจอเข้าแล้วล่ะสิ
“นี่ นี่ ๆ ๆ นี่คุณหมอสีหราชนี่คะ ตัวจริงด้วย พี่คะนิ้งทำไมไม่บอกว่าเป็นเพื่อนกับคุณหมอด้วยอะ”
“ไม่ได้เป็นเพื่อนสักหน่อย” นลินญาเอ่ยก่อนจะยิ้มเขิน
“ผมไม่ได้เป็นเพื่อนกับคะนิ้งหรอกครับ ผมเป็นแฟน” สีหราชเอ่ยก่อนจะเดินเข้าไปหาคุณแม่ของหญิงสาว “ของทุกอย่างที่สั่งผมซื้อมาให้แล้วครับ”
“ขอบใจมากนะจ้ะพ่อสิงห์ ลำบากแย่เลย”
“ไม่หรอกครับผมเต็มใจ” ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะยกมือไหว้คุณอนาคินทร์และคุณแสงรวี “สวัสดีครับ ผมชื่อสีหราช เป็นแฟนของคะนิ้งครับ”
นปภามองคนที่เธอปลาบปลื้มตาปริบ ๆ ก่อนจะหันไปกระซิบกระซาบกับนพฤทธิ์ สายตาจับไปที่สีหราชที สิรานนท์ทีแต่ก่อนที่ทั้งคู่จะได้พูดอะไรออกมาวิภาวีก็พูดขึ้นเสียก่อน
“จะว่าไปดูคุณจะมีรสนิยมคล้าย ๆ กับพี่นนท์เลยนะคะ นี่รึเปล่าที่ทำให้เธอคบกับผู้ชายคนนี้น่ะคะนิ้ง”
คำพูดของวิภาวีน่าคิดไม่น้อยแต่อริสากลับหัวเราะออกมา ดูเหมือนยัยคนนี้จะอยากจะให้ทุกคนเข้าใจว่านลินญาคบสีหราชเพราะอีกฝ่ายเหมือนกับสิรานนท์และเพื่อเรียกร้องความสนใจจากชายหนุ่มเสียจริง
แต่นี่เพื่อน ๆ ของเธอนะ เธอไม่ยอมให้มาแตกกันหรือความรักของทั้งคู่ไม่ได้รับการยอมรับเพราะคำพูดพวกนี้หรอกนะ อีกอย่างสีหราชกับสิรานนท์มันคงละชั้นกัน ระดับพรีเมี่ยมอย่างเพื่อนเธอน่ะคว้าจากไหนก็ได้เหรอ ไม่ใช่สักหน่อย
“คุณสิรานนท์ทำงานอะไรเหรอคะ?” อริสาถามออกไปหลังจากหัวเราะจนพอใจ
“ผมเป็นสถาปนิก”
“แล้วก็ช่วยคุณพ่อดูแลรีสอร์ทและโรงแรมชื่อดังทางภาคเหนือด้วย ไม่ได้เป็นแค่หมอที่ต้องทำงานงก ๆ ” วิภาวีเอ่ยอย่างต้องการข่มให้สีหราชดูด้อยกว่าสิรานนท์เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าหมออย่างสีหราชน่ะหาได้ตามโรงพยาบาลและถนนแต่สิรานนท์นั้นอยู่ในระดับที่สูงกว่า เมื่อนลินญาเอื้อมมือไขว้คว้าสิรานนท์ไม่ได้ก็เลยคว้าเอาสีหราชมาเป็นแฟน
“หมอสิงห์ไม่ได้ทำงานงก ๆ นะ คนไข้ที่ตรวจกับหมอสิงห์น่ะส่วนใหญ่มีแต่ระดับไฮโซ ดาราเซเล็บทั้งนั้น ไม่ได้กระจอกอย่างที่เธอคิดสักนิด” นลินญาท้วงขึ้น รู้สึกไม่พอใจที่วิภาวีมีท่าทีดูถูกสีหราชทว่าสีหราชยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้มไม่ได้โกรธเคืองใด ๆ
คนหัวร้อนกลับเป็นนปภาและนพฤทธิ์ น้องสาวของนลินญามีสีหน้าขึงโกรธก่อนจะเอ่ย “พี่วิพูดอะไรออกมาน่ะ พี่วิไม่รู้จักคุณหมอสีหราชเหรอ รู้ไว้นะว่าคณหมอสีหราชน่ะติดอันดับหนุ่มที่สาว ๆ อยากกอดมากที่สุด และเป็นหมอที่สาว ๆ อยากตรวจภายในด้วยมากที่สุดในประเทศไทยเชียวนะ”
“สถานะทางบ้านก็ไม่ธรรมดา คุณพ่อเป็นรองผบ.ตร.ที่มีแววจะได้เป็นผบ.ตร.คนต่อไปด้วย ส่วนคุณแม่ก็เป็นถึงเจ้าของโรงพยาบาล น้องสาวของคุณหมอก็เป็นสัตวแพทย์สาวสวยน่ารักที่หนุ่ม ๆ อยากเป็นแฟนด้วยมากที่สุดเลยด้วย ผมยังอยากเป็นเลย” นพฤทธิ์เอ่ยต่อจากพี่สาว ทว่าคำพูดในช่วงท้าย ๆ ทำเอาทั้งสีหราชและศารทูลหันมองชายหนุ่มตาเขม่น
“อุ๊ย ผมพูดอะไรผิดเหรอ?”
“อย่าแม้แต่จะคิด” คู่แฝดพูดพร้อมกันในทันที ถ้าเป็นเรื่องน้องสาวแล้วล่ะก็เห็นไปในทางเดียวกันเชียวล่ะ
ก็อย่างที่ศารทูลเคยบอกอริสา ว่าอะไรที่เป็นของเขาเขาไม่ชอบให้ใครมายุ่ง นั่นก็เพราะทั้งศารทูลและสีหราชต่างก็มีนิสัยหวงของมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว แล้วทั้งคู่ก็มีน้องสาวคนเดียว...น้องสาวของพวกเขาพวกเขาก็ต้องหวงมากถึงมากที่สุดน่ะสิไม่แปลกหรอก
“สองคนนี้เขาค่อนข้างขี้หวงน่ะ” นลินญาชี้แจงก่อนที่จะเล่าอย่างนึกสนุก “ตอนเด็ก ๆ นะใครมายุ่งกับหมอทรายไม่ได้เลย สองคนนี้ไล่ตะเพิดไปหมดจนหมอทรายไม่มีเพื่อนผู้ชายเลยสักคน เรื่องหวงของนี่ไม่มีใครยอมใครเลย”
“นี่พี่คะนิ้งรู้จักคุณหมอมาตั้งแต่เด็กเลยเหรอคะ?”
“ก็ใช่น่ะสิ พี่เป็นเพื่อนกับอลิน เสือ แล้วก็สิงห์มาตั้งแต่เด็กแล้ว เรียนโรงเรียนเดียวกันมาตั้งแต่อนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัยเลย พวกเราเป็นเพื่อนสนิทกันมาก แล้วพี่ก็แอบชอบสิงห์มาตั้งแต่มัธยมแล้ว แต่เขาไม่รู้และเหมือนไม่สนใจพี่เลยพยายามจะตัดใจ พอจะตัดใจจริง ๆ คุณสิรานนท์ก็มาโผล่ในชีวิตพี่ก็เลยคิดว่าเผลอไปเพราะเขาเหมือนหมอสิงห์ในหลาย ๆ เรื่อง แต่...ตั้งแต่ไปทริปพี่ก็รู้แล้วว่าเราใจตรงกัน” นลินญาอธิบายไปเขินไปพลาง
“จริงเหรอคะคุณหมอ คุณหมอก็ชอบพี่คะนิ้งเหรอ?”
“เรียกพี่หมอก็ได้ครับ ส่วนคำตอบใช่ครับ พี่ชอบคะนิ้งเหมือนกันแต่เพราะพี่แสดงออกไม่เก่งก็เลยทำให้เขาเข้าใจไปว่าพี่ไม่ชอบเขาและชอบแกล้งเขาบ่อย ๆ ”
“ว้าว อย่างกับในนิยายแหน่ะ” นปภาเอ่ย พอรู้ว่าแฟนพี่สาวคือคุณหมอที่ชื่นชอบความคิดก่อนหน้าที่บอกว่าถ้าไม่หล่อจะไม่ยอมให้ผ่านปลิวหายไปทันที หน้าตาที่ออกลูกครึ่งนิด ๆ ดูมีเสน่ห์กว่าสิรานนท์ตั้งเยอะ
“ใช่มั้ยล่ะ ลูกเป็ดขี้เหร่กับเจ้าชายขี้แกล้ง” นลินญาเอ่ยก่อนจะยิ้มให้วิภาวีอย่างเยาะเย้ย “ไม่มีใครเชื่อเธอหรอกนะวิภาวี เพราะโปรไฟล์แฟนฉันน่ะเริ่ดไม่แพ้คุณสิรานนท์เลย”
“เชอะ”
“เอิ่ม ขอขัดนะคะอลินหิวแล้วอะ” อริสาแทรกขึ้นในจังหวะที่เรื่องทุกอย่างดูจะดีขึ้นจากตอนแรก “อลินขอทานเลยได้มั้ยคะคุณตา”
“เอาสิ ทุกคนก็ลงมือทานกันได้แล้ว เรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที” คุณตาภานุเอ่ยก่อนที่อริสาจะรีบเดินไปหาคุณนายน้ำรินทันทีเพื่อเลือกในสิ่งที่อยากกิน นลินญาหัวเราะเบา ๆ กับความไม่อินกับเรื่องราวของว่าที่คุณแม่ก่อนจะเอ่ยกับสีหราชที่มายืนข้าง ๆ พอได้ยินกันสองคน
“ถ้านิ้งท้องนิ้งจะเป็นแบบยัยอลินมั้ยสิงห์น้อย”
“อาจจะหนักกว่า หรือไม่ก็ไม่เป็นแบบนั้นก็ได้ คนท้องน่ะมีหลายอาการ แล้วก็อาจจะแปลกประหลาดไปมากเลยล่ะ แต่ไม่ต้องกลัว สิงห์ว่าสิงห์รับมือได้ดีกว่าไอ้คนแถวนี้”
“ได้ยินนะ” ศารทูลเอ่ยก่อนจะส่ายหน้าน้อย ๆ อย่างระเหี่ยใจ ก่อนจะคุยกันเรื่องท้องน่ะ ผ่านด่านพ่อตาให้ได้ก่อนมั้ย ดูเหมือนคุณอนาคินทร์จะยังไม่คล้อยตามลูก ๆ นะ
