บทที่23 ใครทำให้ท้องคนนั้นล่ะไปดูแล
บนโต๊ะอาหารที่ไร้เสียงสนทนาอริสามองเมนูอาหารที่ถูกนำมาเสิร์ฟแล้วยกมือปิดจมูกจนคุณตันหยงที่สังเกตอยู่ต้องถามไถ่
“เหม็นเหรอลูก?”
“ค่ะ เหม็นหมดเลย อลินอยากทานก๋วยจั๊บค่ะ ไม่อยากทานอย่างอื่นเลย” เช้านี้ดูเหมือนตัวป่วนในท้องจะงอแงและเอาแต่ใจกว่าวันไหน ๆ อริสาแทบจะหมดแรงเพราะเจ้าตัวป่วน ไม่รู้ว่านึกคึกอะไรถึงได้ทำให้เธออาเจียนหมดไส้หมดพุงตั้งแต่เช้ามืด พอมานั่งที่โต๊ะอาหารก็เหม็นไปหมดจนอยากจะอาเจียนออกมาอีก อาหารบนโต๊ะมีเยอะแยะไปหมดก็ไม่ถูกใจสักอย่างแล้วยังอยากจะทานของที่ไม่มีบนโต๊ะเสียอีก เพิ่งรู้ซึ้งวันนี้เองว่าการท้องนี่มันไม่ง่ายเลย
คุณตันหยงซ่อนรอยยิ้มไว้มิดชิดก่อนจะส่งสายตาให้สาวใช้ไปนำก๋วยจั๊บสูตรพิเศษมาเสิร์ฟ ไม่รู้ว่าย่าหลานเขาใจสื่อถึงกันหรือยังไงคุณหมอกานต์รวีถึงได้นึกครึ้มตื่นมาทำก๋วยจั๊บตั้งแต่เช้ามืดและให้เด็กในบ้านนำมาฝากไว้ให้อริสา ตอนแรกเธอสั่งไม่ให้นำมาเสิร์ฟก่อนเพราะอยากจะถามเจ้าตัวเสียก่อนว่าอยากจะทานหรือไม่ ใครจะคิดว่าคุณย่าจะใจตรงกับคุณหลานในท้องได้ขนาดนี้
“อ้าว ก็มีนี่คะทำไมไม่เอามาเสิร์ฟแต่แรก”
“กานต์รวีเขาให้เด็กที่บ้านเอามาฝากไว้ให้เราน่ะ ดูเหมือนคุณย่ากับคุณหลานเขาจะใจสื่อถึงกันนะ คุณหลานนึกอยากทาน คุณย่าก็นึกอยากทำ”
“คุณย่าคุณหลานอะไรกัน แม่อย่าพูดแบบนั้นสิคะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงอ่อย มันก็ฟังยังไง ยังไงอยู่นะ เธอยังตั้งหลักกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เลยสักนิด วันนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าควรทำยังไงต่อไป จะไปจัดการไอ้คนปากโป้ง หรือจะหนี หรือว่าจะเดินไปข้างหน้ายังไงยังไม่รู้เลย
“ก็มันเป็นความจริงนี่ลูก ไม่มีใครหนีความจริงพ้นหรอกนะอลิน ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องไม่ได้ตั้งใจแต่เราก็ต้องยอมรับว่าหนูกำลังท้องหลานของบ้านโน่นอยู่ กานต์เป็นคุณย่าของตัวเล็กในท้องหนู ส่วนพี่สันต์ก็เป็นคุณปู่ ส่วนป๊ากับแม่ก็ได้เป็นคุณตากับคุณยายแล้ว เราหนีความจริงไม่ได้หรอก และเราก็ต้องยอมรับความจริง”
“อลินก็ไม่ได้ไม่ยอมรับว่าป้ากานต์กับลุงสันต์เป็นอะไรกับเจ้าตัวป่วน แต่อลินยังตั้งหลักยอมรับไม่ได้ว่า...ตัวเองจะมาท้องกับ...” หญิงสาวเอ่ยก่อนจะทอดถอนใจ “ไอ้คนพรรค์นั้น”
ท่านอาทิตย์ปลายตามองลูกสาวที่พูดว่าตัวเองยังตั้งหลักไม่ได้ก่อนจะลอบถอนใจ อยากจะบอกลูกสาวเหลือเกินว่าไม่เป็นไร ค่อย ๆ ทำใจไป รอให้ไอ้ตัวเล็กที่อยู่ในท้องลืมตาขึ้นมาดูโลกก็ยอมรับได้เองนั่นแหละว่าตัวเองท้องกับไอ้คนพรรค์นั้น
แต่เขาก็ไม่ได้พูดออกไปเพราะจิตใจคนท้องยากแท้หยั่งถึง เกิดพูดไปแล้วอริสาไม่พอใจไม่บ้านแตกเหรอ ไม่เสี่ยงจะดีกว่า
“ป๊าว่ารีบทานดีกว่านะ เดี๋ยวก็เย็นหมดพอดี”
“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับก่อนจะลงมือทานก๋วยจั๊บสูตรพิเศษของคุณหมอกานต์รวีอย่างมีความสุข คุณตันหยงลอบสบตากับคนเป็นสามีอย่างอดไม่ได้ จะว่าไปแล้วถ้าจำไม่ผิดก๋วยจั๊บนั้นเป็นเมนูโปรดของศารทูลที่ชายหนุ่มชื่นชอบมาตั้งแต่เด็กแล้วไม่ใช่เหรอ ขนาดยังอยู่ในท้องยังเซไปทางพ่อแบบนี้จะไม่โดนแม่งอนเอาหรือ
คุณตันหยงมองลูกสาวทานก๋วยจั๊บอย่างมีความสุขจนหมดจึงถามขึ้น “วันนี้ลางานสักวันมั้ยลูก ตาบวมขนาดนี้น่าจะพักสักหน่อย”
“จริง ๆ แล้ว...วันนี้อลินลาไว้แล้วล่ะค่ะ”
“อ้าว”
“คือสิงห์บอกว่าอลินควรฝากครรภ์ได้แล้ววันก่อนทั้งคะนิ้งทั้งสิงห์ก็เลยพากันโทรมากดดันอลินให้ไปฝากครรภ์ อลินเลยรับปากว่าวันนี้จะลางานและไปโรงพยาบาล”
“อือ ดีแล้วล่ะฝากท้องตั้งแต่เนิ่น ๆ จะได้ไม่เสี่ยงมาก ฝากกับหมอคนไหนล่ะ?”
“ตันหยงก็ถามแปลก หมอสิงห์เจ้ากี้เจ้าการแบบนี้ก็คงให้อลินฝากกับตัวเองนั่นแหละ หลานเขาเขาคงอยากดูแลเอง” ท่านอาทิตย์เอ่ยขึ้นก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาตรวจข่าวสารเหมือนกับที่เคยทำทุกวันแต่ทว่าใบหน้ากลับเคร่งเครียดขึ้นกับบางข่าวสารที่ได้อ่าน
“แม่สาวเจแปนคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ”
“คะ? อะไรสาว ๆ อะไรคะพี่อรรค?” คนหูดีหันขวับมาถามไม่ต่างจากอริสาที่เบนสายตาคาดคั้นส่งมาให้
“อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไปตันหยง พี่ไม่ได้มองสาวที่ไหน เพียงแค่อ่านรายงานจากลูกน้องน่ะ”
“แล้วรายงานอะไรล่ะคะถึงได้มีแม่สาวเจแปนไม่ธรรมดา?”
“มีสาวเจแปนจริง แต่เขาไม่ได้มายุ่งกับพี่หรอก แต่ที่บอกว่าไม่ธรรมดาเพราะดูเหมือนเขาจะอยากได้พ่อของเจ้าตัวเล็กชนิดจริงจังเลยล่ะ”
“หือ พ่อของเจ้าตัวเล็ก? เสือน่ะเหรอคะ”
“ใช่ แม่สาวคนนี้เป็นตำรวจหญิงจากญี่ปุ่นมาทำคดีเกี่ยวข้องกับคดีที่เจ้าเสือทำอยู่น่ะ เสือก็เลยต้องไปร่วมงานด้วย แต่เหมือนฝ่ายโน่นถูกใจพ่อหนุ่มลูกเสี้ยวของเราเข้าอย่างจังเลยล่ะ”
“แล้วที่ว่าไม่ธรรมดานี่คืออะไรคะ?”
“ตอนตีห้ามีการสนธิกำลังเข้าทลายโกดังพักยา เจ้าเสือก็ไปด้วยและก็เกือบจะถูกยิงแต่สาวเจ้ามาช่วยไว้ทันทำให้สาวเจ้าบาดเจ็บหนัก ตอนนี้ไอ้เจ้าเสือถึงยังเฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาล คิดเหมือนพี่มั้ยล่ะว่าแม่สาวเจแปนนี่ไม่ธรรมดา”
“จะเอาเรื่องบุญคุณมาผูกมัดอย่างนั้นสินะ?”
สองสามีภรรยานั่งคุยกันหน้าเคร่งเครียดทว่าคนที่ควรมีปากมีเสียงที่สุดกลับกำลังนึกย้อนไปถึงใบหน้าของสาวญี่ปุ่นที่เคยเจอกับศารทูล เธอคิดว่าคงจะเป็นคนเดียวกันนั่นล่ะ
จะว่าไปแล้วก็สะสวยใช่เล่นเลยนะผู้หญิงคนนั้นน่ะ หน้าอกหน้าใจก็...คิดมาถึงตรงนี้อริสาก็เผลอหลุบต่ำมองหน้าอกตัวเองอย่างห้ามไม่อยู่
แม่สาวคนนั้นมีเยอะกว่าเธอเสียด้วยสิ ให้ตายเถอะ เธอคิดอะไรอยู่เนี่ย ผู้หญิงคนนั้นจะหน้าอกล้นยังไงก็ช่างเถอะ ทำไมเธอจะต้องไปคิดเปรียบเทียบกับตัวเองด้วยเล่า บ้าบอที่สุด
กริ๊ง ๆ
“หมอสิงห์โทรตามแล้วค่ะ อลินไปโรงพยาบาลก่อนนะคะ” หญิงสาวได้โอกาสลุกออกจากโต๊ะอาหารเมื่อสีหราชโทรศัพท์มา เป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากโทรมาย้ำเรื่องไปฝากครรภ์
“ขับรถไหวเหรอ ให้ผมแวะไปส่งมั้ย” อินทัชแทรกขึ้นพร้อมกับวางมือจากอาหารเช้าที่อิ่มพอดี
“ไม่ต้อง นัดคะนิ้งไว้แล้ว นี่ไง ไลน์มาว่าอยู่หน้าปากซอยแล้วพอดี ไปนะคะ” หญิงสาวพูดจบก็เดินไปยังหน้าบ้านทันที
ท่านอาทิตย์มองตามด้วยความเป็นห่วงก่อนจะเอ่ยขึ้นกับคนเป็นภรรยาหลังจากที่คิดทบทวนอยู่ครู่ใหญ่ “พี่ไม่อยากให้อลินพักคนเดียวกำลังท้องกำลังไส้มันอันตราย เดี๋ยวหยงโทรบอกลูกด้วยนะว่าพี่อยากให้ย้ายกลับมาอยู่บ้าน”
“แต่บ้านเราไกลจากที่ทำงานนะคะ ยัยคนนี้ดื้อเเพ่งขนาดไหนพี่อรรคก็รู้ ไม่มีทางหรอกค่ะที่จะลาออกจากงานมาอยู่บ้านน่ะ มีแต่จะอ้อนขอทำงานจนใกล้คลอดโน่นล่ะ และแน่นอนค่ะว่าถ้าลูกขออย่างนั้นการให้กลับมาอยู่บ้านมันจะทำให้แกเดินทางลำบากขึ้น”
“แต่พี่ไม่อยากให้อลินอยู่คนเดียว มันอันตราย”
“ก็หาคนไปอยู่เป็นเพื่อนสิครับป๊า” อินทัชแทรกขึ้นก่อนที่เด็กหญิงอินทิราจะแทรกขึ้นสนับสนุนคุณอา
“ใช่ค่ะ หาคนเป็นอยู่เป็นเพื่อนสิคะคุณปู่ คุณอาไม่ต้องลำบากเดินทางไปทำงานไกลและก็มีคนคอยดูแลด้วย”
“เป็นความคิดที่ดี แต่จะให้ใครไปล่ะ อิน?”
“เฮ้ย ไม่เอาป๊า ม.กับที่ทำงานพี่อลินอยู่กันคนละทางเลย อีกอย่างช่วงนี้อินก็ใกล้สอบแล้วไม่มีเวลาดูแลพี่สาวหรอก”
“ให้อ้อมไปมั้ยคะ?” ยัยหนูอินทิราแทรกขึ้นอีกแต่ก็โดนปฏิเสธจากทั้งสามคนเป็นเสียงเดียวกัน
“ยัยซุ่มซ่ามอย่างเราน่ะขืนให้ไปอยู่กับพี่อลินมันจะยิ่งส่งผลร้ายมากกว่าผลดีสิยัยอ้อม” คุณอาที่อายุห่างกันไม่มากให้เหตุผลที่ทุกคนบนโต๊ะต้องเห็นด้วย ก็แม่หนูอินทิราน่ะกิตติศัพท์ความซุ่มซ่ามเลื่องลือไปสามบ้านแปดบ้าน มีใครในแถบนี้ที่ไม่รู้บ้างเล่า ขนาดไปอยู่ค่ายกับคนเป็นพ่อแค่สามสี่วันยังกลายเป็นที่เลื่องลือเลย
“งั้นจะให้ใครไปล่ะ พี่แก้วเหรอ?”
“แก้วก็เหมือนอินนั่นล่ะ” คุณตันหยงเอ่ยก่อนจะยกยิ้ม “รู้แล้วค่ะว่าให้ใครไปดี”
“ใคร?”
“ก็ใครทำให้ท้องก็ให้คนนั้นล่ะไปอยู่ดูแล”
“แต่...”
“ไม่มีแต่ค่ะ ขอเรื่องนี้เรื่องเดียวค่ะ ความปลอดภัยของลูกกับหลานเราสำคัญกว่าค่ะ ให้เสือไปอยู่กับอลินน่ะดีแล้ว เผื่อเป็นอะไรไปจะได้ดูกันทัน” คุณตันหยงเอ่ยเสียงหนักแน่นน่ากลัวก่อนจะสะกดทุกคนให้เงียบด้วยสายตา ใครกล้าแย้งกันล่ะกับผู้บัญชาการสูงสุดของบ้านน่ะ
เป็นอันว่าทุกอย่างจบตามความต้องการของคุณตันหยง หลังจากมื้ออาหารจบลงคุณตันหยงก็จัดแจงโทรไปหาศารทูลทันทีโดยไม่รอให้ท่านอาทิตย์เป็นคนจัดการ คนเป็นสามีได้แต่นั่งนิ่งปล่อยให้ภรรยาจัดการไป
