บทที่14 ทำยังไงดี
อุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์ทั้งชนิดแบบจุ่ม และแบบหยดที่ใช้แล้วมากกว่าห้าชิ้นที่บ่งบอกไปในทิศทางเดียวกันถูกวางไว้บนโต๊ะโดยไม่มีวี่แววว่าคนที่ใช้มันจะหยิบขึ้นมาดูอีกครั้ง
ดวงตาที่เคยเปล่งประกายความสงบและคมเฉียบหม่นลงทุกขณะเมื่อมองขีดสีแดงที่ปรากฏเด่นชัดสองขีดในชุดตรวจการตั้งครรภ์ทุกชิ้นที่ซื้อมาทดสอบ
มีบางชิ้นที่เป็นขีดจาง ๆ แต่ก็เป็นสองขีดอยู่ดี
จะบ้าตาย เธออยากให้ชุดทดสอบพวกนี้มันเสียทั้งหมด จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่สองขีดเสียเหลือเกิน แต่...
“นี่ฉันท้องเหรอเนี่ย?” เธอได้แต่ถามตัวเองพร้อมกับมือที่เผลอลูบหน้าท้องของตัวเอง มันเป็นไปได้หรือที่แค่พลาดไปคืนเดียวเธอจะได้ของขวัญติดท้องมาแบบนี้...
นี่ล่ะนะเขาถึงว่าเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้กับชีวิต เฮ้อ
“เอาไงต่อล่ะเนี่ย ขืนปะป๊ารู้บ้านแตกแน่” คิดเรื่องความเอาแน่เอานอนของชีวิตได้ไม่เท่าไหร่ก็มีอีกเรื่องมากวนใจ นั่นคือปัญหาที่ใหญ่กว่าเธอท้องคือ...ถ้าพ่อกับแม่เธอรู้เข้ามีหวังบ้านแตก
แค่รู้ว่าเธอท้องก็คงสร้างความสะท้านสะเทือนไปทั่วได้ยิ่งถ้ารู้ว่าใครคือพ่อของลูกในท้องมีหวังบ้านแตก กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดมีหวังสะท้านสะเทือน
อริสารู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที จะว่าไปแล้วไม่ใช่แค่เรื่องที่บ้านรู้เข้าจะเป็นยังไงหรอก ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าวิตก ทั้งเรื่องที่ว่าชีวิตต่อจากนี้ไปเธอจะเอายังต่อ ทั้งเรื่องต่อจากนี้เธอจะต้องดูแลตัวเองยังไง สารพัดความกังวล ไหนจะชื่อเสียงหน้าตาทางสังคมอีก เนื่องจากเธอเป็นที่รู้จักในโลกโซเชียลในฐานะของสาวเก่ง เป็นไอดอลของใครหลาย ๆ คน
เป็นบรรณาธิการสาวชื่อดังที่ถูกขนานนามว่าเป็นต้นแบบของสาวยุคใหม่ เป็นเพื่อนกับดารา เซเล็บหลาย ๆ คนในวงการบันเทิงคุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับนักข่าว
ขืนมีข่าวออกไปว่าเธอท้องทั้งที่เพิ่งเลิกกับแฟนไม่นาน...ภาพลักษณ์อันดีงานที่สร้างมาก็พังทลายกันพอดี ชื่อเสียงตัวเองก็ทำให้เครียดพอแล้ว ยิ่งคิดไปถึงชื่อเสียงของครอบครัวอีก ยิ่งคิดยิ่งกลุ้มกันไปใหญ่
จริงอยู่ว่าสมัยนี้สังคมเปิดกว้าง การท้องก่อนแต่งเป็นอะไรที่ได้รับการยอบรับมากกว่าสมัยก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นกับทุกคนถ้าเป็นคนธรรมดาอย่างมากก็แค่ถูกคนข้าง ๆ บ้านนินทา แต่ถ้ามีชื่อเสียงหน่อยก็ต้องมีการพูดถึงกันในวงกว้าง
ตัวหญิงสาวเองมีชื่อเสียงในแวดวงสาวยุคใหม่และเพราะมีเพื่อนเป็นดาราหลายคนทำให้แฟนคลับของดาราคนดังเหล่านั้นรู้จักเธอค่อนข้างมาก ขณะที่ฝั่งผู้เป็นพ่อก็เป็นถึงผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เลื่องชื่อเรื่องการกวาดล้างขบวนการยาเสพติด เป็นตำรวจที่ถูกจับตามมอง ซ้ำยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่รักและสนิทสนมกันมานานกับพลตำรวจโทสัตยารองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอีกยิ่งถูกจับจ้องไปใหญ่ ยิ่งสูงยิ่งหนาว ยิ่งถูกจับตามองและคอยหาโอกาสเล่นงาน
คาดเดาได้เลยว่าเรื่องของเธอจะถูกหยิบยกขึ้นมาเล่นงานผู้เป็นพ่อแน่ ๆ หนักไปกว่านั้นคือถ้าปะป๊าสุดหล่อของเธอสืบจนรู้เข้าว่าใครเป็นพ่อของลูกในท้องเธอจนไปบังคับฝ่ายนั้นให้รับผิดชอบ (ในสิ่งที่เธอเองที่ผิด) มีหวังพลตำรวจโทสัตยาโดนหางเลขเล่นงานไปด้วยเป็นแน่ (ความจริงอีกคนที่จะถูกเล่นงานไปด้วยก็คือศารทูลนั่นล่ะแต่เธอไม่กังวลกับตานั่นหรอก)
“โอ๊ย ทำไงดีเนี่ย” คนที่มั่นใจว่าตัวเองกำลังจะเป็นแม่คนได้แต่คิดหนัก แว่บนึงหญิงสาวคิดขึ้นมาได้ว่าควรปรึกษาเพื่อนสนิทอย่างแพนธีราและนลินญา แต่ก็ต้องลบความคิดนั้นไปเมื่อคิดได้ว่าแพนธีรารักความถูกต้อง ยัยคนนั้นคงจะต้องไปบอกศารทูลแน่ว่าเธอท้อง เรื่องนี้ไม่ควรให้แพนธีรารู้จะได้ไม่รู้ไปถึงหูศารทูล ยิ่งไม่ควรให้นลินญารับรู้ เพราะยัยคนนั้นล่ะซี้กับศารทูลที่สุด
หลังจากนี้จะทำยังไงอริสายังไม่แน่ใจแต่มีอยู่อย่างนึงที่มั่นใจและไม่คิดเปลี่ยนความคิด นั่นคือเรื่องของศารทูล เธอจะไม่บอกเขาเรื่องลูก และไม่ต้องการความรับผิดชอบใด ๆ จากเขา
จะพูดกันจริง ๆ แล้วถึงจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาแต่ตัวเธอก็ผิด เรื่องทั้งหมดไม่ใช่ศารทูลที่เริ่มก่อน เป็นตัวเธอเองที่เริ่มก่อน สมองสั่งการว่าไม่ควรมีสิทธิ์เรียกร้องอะไรด้วยซ้ำ ดังนั้นแล้วศารทูลไม่ควรรู้เรื่องนี้
อีกอย่างเธอกับศารทูลก็เปรียบอย่างขิงกับข่า ขมิ้นกับปูนมาแต่ไหนแต่ไหรแล้ว เธอไม่อยากจะให้ลูกเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกันหรอกนะ
การเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวน่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด ถึงแม้ลูกเกิดมาอาจจะรู้สึกขาดพ่อไปบ้างแต่ย่อมดีกว่าต้องเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกัน
อีกประการหนึ่ง จากที่เห็นวันนี้ดูเหมือนศารทูลจะมีคนรักอยู่แล้ว เธอไม่อยากไปทำลายความรักของใครหรอกนะ ยิ่งไปแทรกกลางเพราะท้องด้วยแล้วมันก็ไม่ต่างไปจากนภิตราน่ะสิ
