2.กามเทพร่ายรัก
*** ทักทายคร้า ไปต่อกันเลยจ้า ***
ดวงตาคมภายใต้แว่นกันแดดหนา มองกลุ่มคนทั้งห้าที่เดินตามหลังพรานนกซึ่งเป็นคนนำทางที่ปารินทร์คุ้นเคยไปหยุดตรงลานหินที่พวกเขาพักเมื่อสักครู่
ปารินทร์มองชายร่างสูงขาวผมสีบลอนด์สามคนยืนมองแผนที่อย่างพิจารณา เสียงสนทนาภาษาอังกฤษดังแว่วมาให้ได้ยิน ส่วนผู้หญิงอีกสองคนนั่งพักเหนื่อยอยู่ไม่ไกล คนหนึ่งหน้าตาออกไปทางคนยุโรป ผมยาวสีน้ำตาลอ่อนถูกรวบไว้ข้างหลัง
แต่อีกคนนี่สิที่ทำให้หัวใจแกร่งของผู้พันหนุ่มกระตุกไหว เมื่อดวงตาคมจับจ้องใบหน้ารูปหัวใจนวลเนียน ดวงตาคมสวยบาดใจ สันจมูกโด่งรับกับริมฝีปากอิ่ม รูปร่างโปร่งระหงเต่งตึงถูกซ่อนในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลพอดีตัว เสียบชายเข้าไปในกางเกงสีดำตัวสวย อวดส่วนโค้งส่วนเว้าของผู้สวมใส่ ทำเอาหัวใจของผู้พันหนุ่มแกว่งไม่เป็นท่า
“คนไหนครับพี่ ที่เราต้องอารักขาเป็นพิเศษ” อชิตะกระซิบถามพลางจ้องสองสาวตาไม่กะพริบ นานๆ จะได้ใกล้ชิดสาวสวยให้ชุ่มฉ่ำหัวใจบ้าง
“ไม่รู้ ยังไงเราก็ต้องอารักขาทุกคนให้ดีที่สุด”
คำสั่งเฉียบขาดทำให้อชิตะยิ้มให้ผู้บังคับบัญชานัยน์ตาแพรวพราว เมื่อเห็นรุ่นพี่ที่รักและเคารพจ้องสาวนางหนึ่งไม่วางตา
เสียงผิวปากสั้นๆ ติดกันสามครั้งของพรานนกดังขึ้น ทำให้ปารินทร์และนายทหารทุกคนเดินออกจากที่ซ่อน
แพทย์หญิงไอริน อุษมาน มิคาเอล ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเกือบร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตร ดวงตาคมสวยกวาดมองทหารสิบห้าคนพร้อมอาวุธครบมือที่เดินออกมาจากที่ซ่อนตัว
ร่างสูงสง่าเดินนำหน้าทุกคนมาอย่างองอาจ ใบหน้าคมสันรกครึ้มไปด้วยเคราเขียวมีแว่นกันแดดปิดบังดวงหน้า ท่าทางทระนงและเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวเอง
“สวัสดีครับผู้พัน” พรานนกเอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้ม
“มาช้ากว่าเวลาที่กำหนดสองนาทีนะครับพราน” อชิตะเอ่ยแซวด้วยแววตาล้อเลียน
“พอดีคุณผู้หญิงคนหนึ่งเท้าเจ็บน่ะครับหมวด เลยต้องพักมาเรื่อยๆ แต่ก็เก่งและสู้มากนะครับ” พรานนกหันไปยิ้มให้ไอริน
ปารินทร์ก้มมองเท้าเล็กก่อนจะมองใบหน้าแดงระเรื่อของเธอ ไอรินหลุบตามองข้อเท้าที่อาการปวดเริ่มรุนแรงขึ้น ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นเมื่อเจ้าตัวทิ้งน้ำหนักตัวลง มือบางนวดคลึงบริเวณข้อเท้าไปมา
“เจ็บแบบนี้จะไปรักษาชาวบ้านได้ยังไง” เขาพูดขึ้นมาลอยๆ ริมฝีปากเหยียดยิ้ม ทำให้ไอรินไม่พอใจอยู่เงียบๆ
ปารินทร์เห็นท่าทางเชิดหน้าของหญิงสาว จึงขยับเข้าไปทักทายชายชาวต่างชาติสามคนด้วยภาษาอังกฤษนุ่มหู พร้อมกับยื่นมือไปรออยู่ข้างหน้า
“สวัสดีครับ ผมผู้พันปารินทร์ หัวหน้าชุดอารักขาในครั้งนี้ครับ”
“สวัสดีครับผู้พัน ผมสตีฟ เมริก หัวหน้าทีมแพทย์อาสาครับ แล้วนี่ ไมค์ แอนดูร์ จีน่าและไอริน” สตีฟเป็นชายร่างสูงยาวเอ่ยแนะนำสมาชิก
“เราต้องรีบเดินทางไปให้ถึงศูนย์อพยพก่อนค่ำ” ปารินทร์บอกเสียงเรียบพลางชำเลืองมองใบหน้าเนียนสวยของไอริน จีน่าขยับเข้าไปประคองหญิงสาวให้ลุกขึ้น
“ไหวไหมไอริน”
“สบายมากจ้ะ” ไอรินบอกพลางนิ่วหน้าด้วยความเจ็บเมื่อทิ้งน้ำหนักลงบนเท้า ใบหน้าหวานเงยขึ้นจึงทันได้เห็นรอยยิ้มเหยียดหยันของปารินทร์ที่มองมา
“ไม่ไหวก็บอกนะครับ ทหารจะทำเปลให้นั่งก่อนออกเดินทาง จะได้ไม่ต้องเสียเวลา”
ไอรินสบตาคมเข้มอย่างเอาเรื่องที่เขากล้าดูถูกเธอ
“ฉันไหวค่ะสตีฟ ออกเดินทางได้เลย” หล่อนบอกเพื่อให้ทุกคนคลายกังวล ก่อนจะสะพายกระเป๋าใบใหญ่ขึ้น ทุกคนจึงออกเดินเท้าเข้าไปเนื่องจากทางลาดชันรถไม่สามารถเข้าไปได้ โดยมีพรานนกเป็นคนนำทาง
ทั้งหมดเดินไปตามทางเท้าแคบๆ สองข้างทางเป็นป่ารก ปารินทร์หันกลับไปมองข้างหลัง เห็นร่างโปร่งระหงเดินรั้งท้าย ชายหนุ่มจึงปล่อยให้คนอื่นๆ เดินผ่านไปเพื่อหยุดรอหญิงสาว
“ไหวไหมครับคุณหมอ” เขาถามเสียงเรียบ ดวงตาคมเข้มใต้แว่นกันแดดหนามองผิวพวงแก้มแดงปลั่งด้วยไอแดดอย่างอดสงสารไม่ได้ แต่คนถูกถามกลับไม่คิดแบบนั้น
“ถ้าไม่ไหวคุณจะให้ฉันขี่คอหรือไง” สำเนียงภาษาไทยชัดเจนหลุดออกมาจากริมฝีปากอิ่ม ทำให้ผู้พันหนุ่มนิ่งมองหญิงสาวอย่างแปลกใจ ตาคมมองตามแผ่นหลังบางอย่างอดทึ่งไม่ได้...สำเนียงภาษาไทยชัดเจนราวกับอยู่เมืองไทยมานานเลยทีเดียว
“คุณพูดภาษาไทยได้ทำไมไม่พูดตั้งแต่แรก” ปารินทร์เดินไปดึงกระเป๋าบนหลังของเธอออกเพื่อจะถือให้เสียเอง แต่ไอรินจับสายกระเป๋าเป้ไว้แน่นไม่ยอมปล่อยให้เขาช่วย
“ถ้าพูดก็ไม่รู้น่ะสิคะว่าคนบางคนแอบนินทาว่าเราไม่เอาไหน...ปล่อยค่ะ ฉันถือเองได้”
“ผมสาบานได้เลย อีกไม่เกินหนึ่งกิโลผมต้องได้แบกคุณแน่ เอามาเถอะผมช่วย” เขาบอกเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นเหงื่อเม็ดเล็กๆ ไหลออกมาข้างขมับ
ความอ่อนโยนจากสายตาและคำพูดของเขาทำให้ไอรินไม่กล้าปฏิเสธจึงส่งกระเป๋าเป้ให้เขา
“ขอบคุณค่ะ”
“แล้วเดินไหวมั้ย” เขาก้มมองข้อเท้าที่หุ้มด้วยรองเท้าผ้าใบราคาแพง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาคมสวยคู่งาม ไอรินเห็นรอยยิ้มบนริมฝีปากได้รูปจึงเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้
“ไม่ไหวแล้วจะให้แบกแทนกระเป๋า” เธอบอกพลางเดินตัวปลิวนำหน้าชายหนุ่ม เพราะไม่อยากให้เขาเห็นความขัดเขินของเธอ ปารินทร์มองตามแผ่นหลังบางอย่างคาดโทษก่อนจะเดินปิดท้ายไปเงียบๆ
*** ขอบคุณคร้า ***
