บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 เข้าใจเธอผิดไป

บทที่ 7 เข้าใจเธอผิดไป

เมื่ออาหารมาถึงเธอจึงออกจากห้องลงลิฟต์ของคอนโดไปและกลับขึ้นมาบนห้อง จัดการกินอาหารอ่อน ๆ ที่สั่งมาจนหมด พร้อมกับกินยาแก้ไข้ทันที คอที่แห้งพราก ตอนที่พยายามจะกินน้ำหรืออาหารมันช่างทรมานเหลือเกิน แต่ก็คงน้อยกว่าความทรมานเมื่อคิดถึงใครสักคนแหละนะ และส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอต้องเป็นหวัดแบบนี้ก็เพราะชายคนนั้น.. ถ้าเขาไม่มาดักรอเธอที่หน้าคณะ เธอคงจะอยู่ใต้อาคารและรอให้ฝนหยุดก่อน จะได้ไม่ต้องเดินตากฝนจนไข้ขึ้น

หญิงสาวยิ้มเยาะให้กับตัวเองอย่างสมเพชของร่างกายตัวเองที่เป็นหนักขนาดนี้เพราะใครบางคนคนนั้น ไม่ได้รู้ด้วยซ้ำว่าเธอป่วยจนไปเรียนไม่ไหว

รีไวน์ที่ตอนบ่ายอาจารย์ยกคลาส ทำให้เขากลับมานั่งเล่นนอนเล่นที่คอนโดหรูของตัวเอง และเมื่อช่วงเย็นมาถึงท้องของรีไวน์ก็ส่งเสียงร้องออกมาเป็นสัญญาณว่าให้หาของกินได้แล้ว แต่เขาเบื่อที่จะสั่งอาหารมานั่งกินที่คอนโดคนเดียว จึงขับรถไปร้านพิซซ่า โฮมเมดร้านชื่อดังที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเขามากนัก ซึ่งเขาชอบมาทานร้านนี้อยู่เป็นประจำ มันเป็นร้านที่เรียบง่ายและไม่มีผู้คนมากจนน่ารำคาญ แถมอาหารก็ยังถูกปาก

ช่วงเย็นเป็นช่วงที่การจราจรค่อนข้างหนาแน่น แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคในการออกไปหาของกิน หากได้กินของอร่อยไม่ว่าจะต้องขับรถไปไกลแค่ไหนก็ไม่เกี่ยง

รถBWWสุดหรูทรงสปอร์ตสีเทาขับแล่นเข้ามาในบริเวณลานจอดที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้ ก่อนที่เจ้าของรถจะดับเครื่องยนต์และหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมา เตรียมลงจากรถแต่ระหว่างที่เขากำลังจะเปิดประตูสายตาของเขาก็ดันไปเห็นรถที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้าม หากว่าเป็นคนธรรมดาเขาคงจะมองและก็เมินไปได้อย่างง่ายดาย

แต่ชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะอายุมากกว่าเขาไม่กี่ปี รีไวน์จำได้ทันทีว่าคือคนเดียวกันกับที่นีน่าคบหาอยู่! แต่ข้างกายของผู้ชายคนนั้นไม่ใช่นีน่าแต่เป็นผู้หญิงคนอื่น!

ทั้งสองคนเดินกอดเอวกันกระหนุงกระหนิงเดินไปที่ร้าน พิซซ่า แต่รีไวน์ไม่ปล่อยให้พวกนั้นเดินไปได้ง่าย ๆ

มือหนากำหมัดกำพวงมาลัแน่นจนเส้นเลือดปูนขึ้อย่างเห็นได้ชัด ไอ้หมอนี่มันแย่งนีน่าไปจากเขาไม่พอ ยังกล้าคบซ้อนมีผู้หญิงคนอื่นอีกงั้นหรอ! เขาไม่อาจระงับโทสะตัวเองได้อีกต่อไป มันทำเขาเจ็บไม่พอยังมาหักหลังคนที่เขารักอีก รีไวน์รีบก้าวลงจากรถอย่างหัวเสียทันทีด้วยความเลือดร้อน เขาตรงปรี่เข้าไปหาชายคนนั้นก่อนที่จะกระชากชายคนนั้นจากด้านหลัง ปล่อยหมัดเข้าไปกระแทกหน้าของชายคนนั้นอย่างแรงจนเขาเซไปอีกทาง

“มึงกล้าทำแบบนี้กับนีน่าได้ยังไงวะ!” ใบหน้าของรีไวน์เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ ตวาดถามเสียงดังท่ามกลางเสียงกรีดร้องของผู้หญิงด้านหน้าของเขา

“มึงมาต่อยกูทำไมวะ! สวะเอ้ย!” ฟรานซิสไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว เมื่อตั้งหลักได้เขาจึงพุ่งตัวเข้าไปหารีไวน์และซัดหมัดเข้าไปที่หน้าของรีไวน์อย่างเต็มแรง

รีไวน์ตั้งรับกับหมัดเมื่อครู่ไม่ทันเขาจึงโดนหมัดเข้ามาอย่างจังแต่ตัวเขาเองก็ไม่ยอมแพ้ เขาเข้าไปประชิดกับตัวของฟรานซิสก่อนที่จะเกิดการตะลุมบอนขึ้นอย่างชุลมุน

จนในที่สุดหญิงสาวปริศนาไม่อาจมองดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อีกต่อไป ถึงจึงรวบรวมความกล้าเข้าไปขวางตรงกลางระหว่างรีไวน์และฟรานซิสจนทั้งสองแยกออกจากกัน

รีไวน์เองมีความเป็นลูกผู้ชายที่จะไม่ลงมือทำร้ายผู้หญิง เขาจึงปาดเลือดที่มุมปากทิ้งอย่างลวกๆ ซึ่งฟรานซิสก็ทำแบบนั้นเช่นกัน

“ช่วยบอกหน่อยได้ไหม ว่ามันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น!” เธอตะโกนถามทั้งสองคนอย่างเหลืออด เพราะเธอคงทนเฉยไม่ได้หากมีชายที่ไหนก็ไม่รู้มาทำร้ายคนที่เธอรัก

“ก็ผู้ชายของเธอมันคบอยู่กับนีน่าแท้ๆ แต่กลับมาเดินโอบกอดผู้หญิงอีกคนหน้าตาเฉย ไม่รู้สึกผิดบ้างเลยหรือไงวะ!”

“เดี๋ยวนะ? นีน่าไหน?” หญิงสาวหน้าสวยขมวดคิ้วและหันกลับไปถามแฟนหนุ่มของตัวเองในทันที

“นีน่า? น้องสาวข้างบ้านฉันนะเหรอ?” ฟรานซิสเองก็ขมวดคิ้วจนเป็นปมไม่ได้ต่างอะไรกัน นีน่าเดียวที่เขารู้จักในตอนนี้ก็มีแค่น้องข้างบ้านที่โตมาด้วยกันและเห็นกันมาตั้งแต่ยังเล็กเท่านั้น

“อ่ออน้องนีน่านะเหรอ? แสดงว่าคุณคงเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ ทั้งสองคนไม่เคยคบกัน ส่วนฉันเองก็เป็นแฟนกับฟรานซิสมาเข้าปีที่สี่แล้ว” เธออธิบายให้รีไวน์ได้เข้าใจอย่างใจเย็น และหากเป็นการเข้าใจผิดกันเธอเองก็จะไม่ถือโทษโกรธเคืองรีไวน์ ที่ทำอะไรไปด้วยความไม่รู้

“แต่วันนั้นฉันเห็นแกเดินซื้อของกับนีน่าอยู่ที่ห้างและดูมีความสุขกันมากซะด้วย” รีไวน์ยังไม่ปักใจเชื่อคำพูดของทั้งสองคน ถึงแม้ฝ่ายหญิงจะมาช่วยอธิบายแล้วก็ตาม แต่มันก็เป็นไปได้ว่าฟรานซิสจะโกหกเพื่อที่จะซ่อนเรื่องของนีน่าไว้

“วันนั้นฉันไปเดินซื้อของกับนีน่าก็จริง แต่ฉันซื้อของให้กับแฟนฉันต่างหาก! แกได้ลองถามนีน่าดูหรือเปล่าก่อนที่จะมาโวยวายใส่คนอื่นแบบนี้!” ฟรานซิสเองก็โกรธจัดเช่นกัน เพราะเขาเริ่มจะจำเรื่องราวของนีน่าที่ต้องเลิกกับแฟนได้ ตอนนั้นนีน่าเองก็เสียใจไปอยู่นานเหมือนกัน

“...” เขาเงียบและเถียงไม่ออก วันนั้นเขาเอาแต่โทษว่าเป็นความผิดของนีน่าจนพูดจารุนแรงใส่เธอแบบไม่ยั้งคิดโดยไม่ได้ให้โอกาสเธอได้อธิบยเลยด้วยซ้ำ แสดงว่าเรื่องทั้งหมดเขาคิดเองเออเองน่ะสิ

ในตอนนี้รีไวน์รู้สึกเหมือนคนโง่จริง ๆ โลกทั้งใบตอนนี้มีเพียงแค่ตัวเองเท่านั้น เขาไม่ได้ยินเสียงรอบข้างหรือว่ามองหน้าของใครอีก ภายในหัวกำลังเรียบเรียงและใช้ความคิดอยู่กับตัวเองให้ได้มากที่สุด

ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดตัวเอง ที่ทำไมชอบทำอะไรไปโดยที่ใช้อารมณ์ตัดสินแม้กระทั่งกับคนที่เขารักมากที่สุด เขาก็ไม่เว้น

“ถ้าวันนั้นฉันฟังเธอบ้างเรื่องของเรามันคงไม่ต้องจบลงสินะ” รีไวน์บ่นพึพำกับตัวเองแล้วเดินกลับมาที่รถ เปิดประตูออกและขึ้นไปนั่งตรงตำแหน่งคนขับ

แต่เขาไม่ออกรถภายในทันที ชายหนุ่มฟุบหน้าของตัวเองลงไปกับพวงมาลัยของรถอย่างรู้สึกผิดและสมเพชในความโง่ของตัวเอง ก่อนที่จะคิดย้อนไปถึงเรื่องราวในวันที่ต้องเลิกกัน

เมื่อได้รับรู้ความจริงความรู้สึกผิดความรู้สึกเจ็บปวดก็แล่นเข้ามาถาโถมในอกของเขาจนเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ รีไวน์จึงรีบกดโทรศัพท์ไลน์หาเรนกับมั้นท์ทันที

รีไวน์ : คืนนี้สองทุ่มที่ผับ Y

เขาพิมพ์เพียงเท่านั้นก่อนที่จะโยนโทรศัพท์ไปยังเบาะด้านข้าง อย่างไม่กลัวว่ามันจะกระเด้งลงไปบนพื้น ตอนนี้เขาไม่นึกเสียดายอะไรอีกแล้ว

สิ่งเดียวที่เขาเสียดายคือช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา เขาปล่อยคนดี ๆ ให้ออกไปจากชีวิตอย่างไม่คิดที่จะยื้อหรือปรับความเข้าใจเลย เขามันช่างโง่เขลา

รีไวน์สตาร์ทรถก่อนที่จะขับมันออกมาจากลานจอดรถของร้านพิซซ่าทันที ความอยากอาหารของเขาถูกแทนที่ด้วยความกระหายแอลกอฮอล์แทน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel