บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 การปรากฎตัวของชายหนุ่ม

เหยาเซิงหันไปมองเขา

แสงแดดสีทองของหน้าร้อน ท้องฟ้ามีประกายของแสงสีทองวาบไหวไปมา

ช่างเป็นชายหนุ่มที่สง่างามและสูงส่ง

แสงสีทองของกิ่งไม้พาดผ่านร่างหยกของเขา ร่างของเขานั้นสูงราวกับต้นสนที่อยู่ในป่า เสื้อคลุมสีม่วงอ่อนตัวยาวห่อหุ้มร่างสง่างามของเขาไว้จนเห็นรูปร่างที่เลิศเลอได้อย่างชัดเจน

เพียงแค่มองก็รู้ได้ว่าล้ำค่าและหาได้ยาก ขนาดไหน

แสงแดดอ่อนๆที่ทาบทับกายของเขา ราวกับผ้าคลุมสีทอง ราวกับมีแสงเปล่งออกมาจากร่างกาย

ร่างภายใต้อาภรณ์ว่าดูสูงส่งแล้ว คิ้วคู่นั้นก็เป็นที่น่าตื่นตะลึง คิ้วที่เฉียงขึ้นช่างงดงามนัก ราวกับภาพวาดของคนแปลกหน้าที่งดงาม เหมือนหยก เมื่อได้เห็นคิ้ว ก็อดไม่ได้ที่จะลอบมองดวงตา ปาก ทุกอย่างบนร่างของเขาทำให้ยากที่จะละ สายตาไปได้

ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าราวกับหิมะแกะสลัก ผิวขาวเปล่งประกาย ราวกับกำลังได้เห็นสิ่งดีที่สุดบนโลกใบนี้ ภาพวาดสมัยเก่าที่งดงาม และยากจะที่จะวาดออกมาให้คล้ายเหมือน

เหยาเซิงกะพริบตา มองชายหนุ่มที่กำลังเดินมาจากด้านหลังก้อนหินใหญ่ตรงนั้นอย่างช้าๆ ผ้าคลุมสีม่วงพลิ้วไหวราวกับผีเสื้อยามเดินช่างอ่อนช้อย

บนเสื้อบรรจงปักดอกโบตั๋นทุกกลีบใบ ความสูงส่งของชายหนุ่มช่างดูงดงามและดูเป็นธรรมชาติสูงส่งราวก้อนเมฆบนนภา งดงามราวกับดอกโบตั๋นไม่เคยมีผู้ใดละสายตาไปจากเขาได้

แต่เมื่อเหยาเชิงสังเกตใบหน้าที่งดงาม ราวกับรูปวาดของเขาอย่างเต็มตา ดวงตาสีนิลราวกับหลุมดำ ที่มืดมิดและไม่อาจมองเห็นจุดสิ้นสุดได้

มุมปากที่โค้งขึ้นจนดูงดงาม ราวกับเกล็ดน้ำแข็งที่ตกกระทบกับผิวน้ำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นอกจากงดงามแล้ว มันก็อันตรายเช่นเดียวกัน

ย่อมไม่ใช่ชายหนุ่มที่ดีเป็นแน่

“เจ้าเป็นใคร” ค่อยๆดึงสายตากลับมา หลบจากสายตาแพรวพราวคู่นั้น เหยาเซิงโน้มตัวลง ล้างคราบเลือดที่มืออย่างช้าๆจนสะอาดดีเธอไม่ชอบฆ่าใคร เกลียดการที่ต้องเปรอะเปื้อนด้วยของเหลวเหนียวกลิ่นสนิมนี่

ชายหนุ่มอยู่ห่างออกไปสิบก้าว หยุดเท้าลง

และมองเหยาเซิงที่คุกเข่าอยู่ข้างๆทะเลสาบ ผมยาวราวกับผ้าไหมไหล่ราดไปตามแผ่น หลัง พลิ้วไหวราวกับสายน้ำ ใบหน้าหยกที่ครบไปด้วยเครื่องทั้งห้าดูพร่ามัว

นัยน์ตาคู่สวยดูลึกลับและเปล่งประกาย ราวกับดวงดาว ทั้งบริสุทธิ์และไร้เดียงสา

แต่สิ่งที่นางกระทำเมื่อสักครู่ ช่างขัดแย้งกับใบหน้าที่ไร้เดียงสานี้นัก

เมื่อเห็นเขาที่ยืนอยู่ข้างๆหินก้อนนี้ แต่เพียงชั่วพริบตาก็หันกลับไปล้างมือ แม้จะดูตื่นตระหนก ราวกับว่าที่ตรงนี้ไม่มีใคร

ท่าทางเช่นนั้น ไม่รู้เช่นกันว่าแข็งกร้าวเพื่อกลบความกลัว หรือเพราะเพิกเฉยจริงๆ

ชายหนุ่มจดจ้องแผ่นหลังของเธอ ระบายรอยยิ้มไปทั่วหน้า ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ข้าเป็นใครไม่ใช่เรื่องสำคัญ สำคัญที่ ข้า เห็นเจ้าฆ่าคน”

เสียงบริสุทธิ์และสง่างามราวกับเชลโล่ที่ กำลังบรรเลง ณ ทะเลสาบ แต่ใจความกลับไม่น่าฟังเลยแม้แต่นิด เหตุใดต้องมาดูฉากการฆ่าคนกัน ดูทิวทัศน์ที่สวยงามไปดีดีสิ

ในบทที่เหยาเซิงล้างมือ และรอให้เขาพูด เมื่อได้ยินเสียงของเขา มุมปากยกโค้ง กระซิบอยู่ในใจ รูปโฉมงดงาม น้ำเสียงงดงาม ตัวละครก็ดีเยี่ยม สองสิ่งแรกหมายถึงในแง่ดี แต่สิ่งหลังไม่ได้หมายความถึงตามนั้นเท่า ไหร่นัก

เธอค่อยๆลุกขึ้นยืน เพื่อไม่ให้เกิดอาการเวียนหัวเพราะเสีย เลือด ออกแรงวักน้ำล้างตรงดวงตา

ก่อนจะหันไปกล่าวกับชายคนนั้น “เจ้ามั่นใจแล้วหรือ ว่าเห็นเป็นข้าที่ฆ่าคน ไม่ใช่ผู้อื่น”

ชายหนุ่มราวกับฟังความหมายที่เธอต้องการจะสื่อออก ดวงตาของเขาหลุบมองไปที่สี่เอ๋อร์ พาดผ่านปรายตาดูถูกก่อนจะเอ่ยเสียงผะแผ่ว “หากข้าต้องการฆ่าคน ย่อมต้องไม่ใช่วิธีนี้ เจ้าก็รู้ ว่าข้าอ่อนแอเพียงใด” จากนั้นเขาก็หันไปมองสำรวจหัวจรดเท้า แต่ก็ดูรู้ว่าร่างกายที่อ่อนแอของเหยาเซิงนั้นก็ย่อมมีกำลังกายที่ไม่เพียงพอเช่นเดียวกัน

ดวงตาสีนิลของเหยาเซิงที่จ้องมองไปที่ ชายหนุ่มมีประกายของความขบขัน ราวกับแก้วใสธรรมดาๆ แต่หากได้สบตา ก็รู้สึกว่าถูกมองออกจนหมด

ชายผู้นี้ ย่อมไม่ใช่คนธรรมดาดวงตาสีนิลคู่นั้น เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่ผู้มีจิตใจโอบอ้อม

เบื้องหน้าเขา ต่อให้ปกปิด อ้อนวอน หรือโกหกต่อไป เธอก็ไม่อาจได้รับความเห็นใจจากเขาอีกแล้ว

เธอยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นมาทัดผมไว้หลังใบหู สายตามองไปที่ไกลแสนไกล และถอนหายใจออกมาด้วยความสงสาร “นั่นย่อมไม่แน่นอน จำต้องใช้ใครสักคนเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ นั่นก็คือเจ้า"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel