พลิกชะตาจอมนางข้ามภพ

381.0K · ยังไม่จบ
weiwei
206
บท
217.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ข้ามภพมาปุ๊บก็มีเหตุจำเป็นต้องให้ฆ่าคนตาย พบเจอกับแม่เลี้ยงใส่ร้าย บิดาลำเอียงกล่าวหาว่านางเป็นฆาตกรฆ่าคนตาย "หากนางไม่ตายศพตรงนั้นก็คือศพของคุณหนูใหญ่" น้ำเสียงทุ้มดังขึ้นมา เขาบุรุษผู้หล่อร้าย

นางเอกเก่งโรแมนติกกำลังภายในนิยายจีนโบราณองค์หญิงจีนโบราณท่านอ๋องข้ามมิติเกิดใหม่พระชายา

ตอนที่ 1 เหตุใดถึงมาอยู่ที่นี่

แผ่นดินหนานหยวนปี 599 ประเทศฉีเทียน เทียนเซิ่งปี 32 ฤดูร้อน

สวนข้างหลังของตำหนักอ๋องคัง เขียวขจีไปทุกหย่อมหญ้า ศาลา ลำแสงสาดส่อง ดอกไม้ใบหญ้ากระจายอยู่ทุกหย่อม และทะเลสาบสีเขียวที่ใจกลาง

น้ำใสกระเพื่อมเป็นระลอกคลื่น สะท้อนนภาสีฟ้าและต้นไม้ ราวกับภาพที่ถูกวาดขึ้น ทันใดนั้นก็มีเสียงที่ขัดแย้งแทรกขึ้นมา

“ทุบด้วยหินก้อนนี้... หากยังไม่ตายจะทำเช่นไรดี... ต้องซ้ำอีกครั้ง..."

"เสียงดังน่ารำคาญ"

เหยาเซิงคิ้วขมวด อยากไล่เสียงนี้ให้ไปไกลๆ ความเจ็บที่หน้าผากแล่นขึ้นมา

หนังตาหนักอึ้งราวกับมีหินถ่วงเอาไว้ จนลืมตาไม่ขึ้น ในน้ำเสียงนั้น เต็มไปด้วยความอันตราย จนทำให้เธอระแวง

ปฏิกิริยาอัตโนมัติทำให้เธอลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เบื้องหน้าของสายตาที่พร่ามัวคือใบหน้าน่า เกลียดที่เบิกตาโต เด็กสาวหน้ากลมอายุประมาณสิบห้าสิบหก ปี ยืนอยู่เบื้องหน้าของเธอ สองมือกอบกุมหินก้อนใหญ่ไว้หนึ่งก้อน....

“เจ้าจะทำอะไร”

คำพูดของเหยาเซิง ทำให้มือของเด็กสาวสั่นจนปาหินก้อนนั้น ไปไว้ข้างหลังอย่างรวดเร็ว

และหันกลับมาด้วยรอยยิ้มแปลกประหลาด “คุณ... คุณหนูใหญ่ ท่านฟื้นขึ้นมา...

เหยาเชิงลืมตามองเด็กสาวที่อยู่เบื้องหน้า

นางสวมชุดกระโปรงสีเทาอ่อน และใช้ผ้าสีชมพูมวยผมไว้สองปม

การแต่งกายเยี่ยงนี้ ราวกับสาวใช้ของตระกูลใหญ่ในภาพวาด ยุคโบราณไม่มีผิดเพี้ยน

เธออยู่ที่ไหนกัน เหตุใดคนสวมชุดโบราณผู้นี้ถึงได้มาอยู่ ข้างกายเธอ เสียงที่ได้ยินตอนสะลึมสะลือ คือเสียงของเด็กสาวผู้นี้หรือ นี่เธอโดนลักพาตัว

"ซี้ด..."

ปวดตุบที่หน้าผาก เหยาเซิงยกมือขึ้นลูบ ของเหลวเหนียวเหนอะหนะเปื้อนที่ใจกลาง ฝ่ามือของเธอ

นี่มัน เลือดนี่ เธอได้รับบาดเจ็บอย่างนั้น ได้อย่างไรกัน ความทรงจำในหัวก็พร่ามัวนัก เหยาเชิงตวัดสายตามองเด็กสาวที่อยู่เบื้อง หน้า

ดวงตามีประกายพาดผ่านเพียงชั่วพริบตา ก่อนจะซ่อนมันเอาไว้จากนั้นเธอก็เอ่ยถาม

“เหตุใดข้าถึงมาอยู่ที่นี่”

เด็กสาวจ้องเหยาเซิงอยู่ชั่วครู่ ครุ่นคิดถึงสายตาของคุณหนูใหญ่เพียงชั่ว พริบตานั้น ราวกับแก้วที่ใสและคมชัด แตกต่างจากแววตาโง่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในใจอดที่จะรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้

แต่ราวกับนางมองผิดไป เมื่อเดินเข้าไปใกล้ ก็ไม่ได้เห็นเป็นเช่นนั้น จนทำให้เด็กสาวผู้นี้คิดว่าตัวเองนั้นมองผิด ไป นางก้าวไปข้างหน้า พร้อมเอ่ยเสียงผะแผ่ว “คุณหนูใหญ่เจ้าคะ ข้าคือสี่เอ๋อร์อย่างไรเจ้าคะ ท่านบอกให้ข้าพามาที่นี่ ลืมแล้วรึเจ้าคะ

เหยาเซิงคิ้วขมวด “ข้าจำไม่ได้... ข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร โอ๊ย ปวดหัว รีบมาช่วยข้าที"

ได้ยินเช่นนั้น แววตาของเด็กสาวที่เรียกตัวเองว่าสี่เอ๋อร์ก็

มีประกายพาดผ่าน ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดคุณหนูใหญ่ที่ ไม่เคยพูดถึงได้เปิดปากขึ้นมาได้ แต่สุดท้ายนางก็ยังมีชีวิตอยู่

คําสั่งที่คุณหนูสามมอบให้ยังไม่สําเร็จ หากเห็นว่าคุณหนูใหญ่กลับไปยังเรือน นางจะต้องโดนลงโทษเป็นแน่

มองร่างที่นอนอยู่บนพื้นอีกครา เหยาเซิงที่อ่อนแอและกำลังรอการช่วยเหลือ หากแต่ทะเลสาบข้างๆ กันนี้นั้นตื้นเกินไป หากความลึกสูงถึงเอว คงจะจับคุณหนูใหญ่โยนลงน้ำเสีย จะได้จมน้ำตายอย่างหมดจด

แต่เมื่อได้ลงมือไปแล้วก็ต้องทำให้สำเร็จ และในตอนนี้ต้องลงมือกับคุณหนูใหญ่อีกครา และต้องทำให้ถึงฆาต

นางรีบพยักหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความเคารพนอบน้อม ความเกลียดชังในดวงตาถูกซ่อนอีกครั้ง

กล่าวด้วยรอยยิ้มคล้ายยิ้มไม่คล้ายยิ้ม “คุณหนูใหญ่ปวดหัว

ประเดี๋ยวข้าจะพาไปพักผ่อนนะเจ้าคะ”

“อือ” เหยาเซิงกอบกุมหน้าผากไว้ เลือดจากบนหัวไหลมาตามกรอบหน้า หยดลงบนไหล่ ใบหน้าซีดขาว ดวงตาใต้ขนตาแพนั้นดูสะลึมสะลือ อาการราวกับกับคนจะหมดลม เพียงแค่ยังใช้ลมหายใจสุดท้ายมายืนหยัด ไว้อยู่

ท่าทางเช่นนี้ไม่ต่างจากคนตาย หากลงแรงอีกเพียงครั้งย่อมตาย แน่นอน