พลาดครั้งที่ 2
คนตัวเล็กกลับเข้ามาในบ้านในเวลาที่ท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้ว รถหรูจอดต่อจากรถที่จอดนิ่งอยู่ก่อนคนตัวเล็กจะเดินออกมาดู
"พี่ซัน..." เชียร์ขมวดคิ้วแน่นมองรถของพี่ชายที่จอดอยู่แต่เขามองไม่เห็นข้างในเพราะมันมืดสนิทเชียร์จึงเดินออกมาแต่ว่า
ตึกๆ
เสียงรถที่โยกไปมาทำให้เชียร์ชะงักเท้า คนตัวเล็กเดินกลับมาที่รถของซันแล้วเคาะกระจกเบาๆ แต่ไม่มีการตอบรับใดๆ เชียร์กรอกตาไปมาก่อนจะเตะที่ล้ออย่างหงุดหงิด
"แบบนี้ผมก็เอารถเก็บไม่ได้ซิ...เฮ็งซวย ไปเอากันในห้องดีๆ ไม่เป็นไรไง" เชียร์พูดอย่างขัดใจก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วทิ้งรถหรูของตัวเองไว้ตรงนั้น คล้อยหลังน้องชายออกไป ร่างสูงของคนเป็นพี่ก็หันมามองคนตัวเล็กที่กัดปากกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้
"ร้องไห้ทำไมคะ?"
"ฮึก..."
"น้องชายพี่เอง...เดี๋ยวจินก็จะได้รู้จักนะ" ซันกระซิบเบาๆ ก่อนจะกระแทกเอวสวนใส่ช่องทางเล็กจนคนตัวเล็กที่อยู่ข้างบนสะดุ้งโหยงเพราะความจุกและเจ็บไปหมด....
.
.
.
ตุบ
กระเป๋าเงินถูกโยนลงเตียงทันทีที่เชียร์เข้ามาถึงห้อง คนตัวเล็กเดินเข้าไปอาบน้ำอีกรอบก่อนจะกลับมาล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วหลับไปด้วยความเหนื่อย
เสียงเคาะประตูปลุกให้เชียร์ตื่นขึ้นมา คนตัวเล็กถอนหายใจแล้วเดินออกมาเปิดอย่างหงุดหงิดเพราะความง่วงและยิ่งหงุดหงิดมากกว่าเดิมเมื่อเห็นพี่ชายแสนดีของตัวเอง
"มีอะไร"
"พูดจาให้มันดีๆ หน่อยเชียร์ อย่ามาพูดไร้หางเสียงไม่มีมารยาทกับพี่" เชียร์กำหมัดแน่นก่อนจะถอนหายใจ
"มีอะไรครับ"
"ลงไปทานข้าว" เชียร์เหลือบมองนาฬิกาที่บอกเวลาเจ็ดโมงเช้า
"เชียร์ง่วง ขอนอนต่อได้มั้ย ไว้เชียร์จะไปขอโทษแม่ทีหลัง"
"แม่ รอ ทานข้าว" ซันเน้นย้ำคำเดิม คนตัวเล็กตวัดสายตามองพี่ชายก่อนจะปิดประตูใส่หน้าอย่างท้าทาย
"บ้าอำนาจ..." ถึงจะไม่ชอบใจแต่เชียร์ไม่อยากมีปัญหา เงินทุกบาทของเขาได้มาจากพี่ชาย เชียร์รู้ดีว่าถ้ามีปัญหากับซันเชียร์ต้องเจออะไรบ้างทั้งที่เป็นพี่น้องแท้ๆ แต่เพราะจับได้ว่าเชียร์สูบบุหรี่ซันก็หักเงินทั้งหมดของเชียร์ไปเป็นเดือนทำให้เชียร์ในตอนนั้นไม่ต่างจากขอทานข้างถนนที่ต้องยืมเงินเพื่อนทานข้าว ดีแค่ไหนแล้วที่ซันยังให้อิสระกับเขาในการใช้ชีวิตได้เที่ยวตอนกลางคืนขอแค่เขาไม่ทำเกินเหตุ...การมีปัญหากับซันเป็นอย่างเดียวที่เชียร์พยายามหลีกเลี่ยง
ในเวลาต่อมาคนตัวเล็กก็ลงมาทานอาหารหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว เชียร์มองโต๊ะอาหารที่ครั้งนี้มีคนแปลกหน้านั่งอยู่ก่อนแล้ว
"สวัสดีครับ" เชียร์ยกมือไหว้ผู้ชายตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างพี่ชายโดยไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร อีกฝ่ายสะดุ้งก่อนจะยกมือไหว้กลับ
"สะ...สวัสดีครับ"
"มาแล้วหรอลูก วันนี้แม่ให้เขมทำแซนวิชอย่างที่ลูกบอกเลยนะ" ตากลมโตเหลือบมองแซนวิชหลายไส้ที่วางอยู่ตรงหน้าแถมยังมีน้ำส้มที่เขาขอไปด้วย
"ทำไมไม่กินข้าว"
"ผมยังไม่ชินกับการกินข้าว"
"ก็ทำให้มันชินซะ...อยู่ที่นี่ต้องกินข้าวเช้า เน้นว่าข้าว" เชียร์เม้มปากแน่นก่อนจะผลักจานแซนวิชออก
"มน ตักข้าวให้ผมหน่อย"
"ค่ะ" หญิงสาวตักข้าวให้น้อยกว่าปกติเพราะเธอรู้ว่าเชียร์ไม่ทานซึ่งก็ทำให้เชียร์พึงพอใจ แต่ไม่ใช่สำหรับซัน
"ทำไมตักให้แค่นั้น มน ตักให้เชียร์อีก ตัวเล็กแบบนี้ยังจะกินข้าวนิดเดียว" เชียร์ถอนหายใจ มองข้าวที่ถูกเติม คุณผู้หญิงของบ้านมองลูกชายทั้งสองไปมาอย่างเป็นห่วง เธอจึงทำลายบรรยากาศอึมครึมด้วยการตักอาหารให้ลูกชายทั้งสองคนรวมถึงให้คนตัวเล็กอีกคนที่นั่งข้างกายซัน
"ทานเยอะๆ นะจ้ะ" เชียร์ถอนหายใจแล้วก้มหน้าทานอาหารไม่พูดไม่จา ร่างสูงทานข้าวเงียบๆ แล้วสังเกตุเห็นน้องชายที่ไม่พูดไม่ถามอะไร
"เชียร์"
"ครับ" คนตัวเล็กเงยหน้ามามองพี่ชายแล้วขานรับ
"นี่จูน เลขาส่วนตัวของพี่"
"......"
"รู้จักกันไว้เพราะเชียร์ต้องเรียนรู้งานจากจูน" เชียร์ถอนหายใจ
"เข้าใจแล้วครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ" เชียร์ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะพูดกับจูนซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มเล็กน้อยมาให้เขาเท่านั้น ซันยกยิ้มก่อนจะยกลูบศีรษะคนตัวเล็กโดยไม่ได้สนใจสายตาของคุณแม่เพราะรู้ว่าแม่ของเขารู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาอยู่แล้ว แต่เป็นเชียร์เองที่ค่อนข้างแปลกใจที่เห็นท่าทีอ่อนโยนของพี่ชายที่มีต่อคนชื่อจูน แต่เชียร์ก็ไม่สนใจมากนัก เชียร์พยายามแล้วที่จะทานอาหารตรงหน้าแต่มันกลับกลืนลำบากเหลือเกิน คนตัวเล็กรอให้ทุกคนอิ่มและรอพี่ชายออกไปทำงานพร้อมกับคนตัวเล็กแล้วหันมาหามน
"มน ผมขอแซนวิชนั่นหน่อย"
"ค่ะ" มนเตรียมไว้ก่อนแล้ว คนตัวเล็กกัดแซนวิชคำเล็กน้อยก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา...อร่อย....
"เชียร์เห็นพี่จูนมั้ย เลขาของซันน่ะ" หญิงวัยกลางคนพูดขึ้นมา เชียร์พยักหน้า
"ทำไมหรอครับ"
"เชียร์ว่ายังไงบ้าง....โอเคมั้ย"
"โอเคมั้ย หมายถึงอะไรครับ"
"ก็ดีพอจะมาเป็นพี่สะใภ้เรารึเปล่า" คนตัวเล็กสำลักทันที เชียร์มองคุณแม่ที่ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
"สองคนนั้นเป็นแฟนกันหรอครับ"
"อืม...เขาก็ไม่ได้บอกแม่นะแต่ว่า ซันพาหนูจูนมานอนทุกคืนที่กลับบ้านเลย บางวันไม่กลับบ้านแม่ก็รู้นะว่าไปนอนที่คอนโดของหนูจูนน่ะ" เชียร์พยักหน้า
"แม่ไม่ติดนะที่ซันจะมีแฟนเป็นผู้ชาย"
"ครับ"
"แม่ก็ไม่ติดถ้าเชียร์จะมีแฟนเป็นผู้ชาย" แฟน..? เชียร์หัวเราะออกมาในลำคอเบาๆ
"ของแบบนั้นมีไปก็ปวดหัวครับ เชียร์ไปข้างนอกดีกว่า"
"อะ...อ้าวลูก....จะไปไหนล่ะ"
"เชียร์จะไปเดินรอบๆ บ้านสักหน่อยครับ เชียร์จำได้ว่าหลังบ้านมีสวนดอกไม้อยู่"
"จ้ะ....ให้มนนำทางมั้ย?"
"ไม่ต้องครับผมอยากอยู่คนเดียว" คนตัวเล็กว่าแล้วเดินออกไปจากบ้าน อ้อมไปด้านหลังที่จำได้ว่าเป็นสวนดอกไม้และจะมีเรือนกระจกสำหรับปลูกต้นไม้พันธุ์เฉพาะที่พ่อของเขาเคยดูแลไว้ตอนยังมีชีวิต
ดอกมะลิที่อยู่ตามรั้วส่งกลิ่นหอมให้คนตัวเล็กรู้สึกผ่อนคลาย เชียร์เดินไปด้วยทานแซนวิชไปด้วยจนกระทั่งมาถึงเรือนหลังเล็กๆ หลังหนึ่งที่เขาจำไม่ได้ว่าเคยมีอยู่
"บ้านหรอ...ทำไมมีบ้านอยู่ตรงนี้?" เชียร์ขมวดคิ้วแน่นก่อนจะเดินวนรอบบ้านชั้นเดียวขนาดพอๆ กับห้องนอนของเขา มันเล็กเกินกว่าจะเป็นห้องสำหรับคนรับใช้ แต่เรือนของคนรับใช้ก็มีอยู่อีกฝั่งนี่หน่า..
แกร๊ก
คนตัวเล็กชะงักกึกเมื่อประตูบ้านหลังนั้นเปิดออกแล้วเผยให้เห็นชายร่างสูงคนเมื่อวานที่เดินออกม่พร้อมกระถางต้นไม้
"นาย..." ร่างสูงหันมาตามเสียงก่อนจะเบิกตากว้างแล้วเดินถอยหลังอย่างกล้าๆ กลัวๆ
"นี่ ฉันไม่ได้เป็นผีนะทำไมต้องเหมือนกลัวขนาดนั้น" ร่างสูงส่ายหน้าไปมา
"ขะ...ขอโทษครับ" เชียร์มองคนตรงหน้าแล้วมองบ้านหลังนี้
"นายอยู่ที่นี่หรอ"
"คะ...ครับ"
"นายเป็นคนรับใช้ไม่ใช่หรอ ทำไมไม่อยู่เรือนคนรับใช้"
"....คุณ คุณผู้หญิงให้ผมอยู่ที่นี่ครับ"
"ทำไม"
"เพราะว่า...อากาศมันปลอดโปล่งกว่า"
"นายไม่สบายหรอ" ร่างสูงพยักหน้า เชียร์มองร่างสูงที่ไม่ค่อยมีกล้ามเนื้อมากเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้ผอมแห้งน่าเกลียด เป็นหุ่นที่เชียร์ยอมรับว่าดูดีในแบบที่คนนิยม
"จะเอาไปไหนล่ะ"
"...?"
"ต้นไม้นั่นไง นายจะเอาไปที่ไหน"
"นะ นี่..ผมจะเอาไปปลูกในเรือนกระจกครับ"
"ฉันไปด้วยซิ" อีกฝ่ายนิ่งไปทันที เชียร์ขมวดคิ้วแน่น
"ทำไม ฉันเข้าไปด้วยไม่ได้รึไง"
"ปะ เปล่าครับ..." ร่างสูงกลับหลังหันแล้วเดินนำมาที่สวนดอกไม้ที่มีเรือนกระจกตั้งอยู่ตรงกลาง คนตัวเล็กมองต้นไม้มากมายที่อยู่ในนี้แล้วค่อยๆ เผยยิ้มออกมาเพราะบรรยากาศที่อบอุ่น สบายตา
"นายดูแลต้นไม้ที่นี่ทั้งหมดหรอ"
"เปล่า เปล่าครับ...มีคุณลุงคอยดูแล...ผมแค่มาช่วย"
"อ๋อ....แล้วหน้าที่นายทำอะไรล่ะ"
"....."
"ก็ปกติแต่ละคนก็จะมีหน้าที่ประจำ อย่างป้ามะลิเป็นหัวหน้าแม่บ้านป้าก็จะดูแลทุกอย่าง มนก็ทำงานในครัวเป็นหลัก แล้วนายล่ะ"
"ผม...ผมไม่ได้มีหน้าที่อะไรครับ ผมทำทุกอย่าง"
"แม่ไม่มีทางให้นายทำงานหนักขนาดนั้นหรอก บ้านฉันไม่ได้ใช้เงินฝาดหัวคนขนาดนั้น" เชียร์ว่าก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ มองร่างสูงที่สลับเปลี่ยนกระถางไปมาอย่างเพลินตา
"งั้นวันๆ หนึ่งนายทำอะไรบ้างล่ะ"
"ผมหรอ"
"ฉันคุยกับนายอยู่"
"ผม...ไปเรียนครับ"
"เรียน? นายยังเรียนอยู่หรอ ระดับไหนล่ะ"
"กำลังจะขึ้นปีสี่ครับ...อะ อีกไม่กี่วันก็เปิดเรียนแล้ว"
"คณะไหนล่ะ"
"บริหาร ครับ"
"แล้วจะฝึกงานที่ไหน ฝึกงานกับพี่ซันรึเปล่า" ร่างสูงพยักหน้า
"ครับ"
"พี่ซันโหดและเจ้าระเบียบนะ ระวังตัวด้วย"
"ครับ"
"ฉันก็เพิ่งเรียนจบบริหาร อีกไม่นานก็ต้องไปทำงานกับพี่ซัน"
"ครับ"
"คงจะได้เจอกันบ้างที่บริษัท"
"ครับ" เชียร์คลี่ยิ้มออกมาก่อนจะชะงักเมื่อมีสติ...
นี่เรา...กำลังชวนคนรับใช้คุยหรอเนี่ย!!
"นะ....นี่!! ฉันคุยด้วยทำไมเอาแต่หันหลังให้ฉันห้ะ" ร่างสูงชะงักแล้วหันมาหาเชียร์แต่ยังก้มหน้าก้มตาอยู่
"ขะ ขอโทษครับผมไม่ได้ฟัง"
"ไม่ได้ฟัง? ทั้งหมดที่ฉันพูดงั้นหรอ"
"คะ ครับ...ทั้งหมด ผมไม่ได้ยิน" เชียร์กรอกตามองบนอย่างพยายามข่มจิตใจไม่ให้โมโหออกไป แต่พอเห็นต้นไม้ในกระถางใหญ่ที่ถูกจัดแต่งให้สวยงามเชียร์ก็ลืมอารมณ์โกรธ
"สวยดีนี่ นายทำออกมาดีนะ" คนตัวเล็กเดินมามองใกล้ๆ ก่อนจะหยิบหินหลากสีมาเล่น
"นายนี่แปลกคนนะ พูดติดๆ ขัดๆ ไม่ยอมมองหน้าฉัน แถมยังไม่สนใจคำพูดของฉันที่เป็นเจ้านายอีก"
"ขอโทษครับ"
"ช่างเถอะ ฉันชินกับนิสัยแปลกๆ ของนายแล้ว"
"......"
"ว่าแต่ อะไรทำให้นายเป็นแบบนี้"
"ครับ?" ร่างสูงเผลอขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจคำถาม
"ก็นี่มันไม่ปกติ ฉันเลยอยากรู้ว่าอะไรทำให้นายไม่ปกติ...โรคสมาธิสั่นหรอ"
"ผมเปล่านะครับ"
"แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ"
"ผมไม่ได้เป็นโรคอะไร"
"แล้วทำไมไม่มองหน้าฉัน"
"....."
"ช่างเถอะถ้านายยืนยันจะบอกว่าตัวเองปกติก็ตามใจนาย นี่ทำอะไรต่อล่ะ" เชียร์หยักไหล่ไม่สนใจแล้วหันมามองต้นไม้ต่อ
"ผมจะเอาน้องไปเก็บครับ"
"น้อง?...เหอะ" คนตัวเล็กมองร่างสูงที่ยกกระถางมาวางรวมกับต้นอื่นๆ
"แล้วไงต่อ"
"คือ...ผมต้องไปช่วยคุณลุงล้างรถ"
"อ๋อ ฉันกวนนายใช่มั้ย"
"เปล่าครับ เปล่า ผมไม่ได้บอกแบบนั้น ผม ผมแค่...ต้องไป" ร่างสูงพูดติดๆ ขัดๆ เชียร์ถอนหายใจแล้วหันไปมองโต๊ะไม้
"ฉันจะนั่งผักอยู่ที่นี่ นายจะไปไหนก็ไปเถอะ"
"แต่ว่า..."
"ฉันจะอยู่ที่นี่" เชียร์เน้นคำ ร่างสูงนิ่งไปก่อนจะพยักหน้า คนตัวเล็กมองร่างสูงที่เดินออกไปจากเรือนกระจกอย่างช้าๆ
"แปลกคน" เชียร์พึมพำก่อนจะเดินมานั่งที่เดิมแล้วเอนตัวล้มลงนอน บรรยสกาศที่สงบและอากาศที่เย็นสบายพอดีทำให้เชียร์ผ่อนคลายแล้วค่อยๆ หลับผล็อยลงไป....
.
.
.
"มนไปเถอะ เดี๋ยวผมอยู่เอง"
"จะดีหรอ เขมต้องไปซื้อของนะ"
"ไม่เป็นไรครับ...ผะ...ผมไม่อยากซื้อ"
"เขม ยังไงก็ต้องพกมือถือ คุณผู้หญิงบอกแล้วไง"
"พกไว้...ก็ถูกยึด...ผมไม่อยากรบกวนคุณผู้หญิง"
"ยังไงก็เถอะ ท่านให้เงินมาเพราะความเมตตาและอยากให้เขมมีมือถือจริงๆ.....คิดดีๆ แล้วกัน มนไปทำอาหารกลางวันให้คุณผู้หญิงก่อน"
เชียร์ได้ยินบทสนทนาทุกอย่างระหว่างมนและผู้ชายอีกคนที่ชื่อเขม ซึ่งก็คือ...
"นายชื่อเขมหรอ" เชียร์เอ่ยถามทั้งที่ยังไม่ลืมตา เขมชะงัก มองเชียร์ด้วยความตกใจ
"คะ..คุณหนูตื่นแล้วหรอครับ"
"นายทำฉันตื่น" คนตัวเล็กค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งแล้วบิดตัวไปมา ก่อนจะเงยหน้ามองร่างสูงที่ยืนอยู่ ในมือก็มีขนมเค้กและน้ำหวาน
"นั่นของฉันหรอ" เขมชะงักแล้วพยักหน้า
"คะ ครับ คุณผู้หญิงบอกให้ทำของหวานให้...ผมเลยทำเค้ก"
"นายคือเขม คนที่ทำสลัดกับแซนวิชให้ฉันกินใช่มั้ย?" เขมพยักหน้า
"ทำขนมเค้กเป็นด้วยหรอ"
"พอ พอได้ครับ" เชียร์แบมือตรงไหน เขมทำหน้างง
"เค้ก เอามาซิ" ร่างสูงตะกุกตะกักแล้วส่งขนมให้ เชียร์รับจานขนมเค้กมาไว้ในมือแล้วตักกินคำเล็กๆ
"อร่อยดี ฉันชอบ"
"......"
"นายเรียนรู้มาจากไหน"
"ครับ?"
"เรื่องทำอาหารไง มนหรือป้ามะลิสอนมา"
"ผม ผมเรียนมาจากบ้านเด็กกำพร้าครับ" เชียร์ชะงัก คนตัวเล็กมองร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าตน
"เคยอยู่ที่นั่นหรอ" เขมพยักหน้า
"ถึงอายุเท่าไหร่"
"สะ สิบแปดครับ"
"แล้วก็มาที่นี่หรอ" เขมพยักหน้า
"คุณแม่รับนายเข้าทำงานเป็นคนรับใช้หรอ" เชียร์ถามเพราะความอยากรู้อยากเห็น เขมส่ายหน้าไปมา
"เปล่าครับ คุณผู้หญิงมีเมตตากรุณาให้ทุนเรียนฟรีกับผม ผมจึงอยากตอบแทน....ช่วยงานบ้านให้ได้มากที่สุด"
"เพราะงั้นนายถึงบอกว่านายมาทำงานตอบแทนคุณแม่ไม่ได้เป็นคนรับใช้ซินะ เข้าใจแล้ว....." เชียร์มองไปรอบๆ อย่างอึดอัด เขาไม่รู้เลยว่าต้องทำตัวยังไงกับสถานการณ์แบบนี้
"นั่งลงก่อนมั้ย"
"ครับ?"
"นั่ง นั่งลง"
"คือ ผมต้องไปซื้อของครับ"
"มือถือหรอ" เขมพยักหน้า
"นายไม่มีมือถือใช้หรอ" คนตัวเล็กถาม เขมพยักหน้าอีกครั้ง
"เงินไม่พอหรือว่าทำไม"
"....." ครั้งนี้เขมไม่ได้ตอบ เชียร์ถอนหายใจก่อนจะกินเค้กคำสุดท้ายจนหมดก้อนแล้วจิบน้ำเบาๆ
"ฉันไปด้วย"
"เอ๊ะ..."
"อยู่บ้านมันน่าเบื่อ จะไปซื้อมือถือก็ต้องไปห้างสรรพสินค้าใช่มั้ยล่ะ ฉันอยากช้อปปิ้ง" เขมเม้มปากแน่น
"งะ งั้นคุณหนูเลยอยากได้คนขับรถใช่มั้ยครับ"
"ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย ไปซิ....ไปซื้อของกัน"
"....."
"เอาน่า ฉันขับให้เอง มาเร็วๆ" เชียร์ดึงร่างสูงให้เดินตามแต่เขมก็รั้งตัวเองไว้ยืนที่เดิมนิ่งๆ
"อะไรอีก"
"แบบนั้น ผมก็จะโดนด่า...."
"ใครจะกล้าด่านาย"
"....."
"คุณแม่จะด่านายหรอ"
"คุณผู้หญิงใจดี"
"นั่นไง ไม่มีใครด่านายหรอก ไปรถฉัน ฉันขับเอง ฉันไม่ไว้ใจให้นายขับรถราคาหลานสิบล้านหรอกน่า" เชียร์ว่าแล้วเดินนำมาแต่เขมก็ยังไม่เดินตาม
"นี่นายชักจะเอาใจยากเกินไปแล้ว ทำไมถึง..." เชียร์ยังพูดไม่จบเขมก็ถามกลับมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
"ผะ...ผม...ไปกับคุณหนูได้จริงๆ หรอครับ" เชียร์ขมวดคิ้วแน่นแล้วถอนหายใจ
"อือ....รอฉันแต่งตัวแล้วกัน" คนตัวเล็กว่าแล้วเดินออกมาจากเรือนกระจก ร่างสูงมองคนตัวเล็กที่เดินห่างออกไปก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา....ใจดี...สิ่งเดียวที่เขมคิดเมื่อได้คุยกับเชียร์คือเขมคิดว่าเชียร์ใจดี..ถึงภายนอกจะขี้รำคาญและนิ่งน่ากลัวแต่กลับใจดีมากเลย ร่างสูงยิ้มออกมาก่อนจะรีบวิ่งไปรอที่รถของเชียร์
100%
#โปรดติดตามตอนต่อไป...
