7 - เลื่อนประชุม
เลื่อนประชุม
เอี๊ยด!!!!
“อ้าย...” ชนิดาได้แต่หลับหูหลับตากรีดออกมาแทบจะสุดเสียงเท่าที่มี เพราะเธอไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าหรือถอยหลังกลับคืนไปได้แล้ว เธอได้แต่หลับตานิ่งยืนรอรับชะตากรรมอยู่ตรงนั้น
“หนูนิด!!!”
ศุภวัฒน์รีบสะบัดแขนให้หลุดออกจากการเกาะกุมของนางแบบสาว และรีบสาวเท้ายาวไปหาตามเสียงของชนิดาทันทีโดยตามสันชาตญาณ
“หนูนิด เป็นไรไหม” ทันทีที่ถึงตัวชนิดา เขาเอ่ยเรียกเธอมองสำรวจรอบตัวกลับดีใจที่เธอไม่เป็นอะไร เพราะตัวเขาเองก็ตกใจมากเช่นกัน
โดยที่ไม่ได้สนใจรถมอเตอร์ไซค์ที่ขี่ออกไปเลย เพราะคนตรงนี้เป็นหน้าบริษัท รถอาจจะเยอะเป็นธรรมดาในช่วงเวลาเข้างานของพนักงาน ถ้าเขขาเดาไม่ผิด น่าจะเป็นรถของพนักงานส่งอาหาร หรือไม่ก็มอเตอร์รับจ้าง
“พะ พี่เวย์”
พรึ่บ!!!
ชนิดาหันมามองเขาแล้วเอ่ยเรียกชื่อเขาอย่างเหม่อลอย ก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดสนิทลงไปในอ้อมแขนแกร่งศุภวัฒน์ที่รวบตัวของเธอเอาไว้ไม่ให้ไปกองกับพื้น
“หนูนิด หนูนิด!!!” เขาได้แต่เขย่าเรียกเธอ ก่อนอุ้มเธอขึ้นมาแนบอกในท่าเจ้าสาว เมื่อไม่มีการตอบกลับใด ๆ จากเธอ
“บอส เป็นอะไรหรือเปล่าครับมีอะไรให้ผมช่วยไหม น้องหนูนิด” เจษพิพัฒน์เลขาหนุ่มที่เดินผ่านมาเห็นถามเจ้านายขึ้น กลับต้องตกใจ เมื่อเห็นคนที่เจ้านายอุ้มนั่นเป็นใคร
ดีหน่อยที่วันนี้นั้นเป็นวันสุดสัปดาห์ ซึ่งเธอมีกิจกรรมที่โรงเรียนเลยต้องใส่ชุดพละเป็นกางเกงวอมขายาว ศุภวัฒน์เลยอุ้มขึ้นแบบไม่ต้องคอยกังวลพะวงอะไร
“ฉันไม่เป็นอะไร แต่...” เขาหันมาตอบเลขาหนุ่ม แต่สายตากลับเอาแต่คอยมองคนในอ้อมแขนด้วยความเป็นห่วง
“น่าจะตกใจแล้วหมดสติไปนะครับ บอสรีบพาน้องไปห้องพยาบาลก่อนเถอะ” เจษพิพัฒน์เอ่ยบอกเพราะพอจะทราบสาเหตุอยู่บ้าง
ศุภวัฒน์จึงพยักหน้ารับส่ง ๆ ก่อนที่จะสาวเท้าก้าวตามเลขาหนุ่มไป ผ่านหน้าจองณัชชารีย์โดยไม่สนใจอะไรเธอเลย
“แต่เวย์ค่ะ”
“วันนี้คุณกลับไปเถอะเชอรี่” เขาหยุดฝีเท้าแล้วหันมาบอกกับเธอด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง พร้อมกับสายตาที่มองเธออย่างไร้ความรู้สึก
ศุภวัฒน์รีบสาวเท้ายาวเดินตามเจษพิพัฒน์เข้าไปในลิฟต์ที่เลขาหนุ่มกดไว้รอแล้ว แต่พอประตูลิฟต์เปิดออก เขาก็ส่งเธอที่ห้องพยาบาล แต่ก็ไม่ยอมออกห่างจากเธอเลย
“น้องไม่น่าจะได้รับบาดเจ็บอะไรหรอกมั้งครับบอส บอสถอยออกมาให้หมอตรวจดูจะดีกว่านะ บอสไปเตรียมตัวรอเข้าประชุมเถอะครับ” เจษพิพัฒน์พูดขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเจ้านายหนุ่มเอาแต่คอยมองสำรวจตามร่างกายของชนิดาโดยที่ไม่ยอมออกห่างเลย
เมื่อเจ้านายไม่ยอมออกห่าง เลขาหนุ่มจึงได้แต่เอาเรื่องงานขึ้นมาอ้าง เพราะคนที่บ้างานแบบศุภวัฒน์จะเห็นงานมาก่อนเสมออยู่แล้ว
“เลื่อนออกไปประชุมในช่วงบ่ายแทนก็แล้วกัน” เขาตวาดสายตาหันมาสั่งกับเลขาทันที
“บอสครับ”
เจษพิพัฒน์ได้แต่อึ้งในคำพูดสั่งการของเจ้านาย นอกจากจะไม่เข้าประชุมในช่วงเช้าแล้ว เจ้านายยังสั่งการเลื่อนออกไปอีก นี่เจ้านายเขาถึงขั้นเลื่อนประชุมเพื่อสาวน้อยคนนี้เลยเชียวเหรอ สงสัยความสัมพันธ์จะไม่ธรรมดาเสียแล้ว
“ไอ้เจษ นายน่าจะเข้าใจฉันตอนนี้มากที่สุดน่ะ ถ้าเกิดหนูนิดเป็นอะไรไปฉันจะกล้ามองหน้าไอ้วิชญ์ยังไง ไหนจะพ่อแม่ของฉันอีก พวกท่านรักเธอยิ่งกว่าฉันกับยัยวิวที่เป็นลูกในไส้เสียอีก” เขาหันมาพูดกับเลขาด้วยสายตาที่ขอความเห็นใจ
“เข้าใจแล้วครับบอส ก็น้องหนูนิดออกจะน่ารักแบบนี้ใครจะไม่รักละครับ อาจจะดื้อไปบ้างตามประสาวัยรุ่น ก็ตามวัยของเธอพอเป็นเสน่ห์มัดใจ...”
เจษพิพัฒน์เห็นแววตาของเจ้านายหนุ่มก็เห็นใจ และลองเชิงพูดแซวขึ้นมา เพื่ออย่างให้ศุภวัฒน์คลายกังวลลง และอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง
“พูดมาก เอกสารอะไรที่ต้องจัดการในช่วงเช้า นายไปเอามาให้ฉันที่นี่ด้วย ส่วนเอกสารของเมื่อวานก็อยู่ในรถ ออกไปได้แล้ว”
“ครับบอส”
นอกจากศุภวัฒน์จะไม่หายเครียดแล้ว กลับทำให้เขาโมโหขึ้นมาอีก เพราะคำพูดของกำกวมของเจษพิพัฒน์นี่แหละ ที่ตีความหมายได้สองแง่สองมุม ซึ่งไม่ถูกใจเขาเอาเสียเลย
เจษพิพัฒน์รับกุญแจรถจากเจ้านายมา แล้วรีบออกจากห้องพยาบาลไปในทันที ขืนอยู่นานกว่านี้มีหวังคงถูกเจ้านายต่อว่าอีกก็เป็นแน่
เจษพิพัฒน์ที่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวของประธานหนุ่ม เนื่องจากพึ่งไปเอาเอกสารที่รถมาขึ้นมาถึงชั้นผู้บริหารนั้น
“เฮ้อ บอสนะบอส บอสจะรู้ใจตัวเองไหมว่าบอสกำลังหลงรักน้องหนูนิดเข้าให้แล้ว” เขาเอ่ยพึมพำออกมาอยู่คนเดียว เมื่อเห็นอากัปกิริยาของเจ้านายในวันนี้
“พี่เจษพูดว่าอะไรน่ะ” เอมราที่เห็นเลขาหนุ่มเดินมาก็ร้องทักขึ้นทันที
“ไม่มีอะไร ทำงานของเธอไปเถอะ” เขารีบตอบปัด ๆ ไป แล้วก็เดินเข้าห้องของประธานหนุ่มไปทันทีโดยไม่สนใจเธอ
และไม่นานเจษพิพัฒน์ก็หอบแฟ้มเอกสารออกมาจากห้องอีก จนทำให้ผู้ช่วยสาวที่ขี้สงสัยอยู่แล้ว กลับรู้สึกแปลกใจ
“พี่จะหอบแฟ้มไปไหน แล้วบอสล่ะ” เธอถามขึ้นมาทันที เพราะเวลานี้ก็เลยเวลาเข้างานมาสักพักแล้ว แต่กลับไร้วี่แววของประธานหนุ่ม
“เอาไปให้บอสที่ห้องพยาบาล” เจษพิพัฒน์ตอบเพียงแค่นั้น และกำลังจะสาวเท้าก้าวเดินออกไป
“เอาไปให้บอสที่ห้องพยาบาล บอสป่วยเหรอพี่เจษ” เธอเบิกตากว้างถามขึ้นทันที เพราะสถานะที่ที่เลขาส่วนตัวของประธานหนุ่มบอกนั้น เป็นใครก็ต้องตกใจไม่ต่างจากเธอหรอก
“บอสไม่ได้เป็นอะไร”
“อ้าว...แล้วทำไมบอสถึงไปอยู่ที่ห้องพยาบาลล่ะ” เธอถามอย่างนึกแปลกใจ
“บอสเฝ้าน้องหนูนิด พอดีน้องโดนรถเฉี่ยวเมื่อเช้าเป็นลมหมดสตินอนอยู่ที่ห้องพยาบาลตอนนี้” เขาจึงยอมบอกความจริงออกมา ไม่เช่นนั้นผู้ช่วยสาวคงเซ้าซี้เขาไม่หยุดแน่
“อ่อ...(สมน้ำหน้านังเด็กกาฝาก)” เธอพยักหน้าให้เขาอย่างเข้าใจ แต่ภายในใจกลับแอบยิ้มสะใจอยู่ ที่รู้ว่าคนที่นอนอยู่ห้องพยาบาลนั้นเป็นใคร
“ทำงานของเถอะไปเถอะ ส่วนเอกสารหัวข้อการประชุมบอสเลื่อนประชุมเป็นช่วงบ่ายแทน เธอก็ทำแค่งานที่ค้างอยู่ก็พอ” พูดกับผู้ช่วยสาวเสร็จ เจษพิพัฒน์ก็เดินจากไปทันที
