Ep.6
ผับ Xo
น้ำปั่น talk
ตอนนี้เรา พราวมุก ดาริน เเล้วก็เค้กอยู่ที่ผับใหญ่ใจกลางกรุงแห่งนึง มันเป็นสถานที่ฉลองเวลามีเรื่องพิเศษๆ แล้วก็เป็นผับที่เดียวที่เราเคยเที่ยวด้วยแต่ก็นานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่เราไม่ได้มาที่นี่ ทุกอย่างถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ดูทันสมัยขึ้นเยอะเลยแหละ เรากับทุกคนเดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะหน้าเวทีติดกับซุ้ทมดีเจพอดี เรียกได้ว่าตรงนี้ไม่ใช่โต๊ะ VIP แต่เด่นกว่า VVIP อีกจ่ะ
ดาริน : ดับ ดับหมดทุกคนจ้า ผู้ชายจ้องนางชะนีน้ำเป็นตาเดียวกัน
เรา : อะไม่ได้ คืนนี้พี่ขอค่ะ สั่งอะไรก็ได้นะจ้ะขอเบาเบ๊า
ชีสเค้ก : โอโหเสียสูงขนาดนี้เหมาะกับอะไรเบาๆมากค่ะ
เรา : โห่เด็กน้อย เบาของพี่อาจจะเข้มของหนูเลยนะจ้ะ
พราวมุก : ให้กูพูดไหมน้ำ น้องมึงคอแข็งกว่ามึงอีก
เรา : ก็แหง๋ ก่อนหน้านี้มึงสองคนก็พาน้องกูท่องราตรีโดยไม่มีกูมาเท่าไหร่ละ
ดาริน : พอค่ะหยุดเถียงกัน เหล้ามาแล้ว ชนค่ะ
เรายกแก้วเหล้าขึ้นมาชนกันตามประสาสามคน ก่อนจะยกแก้วเหล้าเข้าปากกันพรวดเดียวหมดแก้ว ครอบครัวเราไม่เคยห้ามเรื่องการใช้ชีวิต แต่พ่อกับแม่จะเตือนเสมอในสิ่งที่มันเสี่ยงเกินไป แต่พวกท่านไม่เคยเคยห้ามหรือสั่งบังคับกดดันว่าต้องหยุดทำ เรื่องการเที่ยวของน้องเราเลยเป็นเรื่องที่ปกติ เพราะน้องเราคอแข็งและดูแลตัวเองได้ดีในระดับนึงเลยแหละ
พราวมุก : น้ำโต๊ะนั้นมองมึงตาเป็นมันละค่ะ
เรา : ไหนวะ
เราหันไปมองตามที่พราวมุกมันบอก อื้อหืองานดีมาก อีนี่ดี๊ด๊าจนลืมตัวไปเลยว่าเพิ่งโดนหักอกมา โอ๊ยที่นี่มันเจริญหูเจริญตาดีจริงจริ๊งงงง
ดาริน : กูนึกอะไรสนุกๆออกล่ะ
เรา : ล่าค่ะ วันนี้ขอสะบัดคราบทนายความผู้เรียบร้อย
ดาริน : มึงเคยเรียบร้อยด้วยหรอ
เรา : มึงนี่เบรกกูแต่ละทีหน้าทิ่มเลยนะริน
ดาริน : ขอโทษๆ
เรายกแก้วเหล้าเข้าปากก่อนจะโยกย้ายไปตามจังหวะของเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มอยู่ตอนนี้ ระหว่างเต้นก็มีบรรดาหนุ่มๆเเวะเวียนเข้ามาชนแก้วไม่ขาดสาย จนกระทั่งมีผู้ชายคนนึงงานดีมากเลยแหละ สูงโปร่ง จมูกโด่ง ขาวจั๊ว มากเวอร์ เข้ามาทักเรา
… : สวัสดีครับ ขอชนแก้วด้วยได้ไหมครับ
เรา : ด้วยความยินดีค่ะ
… : ผมเต้นะครับ คุณคือทนายน้ำปั่นใช่ไหมครับ
เรา : ใช่ค่ะ คุณเต้รู้จักน้ำด้วยหรอคะ
เต้ : ทนายความคนเก่งชื่อดังใครๆก็รู้จักครับ คุณลุคนี้นี่ดูดีมากเลยนะครับ
เรา : ลุคนี้เนี่ยนะคะ
เต้ : ครับผม ชนครับ ว่าเเต่คุณน้ำปั่นดื่ม….ได้ไหมครับ
เรา : ได้สบายมากค่ะ
ดาริน : อะแฮ่มมมม ตรงนี้มีคนอยู่นะคะ โสดด้วยสวยด้วยยย
เรา : อ้าวยังอยู่หรอ เห็นเงียบนึกว่าไหลไปหน้าเวทีตาม 2 คนนั้นล่ะ
เต้ : นี่ทนายดารินหรือเปล่าครับ
ดาริน : ใช่ค่ะ
เต้ : โอ้วว ไม่คิดเลยนะครับเนี่ยว่าทนายสาว 3 คน ที่ผมเจอวันนี้จะเป็นทนายคนเก่งชื่อดังทั้งนั้นเลย ผมเริ่มกลัวแล้วนะครับเนี่ย
เรา : ทะนงทนายอะไรกันคะ ตรงนี้ไม่มีทนายค่ะ มีเเต่คนธรรมดาทั่วไป
เต้ : งั้นนี่ครับ คนธรรมดาต้องลองดื่ม
เรารับแก้วค็อกเทลมาดื่มเข้าปากแบบที่ไม่ได้คิดอะไร จากนั้นก็เล่นกันตามปกติ พอเริ่มดึกก็เริ่มออกไปเลื้อยกันตามสภาพ เหมือนกับได้ปลดปล่อยทุกอย่างออกไป มันดีแบบบอกไม่ถูกเลยจริงๆ ส่วนคุณเต้ก็หายไปไหนไม่รู้สงสัยไม่โอเคกับความรั่วของเราเเล้วหนีกลับโต๊ะแล้วมั้ง
เรา : พวกมึงกูไปห้องน้ำก่อนนะ
ชีสเค้ก : ให้หนูไปด้วยไหม
เรา : ไม่เป็นไรพี่ไปแค่นี้
ชีสเค้ก : รีบมานะ
เรา : เค
เราเดินมาเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวจนเสร็จเเต่ระหว่างที่ล้างมือ ก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาเรากลัวเป็นบรรดาลูกความเลยออกมารับโทรศัพท์ที่ด้านนอก อาชีพทนายทำงานไม่มีเวลาส่วนตัวลูกความต้องการคำปรึกษาตอนไหนต้องพร้อมเสมอ เราออกมายืนคุยโทรศัพท์อยู่สักพักก่อนจะวางแล้วหันเดินกลับเข้าข้างในแต่เจอคุณเต้ก่อน
เต้ : อ้าวไปไหนมาครับ
เรา : คุยกับลูกความค่ะ
เต้ : มาเที่ยวยังต้องทำงานอีกหรอครับ
เรา : อาชีพทนายหาเวลาส่วนตัวยากค่ะ
เต้ : แบบนี้ไม่เหนื่อยแย่เลยหรอครับเนี่ย
เรา : ชินแล้วล่ะค่ะ เราคือความหวังของเค้า บางคนค้าอาจมีเเค่เราเป็นแค่ที่พึ่งเพราะฉะนั้นพวกเค้าต้องสำคัญเป็นที่สุดค่ะ
เต้ : ผมอยากได้คุณมาเป็นทนายส่วนตัวจัง
เรา : ยินดีเสมอค่ะ
เต้ : ดื่มนี่หน่อยไหมครับ จะได้สดชื่น
คุณเต้ยื่นน้ำเย็นให้เรา 1 ขวดตอนแรกเราจะไม่รับแต่กลัวเค้าเสียน้ำใจ อีกอย่างน้ำขวดที่เค้ายื่นให้ก็ยังไม่ได้มีการเปิดมาก่อนด้วย
เต้ : เดี๋ยวผมขอไปเอาของที่รถก่อนนะครับ ถ้าไม่รังเกียจรอเดินเข้าข้างในพร้อมกันไหมครับ
เรา : ได้ค่ะ
ระหว่างยืนคุยกับคุณเต้เค้กก็ทักไลน์มาเพราะว่าเห็นหายมานาน เราก็ตอบน้องตามปกติน้องจะได้ไม่เป็นห่วง ระหว่างยืนรอคุณเต้อยู่ๆสายตาเรามันก็พร่ไปหมดจนทุกอย่างแทบจะดับลง เราเริ่มยืนไม่อยู่ก้าวขาไม่ออก อยากดื่มเเต่น้ำที่อยู่ในขวด
เต้ : คุณน้ำปั่นครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ
เรา : ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ น้ำว่า น้ำขอเข้าไปด้านในก่อนดีกว่าค่ะ
เต้ : มาครับเดี๋ยวผมช่วย
เรา : ไม่เป็นอะไรค่ะ ขอบคุณนะคะ น้ำไม่รบกวนเเล้วดีกว่า
ตอนนี้เราเริ่มรู้สึกแล้วว่าน้ำในขวดนี่ไม่ปกติ ไม่รู้มันมีอะไรที่ทำให้เราอยากที่จะกินแต่น้ำในขวด เราเลยโยนมันทิ้งไปแล้วพยุงตัวเองกลับเข้าไปในผับ ครั่นจะกดโทรศัพท์หาน้องหรือเพื่อนสายตาตอนนี้ก็เเทบจะไม่ไหวมันพร่ไปหมด แล้วสิ่งที่เรากลัวก็เกิดขึ้นสุดท้ายเราก็ไม่สามารถพยุงตัวเองให้ยืนหรือเดินไปต่อได้ เราฟรุบลงกับพท้นโดยมีคุณเต้เเละเพื่อนเค้าอีก 2-3 คนมาพาเราขึ้นรถก่อนที่ทุกอย่างจะดับลง……
