3“กิน ๆ ไปเถอะ เราจะได้ไปกันสักที”
“แต่...” กออ้อรู้สึกลังเล ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากเอาโฉนดที่ดินคฤหาสน์หลังนี้ไปจำ แต่ถ้าเกิดว่าเธอหาเงินมาจ่ายธนาคารไม่ได้เขาก็จะมายึด แล้วเธอกับลูกจะไปซุกหัวอยู่ที่ไหนล่ะ
“แต่อะไร?”
“ถ้าเกิดว่าเราเอาโฉนดที่ดินคฤหาสน์หลังนี้ไปจำ ถ้าเราไม่มีเงินคืนเขา แล้วเขามายึดเราจะไปอยู่ไหนกันล่ะ?” เธอเอ่ยพร้อมกับกัดเล็บของตัวเองเบา ๆ ครุ่นคิดกับสิ่งที่ผู้เป็นสามีพูดออกมา
“เราต้องได้คืนสิ เผลอ ๆ เราจะได้เยอะกว่าเดิมอีก”
“มันเสี่ยงเกิน”
“การลงทุนมีความเสี่ยงเราก็ต้องยอมเสี่ยงดู ผมคิดว่ามันต้องได้มากกว่าเดิม ผมมั่นใจ”
“...”
“ถ้าผมได้เงินเยอะ ๆ ผมจะไปเอาหุ้นบริษัทของคุณกลับคืนมาให้ได้” มนัสพยายามหว่านล้อมภรรยา
“ฉันกลัวว่ามันจะหมดนะสิ”
“ไม่หมดหรอก ถ้าเราแก้มือได้ เราก็จะมีคนใช้มีคนขับรถเหมือนเดิม คุณจะได้ไม่ต้องลำบากอีกต่อไป”
เขาเอ่ยกับภรรยา เพราะเขาเอาเงินไปถลุงที่บ่อนหลายต่อหลายครั้ง ทำให้เงินทองข้าวของภายในบ้านพวกของมีค่าเริ่มหมดไป เพราะเขากับภรรยาเอาไปขายเล่นการพนันจนเกือบหมด รวมทั้งหุ้นที่บริษัทของพีรพลด้วย เขาให้กออ้อขายหุ้นจนหมดและไปละลายกับบ่อนการพนัน
“ค่ะ”
“เดี๋ยวเราจัดแจงเรื่องนี้กันให้เรียบร้อย เราไม่ต้องไปจำกับธนาคารก็ได้ เราเอาไปจำกับคนที่รู้จักดีกว่า ทำอะไรให้เรียบร้อยเราจะได้เงินเยอะกว่าธนาคารให้มา”
“ค่ะ” เธอพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับคิดตามสามี ถ้าเกิดว่าเธอแก้มือได้เธอจะกลับมามีทุกอย่าง และเมื่อถึงวันนั้นพวกปากหอยปากปูก็จะได้ไม่ต้องนินทาเธออีกต่อไป
ช่วงบ่ายของวันนั้น อิงฟ้าเดินเข้ามาภายในบ้านอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง เมื่อคืนเธอไปเที่ยวไนท์คลับแล้วไปต่อกับหนุ่มตาน้ำข้าว ชายคนนั้นเล่นบทสวาทกับเธอถึงอกถึงใจกว่าจะได้กลับมาก็บ่ายคล้อย
“นังแพร” อิงฟ้าตะเบ็งเสียงเรียกแพรวา ในขณะที่หญิงสาวกำลังก้มก้ม ๆ เงย ๆ ถูพื้นอยู่หน้าบันได
“ค่ะคุณอิง”
“ถอดรองเท้าให้ฉัน”
เธอพูดพร้อมกับยื่นเท้าไปหาแพรวา ในเมื่อพ่อของแพรวาตายไปแล้วเธอก็ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งแสดงละครว่ารักหรือเป็นมิตรกับผู้หญิงซื่อบื้ออย่างแพรวา
“ค่ะ” แพรวาเช็ดมือตัวเองก่อนจะค่อย ๆ บรรจงถอดรองเท้าให้อิงฟ้าอย่างเบามือ
“หลบไป!!” เธอผลักร่างผอมบางของแพรวาให้หลบไป เธอมองไปที่ถังน้ำสีขุ่น ก่อนจะสาดใส่ร่างของแพรวา
“ซ่า!”
“ว้าย!!!”
“สมน้ำหน้า นังโง่!!” อิงฟ้าว่าจบก็โยนถังน้ำใส่แพรวา ก่อนจะเดินขึ้นไปข้างบน
“งี๊ก~งี๊ก~!!” เจ้าโมโม่วิ่งมาหาแพรวา สุนัขสีขาวราวกับรู้ว่าผู้เป็นเจ้าของกำลังทุกข์ระทม เจ้าโมโม่เลียน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของแพรวา เหมือนพยายามปลอบเธอ
“ไม่เป็นไรหรอก แกไปนอนพักเถอะ!” เธอเอ่ยกับสุนัข แล้วเริ่มทำความสะอาดใหม่อีกครั้ง
“นังแพรแกทำอาหารเสร็จหรือยังฉันหิวแล้ว” อิงฟ้าตะเบ็งเสียงเรียกแพรวาขณะที่อยู่บนโต๊ะอาหาร
“สะ... เสร็จแล้วค่ะ” แพรวารีบกุลีกุจอยกอาหารมาเสิร์ฟ กออ้ออิงฟ้ากอดอกมองแพรวาอย่างไม่พอใจ
“นี่อาหารอะไรของแก!” อิงฟ้ามองอาหารบนโต๊ะ เธอไม่พอใจเป็นอย่างมาก ที่อาหารบนโต๊ะ ไม่ใช่อาหารดี ๆ อย่างเช่นทุกวันที่เธอเคยทาน
“แพรไม่มีเงินซื้อค่ะ” แพรวาเอ่ยพร้อมกับตักข้าวให้ทั้งสาม มนัสจ้องมองแพรวาก่อนจะยกยิ้มมุมปากเบา ๆ
ปึง! กออ้อทุบโต๊ะอย่างไม่พอใจ
“เงินที่แกไปทำงานข้างนอกหมดแล้วเหรอ?” เธอมองหน้าของแพรวาอย่างไม่พอใจ ยัยเด็กลูกเลี้ยงของเธอจะไปทำงานที่ร้านก๋วยเตี๋ยวตอนเย็นทุกวัน และเธอเพิ่งทราบมาว่าเงินของแพรวาเพิ่งจะออก
“แพรก็ให้น้าอ้อไปหมดแล้วนะคะ เงิน500ที่น้าอ้อเหลือให้แพร หมดไปเพราะซื้ออาหารเมื่อวานแล้ว”
“นี่แกเถียงฉันเหรอ?”
“เปล่านะคะ” แพรวาส่ายหน้าปฏิเสธ
“นังแพร!”
“พอเถอะ! คุณอ้อ แบบนี้ก็ดีอยู่นะ อาหารน่ากินจะตาย” มนัสแย้งขึ้นก่อนที่เรื่องมันจะลุกลามมากกว่านี้
“แต่อิงจะกินสเต็กค่ะแม่” อิงฟ้าเอ่ย
“นั่นน่ะสิเรากินสเต็กกันแทบจะทุกวัน จะให้มากินอาหารแบบนี้ใครจะกินลงล่ะ”
“แต่อาหารแบบนี้ก็ใช่ว่าจะแย่นะคุณอ้อ ผมว่ามันอร่อยดี”
“อร่อยตรงไหน? “
“กิน ๆ ไปเถอะ เราจะได้ไปกันสักที”
“ก็ได้ค่ะ” เธอตักอาหารอย่างจำใจ แต่ก็ต้องปัดอาหารทิ้งเมื่อมันไม่อร่อยถูกปากของเธอ
