อกหัก
คนทั้งสองเดินเข้ามาในซอยเปลี่ยว ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าบ้านหลังนึงขนาดไม่ใหญ่มากนัก เป็นบ้านปูนเก่าๆ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ถึงจะเล็กและทรุดโทรม แต่มันก็เต็มไปด้วยความสุข
“ถึงแล้ว นี่บ้านของฉันเอง” ริสาชี้นิ้วบอกเด็กหนุ่มที่เดินมาส่ง
“…..” ดวงตาเฉี่ยวคมมองสำรวจเข้าไปยังด้านในแต่ไม่ได้ถามอะไรต่อ
“ขอบใจนายมากนะที่มาส่ง เดินทางกลับดีๆ นะ”
“ฉันขอตัวกลับก่อนแล้วกัน”
“โอเค บ๊ายบาย” ริสาโบกมือลาเหมันต์ ก่อนจะเปิดประตูรั้วเดินเข้าบ้าน เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เหมันต์เดินออกไปพอดี
แกร้ก~
“ใครมาส่งเหรอริสา ทำไมแม่ไม่เคยเห็นหน้า” อนงค์เอ่ยถามลูกสาวด้วยความอยากรู้
“เพื่อนน่ะค่ะ วันนี้ทำโครงงานด้วยกันจนเย็น เขาเลยอาสามาส่ง”
“งั้นทีหลังชวนเพื่อนเข้ามาในบ้านนั่งพักกินน้ำกินท่าก่อนนะลูก นั่งรถมาเหนื่อยๆ”
“…..” ริมฝีปากบางยิ้มกว้างแทนคำตอบ ถ้าเป็นไปได้ เธอก็อยากให้เหมันต์มาส่งทุกวัน แต่มันก็คงเป็นได้แค่ฝัน
“ไปกินข้าวกัน ป่านนี้พ่อคงรอนานแล้ว”
“ดีจังเลยค่ะ หนูกำลังหิวอยู่พอดี”
“ช่วงนี้สิ้นเดือน กินแค่นี้ไปก่อนนะลูก เอาไว้ถ้าเงินเดือนพ่อออกเมื่อไหร่ จะพาไปกินของอร่อย” ราเมธเลื่อนฝ่ามือไปลูบศรีษะลูกสาวด้วยความเอ็นดู
“ไม่ต้องหรอกค่ะ เพราะฝีมือแม่ อร่อยที่สุดสำหรับหนูแล้ว”
ริสามองอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ ถึงมันจะเป็นแค่ไข่เจียวหมูสับธรรมดากับแกงบ้านๆ แค่ไม่กี่อย่าง แต่มันก็อร่อยที่สุดสำหรับเธอ
“ยัยลูกหมูของพ่อน่ารักที่สุด”
“…..” เด็กสาวยิ้มแก้มป่องพร้อมตักอาหารมาทานอย่างเอร็ดอร่อยท่าม
กลางรอยยิ้มของผู้เป็นพ่อและแม่
เช้าวันต่อมา…
HUGO SCHOOL
“ยัยริสาาาา” อิงฟ้าร้องตะโกนดังมาแต่ไกล พร้อมกับวิ่งหอบหายใจเข้ามาหาเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ในห้องเรียน
“อะไรของแกอิงฟ้า?”
“คนเขาลือกันให้แซ่ดว่าแกกับเหมันต์นั่งรถกลับบ้านไปด้วยกัน สรุปเรื่องจริงใช่ไหม?” อิงฟ้าสะกิดถามริสาด้วยความอยากรู้อยากเห็น เพราะตั้งแต่ที่เธอเดินเข้ามาในโรงเรียน เด็กนักเรียนคนอื่นๆ ต่างพูดถึงเหมันต์กับริสา
“ใช่ เมื่อวานเหมันต์นั่งรถเมล์ไปส่งฉันที่บ้านน่ะ ไม่มีอะไรหรอก” ริสาตอบอย่างไม่คิดอะไร เธอเริ่มชินชาเสียแล้วที่ต้องถูกพูดถึง
เพราะเหมันต์เป็นคนดังที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในโรงเรียน ไม่ว่าใครที่อยู่ใกล้เขาต่างต้องตกเป็นเป้าสายตาของนักเรียนคนอื่นๆ
“แค่นั้นจริงๆ เหรอ?”
“อืม แค่นี้แหละ”
“แต่ฉันว่ามันแปลกๆ อยู่นะ ปกติเหมันต์ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครนี่น่า แต่กับแกทำไมถึง…”
“แกลืมไปหรือเปล่า ว่าเราต้องทำโครงงานด้วยกันนะ ยังไงเราก็ต้องคุยกันอยู่แล้ว” เด็กสาวพูดแทรกขึ้นตามความคิด เธอไม่กล้าแม้แต่จะคิดเข้าข้างตัวเองด้วยซ้ำ เพราะเจียมตัวมาโดยตลอด
“อ่ะจ้าาาา ไม่แปลกก็ไม่แปลก”
ริสาละสายตาจากเพื่อนสาว ก่อนจะเก็บหนังสือเรียนใส่ลิ้นชักใต้โต๊ะ แต่กลับต้องประหลาดใจเมื่อเห็นขนมมากมายวางเรียงรายอยู่ในนั้น
“ในลิ้นชักของฉันมีขนมเพียบเลย ใช่ของแกหรือเปล่า?” เด็กสาวหันไปถามอิงฟ้าที่นั่งอยู่ข้างๆ
“เปล่านะ ไม่ใช่ของฉัน”
“ถ้าไม่ใช่ของแกแล้วเป็นของใคร?”
“คนที่แอบชอบแกเอามาให้หรือเปล่า?” อิงฟ้าเอ่ยแซว
“พูดอะไรเพ้อเจ้อ ไม่มีใครหน้ามืดตามัวมาชอบฉันหรอก”
“มันก็ไม่แน่หรอกย่ะ บางทีเขาอาจจะชอบของแปลกแบบแกก็ได้”
“ยัยฟ้า! นี่แกว่าฉันเหรอ?” ริสาเผลอพูดเสียงดังเมื่อถูกเพื่อนรักอย่างอิงฟ้าพูดแหย่
“ชู่วววว อย่าเสียงดังสิ”
“โจเซฟมาทำอะไรห้องเรา”
“พอมองใกล้ๆ ความหล่อสูสีกับเหมันต์เลยแฮะ แต่ฉันชอบเหมันต์มากกว่า”
“มาหายัยริสาหรือเปล่า โจเซฟสนิทกับยัยริสานิ”
ทั้งคนสองต่างพากันหันไปมองยังเสียงพูดของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆ ก่อนจะเห็นว่าเป็นโจเซฟเพื่อนชายต่างห้องที่เดินตรงมาทางที่พวกเธอนั่งอยู่
“ไอ้โจเซฟมันมาอีกแล้ว” อิงฟ้าเอ่ย เพราะพวกเธอทั้งสองคนค่อนข้างที่จะสนิทกับโจเซฟ
“ยัยบื้อ! ฉันส่งข้อความหาทำไมไม่อ่าน” โจเซฟพูดตำหนิพลางดึงผมเปียของริสาอย่างแรงเพื่อเป็นการแกล้งเหมือนที่ชอบทำ
“ไอ้บ้าโจ ฉันเจ็บนะ บอกแล้วไงว่าห้ามดึงผม” เด็กสาวถลึงตาใส่เพื่อนชายด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะฟาดฝ่ามือตีไปที่ต้นแขนของโจเซฟอย่างแรงเพื่อเป็นการเอาคืน
“ฉันชื่อโจเซฟ เรียกให้เต็มยศหน่อยสิ”
“จะเรียกแค่โจมีอะไรหรือเปล่า?”
“กลางวันนี้ไปกินข้าวกัน เราสามคนไม่ได้กินข้าวด้วยกันมาเป็นเดือนแล้ว
นะ” ใบหน้าหล่อเหลาของโจเซฟโน้มต่ำลงมาหาริสาที่นั่งอยู่ เด็กสาวได้แต่นั่งนิ่งเพราะชินชากับการกระทำของเพื่อนชายเสียแล้ว
“วันนี้ฉันไม่ว่าง เอาไว้วันหลังแล้วกัน”
“เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง กินได้ไม่อั้นตกลงไหม?”
“ก็ได้ๆ ให้ไปเจอที่ไหนก็ว่ามา” พอได้ยินดังนั้น ริสาจึงรีบตกปากรับคำแต่โดยดี
“ไม่ค่อยเห็นแก่กินเลยนะเพื่อนฉัน” อิงฟ้าถึงกลับถอยหายใจ ปากก็บอกว่าอยากลดความอ้วน แต่ริสาก็ยังทานข้าววันละสองจานทุกมื้อ
“ยัยหมูตอน!”
หมับ! โจเซฟพูดอย่างมันเขี้ยวพร้อมกับหยิกเข้าไปที่แก้มอ้วนๆ ของริสาเพื่อเป็นการหยอกล้อ
“ไอ้บ้าโจ ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันเจ็บ”
“ยัยแก้มซาลาเปา อมอะไรเอาไว้คายออกมาเดี๋ยวนี้”
“ช่วยด้วยอิงฟ้า ไอ้โจมันแกล้งฉันอีกแล้ว”
พลั่ก! ตุบ! ร่างโจเซฟเซถลาออกไปตามแรงกระแทก เมื่อเหมันต์จงใจเดินชนเขาแบบเต็มแรง ทำเอาเพื่อนในห้องต่างพากันหันมามองยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เดินภาษาอะไรวะ ไม่เห็นหรือไงว่ามีคนยืนอยู่”
“หลีกไป เกะกะ” เหมันต์ตอบกลับสั้นๆ ก่อนจะเดินไปยังที่นั่งของตัวเอง
“แกกลับไปก่อนนะ เอาไว้ค่อยเจอกันตอนกลางวัน” ริสาเอ่ยปากบอกเพื่อนชายเมื่อสัมผัสได้ถึงสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดี เพราะรู้ดีว่าโจเซฟใจร้อนแค่ไหน กลัวว่าจะเกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้น
“ห้ามเบี้ยวนัดนะ ไม่งั้นฉันจะตามมาลากคอเธอถึงที่ห้อง” โจเซฟเน้นย้ำอีกที พร้อมกับมองไปยังเหมันต์ ซึ่งเหมันต์ก็จ้องหน้าเขากลับมาเหมือนกัน
“ไม่เบี้ยวหรอกน่า รีบออกไปได้แล้ว” ไม่พูดเปล่าแต่ริสายังผลักเพื่อนชายให้รีบออกจากห้อง เพราะอีกไม่กี่นาทีก็จะได้เวลาเริ่มเรียนคาบแรกแล้ว
“…..”
โรงอาหาร…
“ทำไมเหมันต์มองแกแบบนั้น เคยมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า?” อิงฟ้าหันไปถามเพื่อนชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เมื่อเห็นเหมันต์และกลุ่มเพื่อนของเขาที่เพิ่งเดินผ่านหน้าไป
“ไม่เคยมี แต่อีกไม่นานก็คงมี” โจเซฟไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจมากนัก
“เหมันต์ชอบมองคนด้วยสายตาแบบนั้นแหละ แกอย่าไปถือสาเขาเลย” ริสาพยายามพูดเพื่อไม่ให้โจเซฟคิดมาก ถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งสองคนจะดูแปลกๆ ต่อกันก็ตามที
“ไม่รู้ดิ เห็นหน้ามันแล้วไม่ถูกชะตา อยากเดินเข้าไปซัดหน้ามันสักทีสองที”
“ห้ามทำแบบนั้นนะ ถ้าแกทำอะไรเหมันต์ต้องข้ามศพฉันไปก่อน”
“แล้วแกไม่เห็นสายตาที่มันมองฉันหรือไง ถ้ามันยกเก้าอี้ทุ่มใส่ฉันได้ มันคงทำนานแล้วแหละ” โจเซฟผลักหัวริสาเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ ที่เธอออกตัวปกป้องคนอื่นมากกว่าเพื่อนสนิทอย่างเขา
“อย่ามองโลกในแง่ร้ายนักสิ”
“น้อยไปสิ ผู้ชายด้วยกันมันดูออก ว่าไอ้หมอนั่นน่ะร้ายลึกจะตายไป”
“แกน่ะคิดมากไป เหมันต์ไม่ใช่คนใจร้ายแบบนั้นสักหน่อย”
“โอ้ยยย ยัยหมูตอน ปกป้องแต่ผู้ชาย ทีเพื่อนรักอย่างฉันทำไมไม่เข้าข้างกันบ้างเลย”
“ทำไงได้ ก็ฉันชอบเขานี่น่า”
“เลิกมโนเพ้อเจ้อ แล้วหันไปมองความจริง แฟนตัวจริงเขาเดินมานู้นแล้ว”
“…..” ริสาหันไปมองตามที่เพื่อนชายบอก ก่อนจะหุบยิ้มลงไปในทันทีเมื่อเห็นดาริน ดาวโรงเรียนที่เดินเข้ามาพูดคุยกันเหมันต์อย่างสนิทสนม
“อกหักแต่ตั้งยังไม่เริ่มเลยเพื่อนฉัน” อิงฟ้าพูดตัดพ้อออกมาด้วยความสง
สาร หลังจากที่เห็นว่าริสาเอาแต่นั่งก้มหน้าเงียบอยู่แบบนั้น
