หลบหน้า
ริสาตบหน้าตัวเองอย่างแรงเพื่อเรียกสติ บางทีเธออาจจะหูฝาดไป
“เมื่อกี้นะ…นายว่าไงนะ ฉันขอฟังอีกที” เด็กสาวทวนถามอีกครั้งด้วยความไม่แน่ใจ อย่างน้อยเธอก็ยังอยากได้ยินชัดๆ อีกสักครั้ง
“ฉันชอบเธอ”
“…..” ริสายิ้มเจื่อนเพื่อปกปิดความรู้สึกก่อนจะหันซ้ายหันขวาอย่างเลิ่กลั่ก หลังจากที่ได้ยินเต็มสองรูหู
เหมันต์บอกว่าชอบเธอจริงๆ มันต้องมีเรื่องอะไรผิดพลาดแน่ๆ!
“ได้ยินชัดพอหรือยัง?”
“ตลกมากหรือไงกัน ไม่มีใครเขาเอาเรื่องแบบนี้มาพะ…พูดเล่นหรอกนะ ไอ้คนบ้า”
“ฉันพูดจริง!”
“…..”
“ทีเธอยังชอบฉันได้ แล้วทำไมฉันจะชอบเธอบ้างไม่ได้ล่ะ”
“ฉันไม่เชื่อนายหรอกนะ อย่ามาหลอกกันให้ยากเลย” เด็กสาวแยกเขี้ยวใส่คนที่นั่งข้างๆ ถึงแม้อย่างนั้น เธอก็ยังไม่เชื่ออยู่ดีว่าเทพบุตรสุดหล่ออย่างเหมันต์จะมาหลงชอบเด็กอ้วนกะโปโลแบบเธอ
“…..”
บ้านริสา…
“กลับมาแล้วหรอลูก หิว…” อนงค์พูดไม่ทันจบประโยค ลูกสาวก็รีบวิ่งผ่านหน้าไป โดยไม่สนใจอาหารเย็นของเธอเลยสักนิด
“วันนี้หนูไม่กินข้าวเย็นนะคะ ไม่ต้องไปตาม” ริสาตะโกนกลับมา พร้อมกับรีบปิดประตูห้องอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวก่อนริสา ริสา” ผู้เป็นแม่ได้แต่ชะเง้อคอมองตามลูกสาวด้วยความประหลาดใจ ที่ริสาไม่ยอมทานข้าวเย็นเหมือนทุกวัน
“อะไรของเขา วันนี้มาแปลกๆ”
พรึ่บ! เด็กสาวเอาแต่นอนกลิ้งไปมาบนเตียงนอนอย่างคิดไม่ตก คำพูดของเหมันต์ยังคงลอยวนเวียนอยู่ในสมองของเธอตลอดเวลา
“ยัยอ้วนเอ้ย! นี่แกมัวคิดบ้าอะไรอยู่”
“คนอย่างเหมันต์น่ะเหรอที่จะมาชอบเรา เรื่องมันชักจะเพ้อเจ้อไปกันใหญ่แล้ว”
ริสาดีดตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะยกมือทึ้งหัวตัวเองอย่างแรงด้วยความหงุดหงิด เพราะเหมันต์คนเดียวที่ทำให้เธอคิดมากฟุ้งซ่านอยู่แบบนี้
HUGO SCHOOL
“ยัยริสา!”
เด็กสาวสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงของอิงฟ้าที่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ในขณะที่เธอกำลังทำตัวลับๆ ล่อๆ อยู่หลังต้นไม้ใหญ่หน้าโรงเรียน
“ว้าย! ตะ…ตกใจหมดเลย”
“มายืนทำอะไรตรงนี้ไม่ทราบ?” อิงฟ้าถามด้วยความสงสัยที่เพื่อนสาวมาถึงแต่ไม่ยอมเข้าไปในโรงเรียน
“เอ่อ…เปล่าหรอก ไม่ได้ทำอะไร” ริสาตอบกลับ พลางมองสำรวจไปบริเวณโดยรอบให้แน่ใจว่าเหมันต์ไม่ได้อยู่แถวนี้
“ถ้าไม่ได้ทำอะไรก็ดีแล้ว ตอนนี้ได้เวลาแล้ว ไปเข้าเรียนกัน”
“เดี๋ยวก่อนอิงฟ้า”
“อะไรของแก?”
“คือว่าฉัน…” เด็กสาวพยายามคิดทบทวนว่าจะบอกเรื่องของเธอกับเหมันต์ดีไหม เพราะอิงฟ้าเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว เธอจึงไม่อยากมีความลับกับเพื่อน
“อะไรของแก?”
“ช่างมันเถอะ ไม่มีอะไรหรอก ไปเข้าเรียนกันเถอะ” แต่ด้วยความขี้ขลาด ริสาจึงได้แค่เก็บมันไว้ในใจไม่กล้าพูดออกมา
ห้องเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6/1
“เป็นอะไรของแก เอาแต่นั่งหันซ้ายหันขวาอยู่นั่นแหละ” อิงฟ้าหันไปถามริสาด้วยความรำคาญ หลังจากที่เห็นว่าเธอเอาแต่นั่งขยุกขยิกไปมาไม่อยู่เฉย
“ไม่ต้องสนใจฉันหรอก แกทำงานของแกไปเถอะ”
ตึกตัก! ตักตัก! หัวใจดวงน้อยกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง เมื่อเหมันต์ปรากฏตัวเดินเข้ามาในห้องเรียน
เด็กสาวเอาแต่ก้มหน้า เมื่อเห็นว่าเหมันต์กำลังชำเลืองมองมาทางเธออยู่พอดี
“กลางวันนี้ไปกินข้าวด้วยกันหน่อยสิ ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย” เหมันต์หยุดยืนต่อหน้าริสา โดยไม่สนสายตาของเพื่อนร่วมห้องที่กำลังมองมาเลยสักนิด
“นายมีอะไรจะคุยกับฉันก็พูดมาเลย เพราะตอนกลางวันฉันมีนัดแล้ว”
“แน่ใจแล้วใช่ไหม ว่าอยากให้ฉันพูดเรื่องของเราตรงนี้?”
“…..” พอได้ยินดังนั้น เด็กสาวจึงเกิดอาการเลิ่กลั่กมากขึ้นกว่าเดิม สายตากดดันของอิงฟ้าที่มองจ้องมา มันยิ่งทำให้เธออยากเดินหนีออกจากห้องไปให้พ้นๆ
“เรื่องของเรา?” อิงฟ้ามองหน้าเพื่อนสาวกับเหมันต์สลับกันด้วยความสงสัย “หมายความว่าไงยัยริสา แกกับเหมันต์…”
“เอ่อ…”
“ว่าไง! อยากจะให้ฉันพูดตรงนี้เลยไหม?” เหมันต์พูดแทรกขึ้น เมื่อเห็นริสามัวแต่นั่งเป็นใบ้ไม่ยอมพูดมันออกมา
“ไม่เป็นไร เอาไว้ตอนกลางวันค่อยคุยกันก็ได้”
เหมันต์พยักหน้ารับ ก่อนจะยอมเดินออกไปแต่โดยดี
“อธิบายมาเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันบีบคอแกแน่” อิงฟ้ายังคงคาดคั้นอยากได้คำตอบจากเพื่อนสาว
“ไม่มีอะไรหรอก เอาไว้ถ้าพร้อมแล้ว เดี๋ยวฉันค่อยเล่าให้ฟังนะ”
หลังอาคารเรียน…
“มาช้าไปสิบนาที มัวทำอะไรอยู่?” เหมันต์ก้มมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะเห็นว่าริสามาสายเกินกว่าเวลาที่เขานัดหมาย
“ฉันแวะไปเข้าห้องน้ำนิดหน่อย นายมีอะไรก็ว่ามาสิ”
“หลบหน้าฉันทำไม?”
“เปล่าสักหน่อย ฉันไม่ได้หลบหน้านายนะ” ริสาปฏิเสธเสียงแข็ง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแบบที่เหมันต์พูดก็ตาม
เพราะตั้งแต่ที่เหมันต์บอกชอบ เธอก็ไม่สามารถมองเขาเป็นคนเดิมได้อีก ยิ่งเธอพยายามหลีกหนี กลับเป็นเขาเองที่เป็นฝ่ายตาม
“สิ่งที่เธอทำอยู่ตอนนี้เขาเรียกว่าหลบหน้าไม่รู้หรือไง!”
“ก็ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไงดี” ริสาตัดสินใจพูดไปตามความรู้สึก ตอนนี้เธอรู้สึกอึดอัดและไม่เป็นตัวของตัวเอง
อาจจะเป็นเพราะเธอชอบเหมันต์มาก และไม่เคยคาดหวังว่าต้องการครอบครอง ความสุขของเธอ คือการได้แอบชอบและมองเขาอยู่ห่างๆ และมันคงไกลเกินเอื้อมเกินไป ที่เขาและเธอจะมาลงเอยด้วยกันได้
“เธอเคยทำแบบไหนก็ทำแบบนั้น ไม่เห็นจะต้องเปลี่ยน”
“แต่ฉันทำไม่ได้” เด็กสาวพยายามฝืนกลั้นน้ำตาเอาไว้ ยิ่งมองเห็นผู้คนรอบตัวเหมันต์ มันยิ่งตอกย้ำว่าเรื่องของเราไม่มีทางเป็นไปได้ เธอไม่มีอะไรคู่ควรหรือเหมาะสมกับเขาเลยสักนิด
“เธอกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ริสา?”
“คือฉัน…”
“นี่เธอชอบฉันจริงๆ ใช่ไหม?”
“ใช่! ฉันชอบนาย แล้วก็ชอบมากๆ ด้วย พอใจหรือยัง?” ริสาพูดใส่คนตรงหน้าด้วยความอัดอั้น เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเหมันต์เข้ามาหาเธอด้วยจุดประสงค์อะไรกันแน่
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี งั้นเรามาคบกัน”
“อะไรของนายเหมันต์ รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา!?” มือเล็กปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแบบลวกๆ หลังจากที่ได้ยินประโยคนั้น สติของเขาคงฟั่นเฟือน หรือไม่ก็เป็นเธอเองที่หูฝาด
“ฉันมีสติดีทุกอย่าง แล้วก็รู้ตัวดีว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่”
“…..”
“เธอชอบฉัน ส่วนฉันก็ชอบเธอ งั้นเราลองมาคบกันดูไหม?”
“นะ…นายว่าไงนะ”
“ลองมาเป็นแฟนกันดู”
