สถานะเปิดเผย
“แต่ฉันกับโจเซฟเป็นแค่เพื่อนกันนะ นายก็น่าจะรู้ดี” ริสามองคนตรงหน้าด้วยสายตาตำหนิ เธอกำลังรู้สึกไม่พอใจที่เหมันต์ใช้อารมณ์เกินไป โดยไม่มีเหตุผล
“…..”
“แล้วเราสองคนก็ไม่เคยคิดอะไรเกินเลยด้วยซ้ำ ครั้งนี้นายทำเกินไปนะ”
“ฉันผิดเองที่ใจร้อนเกินไป ขอโทษนะ”
“คนที่นายควรขอโทษคือโจเซฟไม่ใช่ฉัน”
“…..” เหมันต์เลือกที่จะยืนเงียบ ไม่ยอมโต้ตอบใดๆ เมื่อเห็นว่าเด็กสาวกำลังไม่พอใจเขาอยู่
“นายต้องไปขอโทษเขาด้วยตัวเอง”
“อืม เข้าใจแล้ว”
“…..” ริสาถอนหายใจออกมาอย่างคิดไม่ตก ป่านนี้นักเรียนคนอื่นๆ คงเอาเรื่องของเธอไปพูดกันสนุกปากแล้วแน่ๆ
“แล้วเมื่อไหร่เธอจะบอกของเราให้คนอื่นรู้สักที?” ริสาหยุดชะงักไปชั่วครู่ เมื่อได้ยินในสิ่งที่เหมันต์เอ่ยถาม
“ฉันว่าเราคบกันแบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?” ริสา ตอบกลับไปตามที่คิด อย่างที่รู้ว่าเธอไม่คู่ควรกับเหมันต์เลยสักนิด ถ้าคนอื่นรู้ เธอคงถูกมองไม่ดีและต้องตกเป็นเป้าสายตามากกว่าเดิม ซึ่งเธอไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น
“แล้วเธอจะคอยหลบๆ ซ่อนๆ ไปอีกนานแค่ไหน?”
“ถ้าจะให้บอกคนอื่นในตอนนี้ ฉันยังไม่พร้อมจริงๆ นายเข้าใจใช่ไหม?”
“…..” เหมันต์ยืนเงียบเพราะเข้าใจในสิ่งที่ริสากำลังคิดอยู่
“ฉันขอร้องนะเหมันต์ อย่าเพิ่งบอกใคร”
“…..”
“พรุ่งนี้วันหยุด เราไปดูหนังกันไหม มีหนังสนุกๆ เข้าเพียบเลย” เด็กสาวพูดแทรกขึ้นมาเพื่อทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัด หลังจากที่เห็นว่าเหมันต์เอาแต่ยืนเงียบ เธอเริ่มรู้สึกชินชากับการเป็นคนพูดน้อยของเขาเสียแล้ว
“ได้สิ เดี๋ยวพรุ่งนี้สิบโมงฉันไปรับที่บ้าน” เหมันต์ตอบรับ เพราะเขาอยากใช้เวลาอยู่กับเธอให้นานกว่านี้
“แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ”
“อืม”
ห้างสรรพสินค้า…
ริสาเอาแต่ก้มหน้ามองสำรวจตัวเองด้วยความไม่มั่นใจ เมื่อต้องเดินใกล้เห
มันต์ วันนี้เขาดูหล่อมากกว่าทุกวันต่างจากเธอ ที่ยังดูแย่เหมือนเดิม
ยิ่งได้เห็นสายตาของคนอื่นๆ ที่มองมาทางเหมันต์ มันยิ่งทำเธอรู้สึกไม่มั่นใจมากขึ้นไปอีก
“เป็นอะไรทำไมทำหน้าแบบนั้น?” คนตัวโตเอ่ยถามแฟนสาวที่เอาแต่ทำหน้างอ
“นายว่าฉันดูโอเคหรือเปล่า?”
“ก็น่ารักดี”
“แต่ฉันรู้สึกไม่มั่นใจเวลาที่เดินใกล้นาย”
“ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง สำหรับฉันเธอคือคนที่น่ารักที่สุด” เหมันต์ดึงมือเธอมาจับไว้แน่น โดยไม่แคร์สายตาของคนรอบข้างที่กำลังมองมา
“นะ…นายคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ?” ใบหน้าจิ้มลิ้มค่อยๆ เห่อร้อนขึ้นมาด้วยความเขิน ริสารู้สึกดีใจและมีความสุขที่เหมันต์ไม่ได้นึกรังเกียจเธอเลยสักนิด
“…..” ริมฝีปากหนาคลี่ยิ้มบางๆ แทนคำตอบ ก่อนจะบีบแก้มอ้วนๆ ของแฟนสาวด้วยความมันเขี้ยว
“ตรงนู้นมีร้านไอติม เราไปกินกันไหม?”
“ฉันแล้วแต่เธอ”
“งั้นไปกินไอติมกันนะ”
“เดินนำไปสิ”
เด็กสาวเดินตรงมายังร้านไอติมด้วยอารมณ์เบิกบาน โดยลืมความรู้สึกก่อนหน้านี้ไปจนหมดสิ้น
“นายอยากกินรสอะไร เดี๋ยววันนี้ฉันเลี้ยงเอง” ริสายิ้มจนตาหยีเมื่อมองเห็นไอติมของโปรดที่อยู่ตรงหน้า เธออยากเลี้ยงตอบแทนที่เหมันต์คอยไปรับไปส่งที่บ้านอยู่บ่อยๆ
“อยากให้ฉันกินรสไหนก็สั่งมา”
“ของนายเอารสช็อกโกแลต ส่วนของฉันเป็นรสวนิลลา”
เหมันต์มองคนตรงหน้า ก่อนจะเผลอยิ้มตามออกมา เมื่อเห็นท่าทางดุ๊กดิ๊กของเธอ
บนรถ…
“อร่อยมาก รู้แบบนี้น่าจะซื้อมาสักสามอัน” ริสาเอาแต่บ่นพึมพำ หลังจากที่รู้สึกว่าซื้อไอศกรีมมาน้อยเกินไป
“กินแค่นี้ก็พอ กินเยอะเดี๋ยวก็อ้วนหรอก”
“นายลืมไปแล้วหรือไงว่าตอนนี้ฉันก็อ้วนอยู่แล้วนะ”
“แล้วอยากอ้วนมากกว่านี้หรือไง?”
“ไม่อยากแล้ว” เด็กสาวส่ายหน้าปฏิเสธ ตอนนี้อยากลดน้ำหนักแทบแย่ แต่ก็ยังเลิกกินไม่ได้
“งั้นก็กินให้น้อยลง งดขนมและน้ำหวาน ทำได้ไหม?”
“ไหนบอกว่าชอบที่ฉันอ้วนไง แล้วทำไมถึงอยากให้ลด”
“ที่ให้ลดเพราะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ ไม่เข้าใจหรือไงกัน”
“ก็ได้ๆ งั้นต่อไปนี้จะพยายามกินให้น้อยลง” แค่คิดว่าต้องลดน้ำหนัก ริสาก็รู้สึกท้อแท้อย่างบอกไม่ถูก แต่เพื่อสุขภาพและแรงกดดัน ยังไงเธอก็ต้องทำให้ได้
“งั้นก็เริ่มตั้งแต่วันนี้เลยเป็นไง”
“พรุ่งนี้ไม่ได้เหรอ ฉันสัญญาว่าพรุ่งนี้จะลดจริงๆ แต่วันนี้ขอกินไอติมที่เหลือก่อนนะ”
ริมฝีปากหนาคลี่ยิ้มกว้างมองแฟนสาวด้วยความเอ็นดู ยิ่งได้อยู่ใกล้เธอ เขายิ่งมีความสุข
“พอแล้ว เดี๋ยวที่เหลือฉันกินเอง” ไม่พูดเปล่า แต่เหมันต์ยังแย่งถ้วยไอศกรีมออกจากมือแฟนสาว
“ตะ…แต่นั่นมันไอติมของฉันนะ นายไม่รังเกียจหรือไง” เธอร้องโวยวายออกมายกใหญ่เมื่อถูกแย่งของโปรด
ริสานั่งนิ่งเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อใบหน้าคมคายโน้มริมฝีปากหนาลงมาประกบจูบกับเธอแบบดูดดื่มชิมความหวานในโพรงปากโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
เล็บสวยจิกลงบนต้นขาของตัวเองอย่างแรงเมื่อลิ้นร้อนของเหมันต์ค่อยๆ โลมเลียตวัดดูดดึงที่ริมฝีล่างจนเปียกแฉะเต็มไปด้วยน้ำลายของเขา
“ปากเธอหวานกว่าไอติมอีกนะ”
“คะ…คนบ้า” ใบหน้าจิ้มลิ้มค่อยๆ แดงขึ้นระเรื่อ เมื่อถูกแฟนหนุ่มช่วงชิงจูบแรกของเธอไป
“ฉันจูบจองไว้แล้วนะ เอาไว้ถ้าเธอพร้อมเมื่อไหร่ ฉันจะทำมากกว่านี้”
“นายหมายถึงอะไร?”
“ทำเหมือนที่คนรักกันเขาทำกันไง เอาไว้ถึงเวลาเดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ”
“…..”
หลายอาทิตย์ผ่านไป…
HUGO SCHOOL
“อิงฟ้า ทำไมวันนี้ฉันรู้สึกแปลกๆ” ริสาสะกิดเพื่อนสาวที่เดินอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นสายตาของนักเรียนคนอื่นๆ ที่พากันมองมาทางเธอ
“ฉันก็รู้สึกเหมือนแก” อิงฟ้ากระซิบตอบกลับ
“งั้นเรารีบไปกินข้าวกันเถอะ”
“ฉันเห็นด้วยกับแก รีบออกไปจากตรงนี้กัน”
เด็กสาวทั้งสองรีบจูงแขนกันเดินออกมาจากตรงนั้น เพราะไม่อยากตกเป็นเป้าสายตา
“แล้วแกกับเหมันต์เป็นยังไงบ้าง?”
“ก็ดีนะ เหมันต์เขาดูแลฉันดี” ริสาตอบกลับพลางตักอาหารเข้าปากแล้วเคี้ยวด้วยความเอร็ดอร่อย
ตั้งแต่เดทแรกในวันนั้น เธอก็พยายามลดน้ำหนักมาโดยตลอด งดกินขนมและน้ำหวานทุกชนิด จนตอนนี้น้ำหนักเริ่มลดลงมาบ้างแล้ว
“ฉันก็คิดแบบนั้น เพราะหมอนั่นดูรักแกมากนะ”
“…..” ริสายิ้มอย่างมีความสุข เพราะความรักของเธอกับเหมันต์ดูเหมือนว่าจะไปได้ดีกว่าที่คิดไว้
ตอนนี้คนทั้งคู่มีแพลนว่าถ้าเรียนจบมัธยมปลาย จะไปเรียนต่อที่มหาวิทยา
ลัยเดียวกัน
“ยังไงก็ขอให้แกกับเขารักกันนานๆ นะ รักกันจนเรียนจบเข้ามหาลัยไปเลยยิ่งดี”
“ฉันก็หวังให้มันเป็นแบบ…”
ซ่า! พูดไม่ทันจบ น้ำเปล่าก็ถูกสาดเข้ามาที่ใบหน้าของริสาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำออกจากใบหน้าแบบลวกๆ ก่อนจะเห็นว่าคนที่มาหาเรื่องคือดาริน
“อ๊ะ! นี่มันอะไรกันดาริน!?” ริสาถามด้วยความไม่เข้าใจที่จู่ๆ ดารินก็เอาน้ำมาสาดใส่หน้าเธอ
“แกมาสาดน้ำใส่เพื่อนฉันทำไม?” อิงฟ้าลุกขึ้นประจันหน้ากับดารินอย่างไม่ยอม
“สาดแค่นี้มันยังน้อยไป แกไม่รู้หรือไง ว่าเพื่อนแกมันหน้าด้านขนาดไหน!”
“แกพูดถึงเรื่องอะไร!?”
“ก็ยัยนี่มันแอบไปไหนต่อไหนกับเหมันต์ไงล่ะ”
“…..” ริสาก้มหน้าเงียบเมื่อได้ยินในสิ่งที่ดารินกำลังบอก เธอไม่รู้ว่าข่าวนี้มันหลุดไปได้ยังไง
“ไม่รู้จักเจียมตัว แกมันหน้าด้าน!”
นักเรียนที่อยู่บริเวณแถวนั้นต่างพากันหันมามองให้ความสนใจเมื่อดารินเริ่มพูดเสียงดังมากขึ้นเรื่อยๆ
“คนที่หน้าด้านคงเป็นแกมากกว่ามั้ง!”
“พอเถอะอิงฟ้า รีบไปกันเถอะ” ริสาหยัดตัวลุกขึ้น ก่อนจะพยายามจูงแขนอิงฟ้าให้เดินหนีออกมา
“แกจะรีบหนีไปไหน อยู่ฟังความจริงก่อนสิ” ดารินเดินไปขวางหน้าอย่างไม่ยอมลดละ
“แกนั่นแหละที่ควรฟังความจริง แล้วฉันจะบอกอะไรให้แกหายโง่นะดาริน”
“…..”
“ริสากับเหมันต์เขากำลังคบกันอยู่ ตาสว่างสักที!”
“ฮ่าๆ แกฝันกลางวันอยู่หรือไง คนอย่างเหมันต์เนี่ยนะจะมาคบกับยัยนี่ ทุเรศสิ้นดี!” ดารินหัวเราะดังลั่น ก่อนจะไล่สายตามองมายังริสาด้วยสายตาเย้ยหยัน
“ฉันพูดความจริง ถ้าแกไม่เชื่อก็เชิญไปถามเหมันต์เอาเองเถอะย่ะ”
“…..”
“ถ้าแกอยากรู้ก็ไปถามผู้ชายของแกเอาเอง จะได้ไม่ต้องมาไล่กัดเพื่อนฉันแบบนี้!”
พอได้เห็นท่าทางจริงจังของอิงฟ้า เธอก็เริ่มรู้สึกไม่แน่ใจ
“ฉะ…ฉันถามแน่”
“แล้วมัวรออะไรอยู่ล่ะ รีบไปถามสิจะได้ตาสว่างสักที”
“…..”
ตึกตัก! ตึกตัก! เสียงฝีเท้าของดารินดังขึ้นอย่างรีบร้อน ก่อนจะมาหยุดอยู่ต่อหน้าของเหมันต์ที่กำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่ที่หลังโรงเรียน
“สุดที่รักมึงมาแล้ว” โชกุนเอ่ยแซว
“…..” เหมันต์ปรายสายตาหันไปมองเพียงนิด แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ
“เหมันต์ ฉันมีเรื่องอยากคุยกับนาย”
“มีอะไรก็ว่ามาสิ”
“นายกับริสาเป็นอะไรกัน?”
“ถามทำไม?” คนตัวโตหันขวับไปมองเมื่อได้ยินประโยคที่ดารินถาม
“ตอบฉันมา ว่านายกับริสาเป็นอะไรกัน!” ดารินถามอย่างไม่ยอม ภายในใจของเธอร้อนรนจนแทบบ้า
“งั้นก็ตอบฉันมาก่อน ว่าใครเป็นคนบอกเธอ?”
“ก็ยัยอิงฟ้ามันเป็นคนบอกว่านายกับริสากำลังคบกันอยู่”
“…..“
“มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”
“เธอเข้าใจถูกแล้ว ฉันกับริสากำลังคบกัน”
“!!!!”
