ดินเนอร์
"คุณออกัสรู้จัก คุณลิตาด้วยเหรอครับ"ทันทีที่ออกจากร้านอาหาร เลขาคนสนิทเอ่ยถามผู้เป็นเจ้านายตัวเองด้วยความแปลกใจ เพราะการกระทำดังกล่าวเหมือนทั้งสองรู้จักกันก่อนหน้า
"อืม รู้จัก รู้จักดีด้วย เดี๋ยวช่วยหาร้านบรรยากาศดี ๆ แล้วโทรจองโต๊ะให้หน่อยนะ เอาแบบส่วนตัวเพราะผมไม่ชอบความวุ่นวาย"ผมตอบพร้อมกับกำชับเรื่องร้านอาหารที่ต้องไปดินเนอร์คืนนี้ด้วย
"ครับผม แล้วคุณออกัสจะเข้าบริษัทเลยหรือเปล่าครับ"เลขาคนสนิทถามเจ้านายหนุ่มด้วยความชิน
"ไม่หละ ไปส่งผมที่คอนโด DD แล้วกัน"
"ครับ"
รถยนต์คันหรูสัญชาติยุโรปขับเข้ามายังลานจอดรถของคอนโด DD โดยมีเลขาหนุ่มอย่างมาแกรนด์ทำหน้าที่เป็นพลขับให้
การย้ายมาอยู่ที่คอนโด DD มีเพียงไม่กี่คนที่ล่วงรู้ถึงการย้ายมาในครั้งนี้ ถึงแม้เลขาคนสนิทยังคงสงสัยว่าทำไมเจ้านายของตนต้องย้ายมาอยู่ที่นี่เพราะคอนโดเก่าก็สะดวกสบายและยังใกล้ที่ทำงานมากกว่า
ชั้นที่ 25 เป็นชั้นที่เจ้าของคอนโดเป็นคนจัดหาห้องให้ เพนท์เฮ้าน์สุดหรู ทั้งชั้นมีเพียงแค่ห้องเดียว จึงทำให้ตัวห้องกว้างมีพื้นที่ใช้สอยได้เยอะกว่าห้องอื่น ๆ
ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ผมยังไม่เคยเจอแมวน้อยของผมเลยสักที มีวันนี้แหละที่ทำให้ผมเจอเธอโดยบังเอิญ และคืนนี้ผมให้เลขาคนสนิท จองโต๊ะสำหรับดินเนอร์ครั้งนี้เรียบร้อยแล้ว
ลิตา
หลังจากแยกกันจากร้านอาหารที่เป็นสถานที่นัดหมายสำหรับคุยเรื่องเซ็นสัญญา ฉันกลับเข้าบริษัทเพื่อเคลียร์งานนิดหน่อย ก่อนที่จะกลับมายังคอนโดเพื่อแต่งตัวไปดินเนอร์ในคืนนี้ ด้วยหัวใจที่สั่นระรัว คาดเดาไม่ถูกว่า เขาจะแค่ชวนฉันดินเนอร์แค่เรื่องงานหรือมีอย่างอื่นแอบแฝงอยู่กันแน่ แต่ก็สลัดความคิดบ้า ๆ ออกจากหัว หันมาเลือกชุดที่จะสวมใส่,...เปิดตู้เสื้อผ้าบิวอินสีขาวที่อยู่ในโซนแต่งตัว ค่อย ๆ เลือกดูชุดทีละชุดอย่างพิถีพิถัน
ชุดไหนดีนะ สายตาค่อย ๆ กลั่นกรองดูชุดทีละชุด อย่างพิจารณาก่อนจะมาหยุดที่....ชุดเดรสสีแดงเพลิง คอปาด อวดเรียวแขนกับลำคอระหง กระโปรงยาวเลยเข่า ถูกหยิบมาทาบบนตัวก่อนที่ฉันจะมองดูตัวเองบนกระจกเงาอย่างพึงพอใจ ชุดนี้แหละน่าจะโอเค
เมื่อได้ชุดที่คิดว่าเหมาะที่จะไปดินเนอร์คืนนี้แล้วจึงหันไปจัดการตัวเอง อาบน้ำแต่งตัว เพราะใกล้จะถึงเวลาที่นัดหมายเอาไว้แล้ว
@ร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศลย่านใจกลางเมือง
ฉันเดินเข้ามาในร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศล มีเสียงเพลงคลาสสิคเปิดคลอเบา ๆ จนมาถึงบริเวณโต๊ะอาหาร
"เชิญครับ"ผมลุกขึ้นยืนบอกแมวน้อยของผมที่เธอมาในชุดเดรสสีแดงเพลิง เปิดโชว์ไหล่ขาวเนียนและลำคอระหง น้ำลายอึกใหญ่ถูกกลืนลงคอผมพยายามอย่างยิ่งที่จะเก็บซ่อนอารมณ์ตัวเองเอาไว้ข้างใน แต่เสียงหวานที่เอ่ยขึ้นมาทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์
"ขอบคุณคะ"เสียงหวานเอ่ยขึ้นขอบคุณคนที่เชิญให้ฉันนั่งลงตามมารยาทก่อนสะโพกสวยจะค่อยหย่อนลงบนเก้าอี้สีขาว
"วันนี้คุณสวยมากเลยครับ"เสียงนุ่มเข้มที่เอ่ยชมพร้อมกับส่งสายตาวิบวับเป็นประกายมาให้ลิตา
"ขอบคุณคะ คุณก็ดูหล่อเหมือนกัน เป็นเกียรติอย่างมากที่คุณชวนฉันมาดินเนอร์ในคืนนี้"ฉันเอ๋ยชมตามความจริงเมื่อคนตัวโตสวมชุดสูทสีเทาเข้มอยู่บนรางกายยิ่งทำให้ ออร่าเปล่งประกายดูดีภูมิฐานผิดกับวันนั้นเสียจริง
อาหารถูกนำมาเสิร์ฟก่อนหน้าแล้ว จานสเต็กเนื้อถูกคนตัวใหญ่หันเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนจะส่งมาให้ฉัน มีไวน์แดงสีสวยอยู่ในแก้วใบใสวางข้าง ๆ จานสเต็กเนื้อ
"คุณดื่มไวน์ได้ใช่ไหมครับ"เสียงทุ้มถามแมวน้อยของผมพลางจ้องมองใบหน้าเรียวสวย เรียวปากสีแดงอวบอิ่มยิ่งมองผมอยากจะมอบจูบหวาน ๆ ลงบนปากสีแดงอวบอิ่มอยากจะช่วงชิมน้ำหวานที่อยู่ภายในปากอวบอิ่ม
"ดื่มได้คะ"เสียงหวานเอ่ยขึ้นบอกคนตรงหน้าก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นจิบเบา ๆ
บรรยายบนโต๊ะอาหารถ้าคนอื่นมองเข้ามาเหมือนกับคู่รักทานอาหารกันอย่างหวานชื่น แต่ผิดกับฉันที่ตอนนี้การกระทำของชายตรงหน้าทำให้ฉันอึดอัด ไม่อึดอัดได้ไงก็พ่อเจ้าเล่นจิบไวน์ พร้อมกับมองหน้าฉันแบบไม่กระพริบตาเลย
"ฉันตกลงมาดินเนอร์กับคุณแล้วหวังว่าคุณจะไม่ลืมสัญญานะคะ"ฉันรีบถามคนด้านหน้าเขามองมาที่ฉันมือใหญ่ยกแก้วไวน์แดงขึ้นจิบก่อนคนด้านหน้าจะบอกฉันในเวลาต่อมา
"ผมจะลืมได้ไงครับ คำไหนคำนั้นผมไม่บิดพลิ้วแน่นอน พรุ่งนี้คุณถือสัญญาเข้ามาหาผมในบริษัทได้เลย ผมว่างเสมอสำหรับคุณ"แก้วไวน์แดงถูกยกขึ้นกระดกจะหมดแก้วเอ่ยตอบแมวน้อยขอผม
เวลาตอนนี้เธอกินสเต็กในจานพร่องไปครึ่งหนึ่งใบหน้าเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อจากฤทธิ์ไวน์แดงมองแล้วอยากจะจับแมวน้อยมาฟัดกอดให้หายหมั่นเคี้ยว
"แต่วันนี้ฉันถือสัญญามาด้วยนะคะ"เสียงหวานเอ่ยบอกบุรุษด้านหน้าตามความจริงเพราะเอกสารสัญญาถูกจัดเตรียมอยู่ในรถเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ออกจากร้านอาหารช่วงบ่าย
"เวลาทานข้าวผมไม่ชอบคุยเรื่องงาน พรุ่งนี้เอามาให้ผมแล้วกัน"เสียงเข้มเอ่ยขึ้นอย่างจริงจังจนลิตาต้องรวบช้อนส้อมวางลงที่จานกรอกตามองบนก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม
"คะ ขอบคุณนะคะ สำหรับอาหารมื้อนี้เสื้ออยู่ที่คอนโดเดี๋ยวฉันเอาไปให้คุณพร้อมกับเอกสารสัญญาวันพรุ่งนี้นะคะ"ฉันบอกคนด้านหน้าดีเหมือนกันเสื้อที่ยืมเขามายังไม่ได้คืนถือโอกาสนี้เอาไปคืนจะได้ไม่ติดค้างอะไรอีก
"ครับ"เสียงทุ้มเข้มเอ่ยรับคำเพียงสั้น ๆ ก่อนที่จะเรียกพนักงานชำระค่าอาหาร
"ให้ผมไปส่งไหมครับ"ผมถามด้วยความเป็นห่วงเพราะแมวน้อยของผมดื่มไวน์ไปหลายแก้วดูจากสีหน้าตอนนี้แดงระเรื่อถึงแม้ท่าทางการเดินจะดูนิ่ง ๆ แต่ผมก็อดเป็นห่วงไม่ได้
"ไม่เป็นไรคะ พอดีฉันขับรถมาเอง"เสียงหวานเอ่ยขึ้นปฎิเสธความหวังดีของคนตรงหน้า
"ถ้างั้น ผมเดินไปส่งที่รถนะครับ"
"คะ"
เราสองคนเดินมาตามทางเดินเพื่อจะมาที่ลานจอดรถ บรรยากาศที่มืดมีเพียงแสงสว่างจากหลอดไฟติดตามเสาไฟเท่านั้น จนมาถึงรถฉันเปิดกระเป๋าสะพานเพื่อหากุญแจ แต่หูฉันกับได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลัง ฉันหันไปตามเสียงเรียก
"น้องกุ้งนาง อ๋อ น้องลิตา จริง ๆ ด้วย พี่มองมาแต่ไกล ๆ มองตั้งนานว่าใช่หรือเปล่า พี่เลยเดินเข้ามาดูใกล้ ๆ เป็นน้องจริง ๆ ด้วยน้องแต่งตัวแบบนี้สวยมากเลยนะครับว่าแต่...มาทานข้าวเหรอครับ"
"ใช่คะ พี่สิทมาทานข้าวเหมือนกันเหรอคะ"ฉันตอบพี่สิท ที่เป็นลูกชายเพื่อนของแม่ตามมารยาท ฉันเคยไปทานข้าวกับพี่เขาสองสามครั้ง เพราะแม่ฉันเป็นคนนัดให้ ทำให้ฉันต้องจำใจไปทานข้าวด้วยแบบไม่เต็มใจ
"ใช่ครับ พี่มาทานข้าวกับเพื่อน แล้วคนนี้ใครครับ"ชายหนุ่มเอ่ยถามลิตาเมื่อสายตาไปสะดุดกับชายร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลาที่ยืนข้าง ๆ ลิตา ที่ทำหน้าไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่
"คุณออกัสเจ้าของบริษัทขนส่งคะ คือบริษัทของลิตากำลังจะเซ็นสัญญาเพื่อที่จะใช้บริการบริษัทของคุณออกัสคะ"ฉันตอบตามความเป็นจริง
"อ๋อ พี่ก็นึกว่าเป็นแฟนลิตา พี่คิดว่าตัวเองอกหักซะแล้ว/สวัสดีครับคุณออกัสผมสิทธิชัยคนสนิทของลิตา"ชายหนุ่มเอ่ยสวัสดีอย่างเป็นมิตร
ขณะออกัสไม่เอ่ยตอบอะไรออกมาใบหน้าเรียบนิ่งเย็นช้าจนคนที่เข้ามาทักเริ่มรับรู้ได้ว่าชายหนุ่มไม่พอใจ ที่เขาทักทายอยากทำความรู้จัก
..............
ผมมองชายที่บอกเป็นคนสนิทของลิตาด้วยใจที่ร้อนรุ่มเหมือนเพลิงไฟสุมอยู่ในอกอยากจะกระชากคอเสื้อมันแล้วตะบันหน้ามันสักยกผมไม่ชอบเลยกับคำพูดที่ดูสนิทสนมกับแมวน้อยของผม
"พี่สิทธิ์พูดอะไร ไม่ใช่นะคะพี่เขาเป็นคนรู้จักคะ"ฉันตกใจกับคำพูดที่จู่ ๆ พี่เขาก็พูดขึ้นมาแบบนั้น จริงอยู่ที่เราเคยไปทานข้าวด้วยกันแต่ทุกครั้งที่ไปทานข้าวจะเป็นคุณแม่มากกว่าที่จะเป็นตัวกลางในการนัดหมาย จนบ้างครั้งถึงขั้นรำคาญก็มีแต่ด้วยความเป็นแม่เลยไม่กล้าที่จะขัดใจแม่ จึงจำใจต้องไปทานข้าว
"ไม่ต้องเขินหรอกพี่เชื่อว่าสักวันน้องลิตาต้องใจอ่อนแน่ๆ"ชายหนุ่มยังไม่หยุดพูด จนลิตาต้องรีบตัดบทสนทนาด้วยความรำคาญใจ
"ลิตาขอตัวกลับเลยนะคะ คุณออกัส พี่สิทธิ์"ฉันเอ่ยลาชายหนุ่มทั้งสองก่อนที่มือเรียวจะเปิดประตูรถเพื่อที่จะขับรถกลับคอนโด
"ครับ ขับรถดี ๆ นะครับ พี่เป็นห่วง"สิทธิชัยตะโกนบอกลิตาขณะที่รถเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถแบบช้า ๆ ก่อนที่จะหันมาเอ่ยกับออกัส
"ผมขอตัวเหมือนกันนะครับ"สิทธิชัยยังเอ่ยด้วยวาจาสุภาพก่อนที่จะหันหลังเพื่อสาวเท้าไปที่รถของตนเองเช่นกัน
