บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2-3

เหลืออีกแปดคน หยางต้าหลงไม่รอช้าให้พวกมันจู่โจม เขาเป็นฝ่ายรุกเองด้วยการเข้าไปประกระบี่กับพวกมัน

เสียงกระบี่เสียดสีแหวกสายลมกันไปมา หยางต้าหลงสังหารพวกโจรป่าตายลงไปทีละคน ร่างพวกมันล้มลงดุจใบไม้ร่วง แต่ขณะเดียวกันพลังลมปราณที่งัดมาใช้เกือบหมดก็ทำให้หยางต้าหลงพลาดท่าโดนคมกระบี่ฟันใส่ไหล่ไปแผลหนึ่ง

หยางต้าหลงขบกรามแน่น กำด้ามกระบี่เมฆาเคลื่อนในมือแล้วเข้าสู่ต่อ เพราะถ้าหากเขาเผลออ่อนแอให้พวกมันเห็น มันต้องเร่งรุกเข้าใส่เขาเป็นแน่

ขณะที่ทางด้านเกี้ยวเจ้าสาว ศิษย์ในสำนักคุ้มภัยเป่าจินจงก็สู้จนสังหารพวกมันได้หมด แต่ก็บาดเจ็บไม่น้อยเพราะวิทยายุทธ์ของพวกโจรป่านั้นสูสี ทำเอาศิษย์ที่เหลือรอดจากการต่อสู้จำนวนสี่คนได้แต่นอนเอามือกุมบาดแผลที่กระจายอยู่เต็มตัว

“ข้าซวยแล้ว! เพราะเจ้านั่นแหละกระต่ายน้อย ไม่ใช่งิ้วสักหน่อยคนกำลังฆ่ากัน” นางหันไปมองแต่เจ้ากระต่ายขนปุยหายไปแล้ว “ไปไหนแล้วเจ้ากระต่าย เอาตัวรอด ทิ้งข้า”

แวบหนึ่งหยางต้าหลงหันไปเห็นหญิงงามร่างเล็กเขาไม่แน่ใจนักว่านางอายุถึงสิบห้าปีหรือไม่แต่เกรงว่านางจะได้รับผลกระทบไปด้วย เขาขี้เกียจเก็บหัวสวยๆ ของนางไปตามหาพ่อแม่

“แม่นางน้อย เจ้ามาวิ่งเล่น เพ่นพ่านอะไรแถวนี้ ไม่ใช่เรื่องของเจ้า รีบไสหัวไปซะ”

ฮุ่ยชิงยกมือปิดปากซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ บุรุษร่างกำยำใบหน้าคร้ามคมคนนั้นช่างตาดีนักมองเห็นนางด้วย หรือว่าความสวยของนางถูกต้นไม้ใหญ่ซ่อนไม่มิดเลยกระแทกตาเขา

นางเอ่ยเบาๆ เพราะเกรงว่าพวกที่กำลังฟาดฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตายจะมองเห็นนางด้วย

“ใครว่าข้ามาวิ่งเล่น ข้ามาเก็บสมุนไพร งั้นข้าไปดีกว่า เชิญสู้กันต่อไปนะ เรื่องนี้ข้าไม่เกี่ยว”

ร่างเล็กมองหาทางหนีทีไล่กำลังหาทางเร้นกายออกไปให้พ้นความตายที่นางไม่ควรผ่านเข้ามาเจอ

แต่แล้วนางก็ได้ยินเสียงของบุรุษนอนร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดอยู่ดังขึ้น นางหันกลับมามอง ยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่งไม่กล้าผลีผลามวิ่งไปเพราะกลัวถูกสังหารไปด้วย นางมองไปใกล้ๆกันมีร่างชายในชุดดำโพกผ้าปิดใบหน้าเห็นแต่ดวงตานอนตายอยู่ น่าจะเป็นโจรป่ามาดักชิงสมบัติของขบวนเกี้ยวเจ้าสาวดูจากขบวนเกี้ยวแล้วเจ้าสาวไม่ใช่คนธรรมดา

“งานยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพคนตาย ข้าว่าตายได้อีกเยอะเลย”

เท้าเล็กๆวิ่งตรงไปยังคนที่นอนเจ็บ นางมองเห็นอีกด้านยังมีการต่อสู้กันอยู่ แต่เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก็ทำให้ฮุ่ยชิงไม่กล้าทิ้งคนเจ็บไว้ นางวางตะกร้าลงมองสำรวจบาดแผล เห็นเลือดออกตรงช่องท้อง นางมองเขาแวบหนึ่งคิดว่าจะช่วยดีหรือวิ่งหนีไปให้เร็ว นางคว้าตระกร้าสมุนไพรกำเอาไว้แน่น

“ไม่ใช่เรื่องของข้า ข้าไม่ควรยื่นมือเข้ามายุ่ง”

ทว่าจิตสำนึกฝ่ายดีทำให้นางวางตระกร้าอย่างอ่อนใจ

“ข้าไม่ได้ใจดี แต่ข้าใจอ่อน” ร่างอ้อนแอ้นถอนใจยาวพรืด คนที่นอนจมเลือดมีร่างแข็งแกร่งใหญ่โตเปี่ยมด้วยพลังของบุรุษ เขาปราดมองนางที่คิดจะวิ่งไปแล้วย้อนกลับมา

“ท่านมีเลือดออกมาก ข้าจะช่วยห้ามเลือดให้” ฮุ่ยชิงบอกแล้วรีบหยิบสมุนไพรห้ามเลือดที่นางเพิ่งเก็บออกมา ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ อย่างชำนาญจากนั้นก็ฉีกเสื้อคนป่วยออก เลือดสดๆไหลซึมออกมาพร้อมกับกลิ่นคาว ฮุ่ยชิงมองซ้ายขวาจะหาผ้าสะอาดแต่ไม่เห็นอะไรเลย นางจึงฉีกชายกระโปรงส่วนที่สะอาดไม่เปื้อนดินโคลนขึ้นมา

“แม่นางช้าก่อน เหตุใดเจ้าจึงฉีกชายกระโปรงออก”

“เจ้าทึ่ม ถามได้ เจ้านี่ช่างไม่รู้อะไร”

คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อยในเมืองเกาซานมีใครกล้าเหิมเกริมบังอาจเรียกเขาว่าเจ้าทึ่ม

“ข้าจะเช็ดปากแผลให้ ไม่อยากตายหุบปากซะ ถึงกระโปรงข้าจะเก่าไปหน่อย แต่สะอาดรับรองได้”

นางดุเขาแล้วค้อนปะหลับปะเหลือกราวกับเขาไม่รู้ความ “เจ้าทำแผลเป็นเหรอ”

“เงียบเถอะ ข้าไม่ใช่หมอก็จริงแต่ตอนนี้ท่านไม่มีสิทธิ์เลือก จะให้ข้าช่วยห้ามเลือดให้หรือไม่ ถ้าไม่ท่านก็รอหมอจริงๆมาดูเถอะแต่ก็ไม่รู้ว่านานแค่ไหน”

“ช่วยข้าด้วยเถอะ” ไม่คิดเลยว่าคนมีฝีมืออย่างเขาจะพลาดได้ถึงเพียงนี้เพราะความไม่ระวังจึงถูกจู่โจมทั้งที่ท่านประมุขสั่งให้เตรียมพร้อมตลอดเวลา

“ข้าช่วยท่าน แต่ท่านต้องซื้อสมุพนไพรของข้า”

นางเป็นคนประเภทไหนกัน เสียสติ ฟั่นเฟือน หรือเป็นคนดีที่มีแผนการร้ายเขามองนางไม่ออก สีหน้าคึกคักดูมีชิวิตชีวาไม่เกรงกลัวเลือดที่ไหลทะลักของฮุ่ยชิงชี้ไปที่ตะกร้าสีหน้านางเต็มไปด้วยความหวัง

“ข้าขายไม่แพง”

หน้าสิ่วหน้าขวานกลางคนเข่นฆ่ากันแม่นางน้อยคนนี้ยังคิดขายสมุนไพรของนาง “ตกลงซื้อก็ซื้อ ช่วยข้าเถอะ”

นางพูดไปเรื่อยเปื่อยเพื่อไม่ให้เขาเผลอมองบาดแผล ทั้งที่มือทำแผลและฉีกสมุนไพรไม่หยุด

“สมุนไพรของข้าเก็บมาสดใหม่ มันจะช่วยให้แผลของท่านดีขึ้น”

มารดาของนางเป็นบุตรสาวของหมอเทวดา ท่านตาของนางไม่สนใจเรื่องการทำอาหารอย่างคนในตระกูลจึงเรียนรู้เรื่องสมุนไพรอย่างแตกฉาน มารดาพร่ำสอนเสมอว่ารู้วิชาแพทย์ไว้เพื่อช่วยเหลือคน หาไม่แล้ววิชาแพทย์ก็ไร้ประโยชน์แต่น่าแปลกโรคที่มารดานางเป็นกลับยังรักษาไม่หายน่าจะเป็นเพราะมารดาของนางตรอมใจมานานเกินไป

ฮุ่ยชิงเลิกคิดถึงเรื่องมารดา แล้วเร่งโปะยาสมุนไพรพันแผลเสร็จ ก็วิ่งไปช่วยเหลือบุรุษอีกสามคนที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระบี่แทงเช่นกัน แต่แผลสาหัสไม่เท่ากัน คนที่ได้รับบาดเจ็บที่ช่องท้องคนนั้นสาหัสที่สุดแล้ว ส่วนคนอื่นๆถูกแทงตามลำตัวและแขนขา ซึ่งนางก็ฉีกชายกระโปรงออกจนร่นขึ้นมาเกือบถึงหัวเข่าแล้ว

“กระโปรงข้าขาดวิ่นแบบนี้ เห็นทีท่านพ่อพบเข้าคงนึกว่าข้าไปฟัดกับ...” นางหยุดพูดแล้วลงมือช่วยคนต่อ

“ขอบคุณแม่นางมาก ข้าขอทราบชื่อท่านได้หรือไม่” บุรุษคนสุดท้ายที่บาดเจ็บที่แขนและขาถาม

“ข้าชื่อกุ้ยฮุ่ยชิง”

ฮุ่ยชิงบอกได้แค่นั้นก็ต้องรีบหันไปมองด้านหลัง เพราะตอนนี้เสียงฟาดฟันดังใกล้เข้ามา นางหันไปก็เห็นบุรุษใบหน้าหล่อเหลาคร้ามคมคนนั้นที่ไล่นางให้หนีไปกำลังขับเคี่ยววิทยายุทธ์กับโจรป่า ต่อสู้กันอย่างไม่มีใครยอมใคร หมายมาดจะเอาชีวิตอีกฝ่ายให้ได้

ฮุ่ยชิงรีบประคองคนป่วยที่ขวางการต่อสู้หลบ แม้จะยากลำบากแต่ก็ทำให้พ้นวิถีการต่อสู้ที่ดุเดือด

หยางต้าหลงเกือบเสียสมาธิเพราะเห็นแม่นางน้อยจอมยุ่งคนนั้นเข้ามาช่วยคนในสำนักของเขา ใจนางเด็ดนักไม่เกรงกลัว แต่เพียงแวบเดียวหยางต้าหลงก็เรียกสมาธิกลับคืนมา

“วันนี้คือวันตายของเจ้า” โจรป่าคำราม

หยางต้าหลงยิ้มเย็น เขาชี้ปลายกระบี่เมฆาเคลื่อนไปที่คนพูด “อย่ามัวแต่พูดมาก ถ้าอยากฆ่าข้าก็รีบเข้ามา”

ฮุ่ยชิงได้ยินคำพูดที่ทั้งสองพูดกันแล้วในใจหนาวเหน็บ กลัวโจรป่าจะฆ่านางด้วยอีกคน นางเอ่ยเบาๆ “ข้าไม่เกี่ยวนะข้าแค่ผ่านมา”

“แม่นางกุ้ยไม่ต้องกลัว ท่านประมุขของเราฝีมือเก่งกาจที่สุดต่อให้มีคนนับร้อยเข้ามาพร้อมกัน เขาต้องเอาชนะโจรป่าได้แน่” ชายที่นางช่วยไว้กล่าว

“ท่านแน่ใจใช่ไหม ข้าไม่อยากตายอยู่ที่นี่”

“อืม แน่ใจ ถ้าข้าระมัดระวังมากกว่านี้เรื่องนี้คงไม่เกิด”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel