บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2-2

ที่จริงนางปลูกสมุนไพรไว้บริเวณใกล้เรือนพักแต่เมื่อหลายวันก่อนมีชายชราผมขาวเป็นลมอยู่หน้าจวน นางช่วยเขาเอาไว้ชายคนนั้นบอกแก่นางว่าลงจากเขาเข้าเมืองมาหาซื้อสมุนไพร นางเห็นว่าสมุนไพรที่ชายชราต้องการจะซื้อนางปลูกไว้จึงนำมันให้ชายชราไปโดยไม่คิดราคาเพราะสงสารที่อยู่ตัวคนเดียวไม่มีเมียไม่มีลูกดูแล ชายคนนั้นบอกจะดูดวงให้ฟรีฮุ่ยชิงปฏิเสธแต่เขายืนกรานว่าดูแม่นยำนักครั้งหนึ่งเขาเคยทำงานอยู่ในวัง

นางจึงตัดรำคาญยอมให้เขาดู ชายชราตรวจดวงนางพลันสายตาตื่นตะลึง แล้วบอกนางว่าวาสนานางสูงส่ง ฮุ่ยชิงแทบหลุดขำ ชายชราคงเลอะเลือน ร่างเล็กคิดเรื่องขบขันพลางหัวเราะเบาๆ

“ข้ามีวาสนาสูงส่งจริง คงไม่ต้องมานั่งเก็บสมุนไพรไปขายแบบนี้หรอก”

สมุนไพรพวกนี้นอกจากนำไปใช้เอง ที่เหลือนางจะนำไปขาย นางหาเงินทุกทางเพื่อให้มารดาได้มีของกินดีๆ เพื่อบำรุงร่างกายบ้าง ขณะกำลังจะเดินกลับแต่นางหันไปเห็นกระต่ายป่าตัวน้อยสีขาวน่ารักตัวหนึ่งเข้า กระต่ายน้อยกำลังจ้องมองนางอยู่ราวกับจะชวนไปวิ่งเล่น

ฮุ่ยชิงส่ายหน้า “ข้าไปวิ่งเล่นกับเจ้าไม่ได้หรอกกระต่ายน้อย ข้าต้องรีบกลับบ้าน วันนี้ท่านพี่เหมยลี่จะมาเยี่ยมบ้าน ข้าต้องรีบกลับไปคารวะ”

นางว่าแล้วก็เตรียมจะหมุนตัวเดินกลับ แต่เจ้ากระต่ายน้อยสีขาวปุกปุยที่ดูจะรู้เรื่องเกินเหตุ กลับวิ่งเข้าหานาง

“เอ๊ะ ยังไงกัน เจ้ากลับไปหาครอบครัวเจ้าเถอะ ถ้าหากมีพวกพรานล่าสัตว์มาเจอ ต้องจับเจ้าเป็นอาหารแน่” ฮุ่ยชิงย่อตัวลงนั่งคุยกับกระต่าย แต่มันก็ไม่ยอมไปไหนมิหนำซ้ำมันยังวิ่งเข้ามาคลอเคลียกับเท้าของนาง

“ไม่วิ่งหนีข้าแบบนี้ เป็นอาหารของข้าดีหรือไม่” นางหยอกมันเล่นเท่านั้น แต่กระต่ายน้อยสัมผัสถึงความอ่อนโยนจากท่าที่ของนางได้ เจ้าขนปุยจึงไม่กระโดดไปไหน

แต่ความผิดปกติทำให้มันกลับถอยหนี แล้ววิ่งไปอีกทาง ด้วยความสงสัยแกมอยากรู้ว่าเจ้ากระต่ายน้อยจะสื่อสารอะไร นางจึงวิ่งตามเจ้ากระต่ายน้อยไปอย่างไม่รู้ตัว

“เกิดอะไรขึ้นเจ้ากระต่ายน้อย เป็นอะไรเล่า”

ร่างเล็กที่วิ่งตามมาได้สักพัก เม็ดเหงื่อก็เริ่มผุดพรายขึ้นเต็มกรอบหน้าผาก ฮุ่ยชิงหยุดวิ่งแล้วยกมือปาดเหงื่อ

“รอข้าด้วยเจ้าเห็นข้าหน้าเหมือนเจ้าหรือไง เจ้าขนปุย ข้าไม่ใช่กระต่ายจะได้วิ่งตามเจ้าทัน”

มันสนใจคำของนางเสียไหน ใช่แล้วมันฟังนางไม่เข้าใจ ร่างอ้อนแอ้นแก่นเซี้ยววิ่งตามไปอย่างปราดเปรียว

“ข้าเหนื่อยแล้ว ข้าไม่มีเวลามาวิ่งเล่นกับเจ้าแล้ว ถ้าอยากชวนข้าวิ่งเล่นก็ไว้วันหน้าเถอะ”

ฮุ่ยชิงมองพระอาทิตย์บนท้องฟ้าที่เคลื่อนจากบริเวณศีรษะไปทางทิศตะวันตกก็ร้อนใจ เพราะแสดงว่าเลยยามอู่ไปมากแล้ว นางตัดสินใจจะวิ่งกลับทว่าหูของนางได้ยินเสียงกรีดร้องสลับกับเสียงต่อสู้ดังแว่วอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

“นั่นเสียงอะไร หรือใครจ้างพวกงิ้วเข้ามาเล่นในป่า” นางพูดออกไปเช่นนั้นแต่ดวงตาเคลือบความระแวงสงสัย

อีกด้านหนึ่ง

“คุ้มกันเกี้ยวเจ้าสาวอย่าให้เจ้าสาวเป็นอะไรเด็ดขาด”

หยางต้าหลงสีหน้าเคร่งเครียด ดำทะมึนด้วยความโกรธจัด เขากำลังขี่ม้านำขบวนเกี้ยวเจ้าสาวผ่านป่าไผ่ที่รกทึบ จู่ๆก็มีโจรป่านับสิบคนกรูกันเข้ามาขวางหน้าขบวนเกี้ยว พวกมันมีคนมากพร้อมอาวุธครบมือ หนำซ้ำลงมืออย่างรวดเร็วจนเขาเกือบตั้งรับไม่ทัน พวกมันฆ่าสาวใช้และบ่าวผู้ชายตายหมด เหลือแต่คนในสำนักคุ้มภัย

ฝีมือกระบี่พวกมันไม่ธรรมดา จัดอยู่ในกระบวนท่าสูงส่ง จนหยางต้าหลงตะโกนสั่งศิษย์ในสำนัก

“ปกป้องเจ้าสาวในเกี้ยวด้วยชีวิต”

“ขอรับท่านประมุข”

หยางต้าหลงยกมือปาดเหงื่อ คุ้มครองความปลอดภัยคนครั้งนี้นับว่าเป็นอีกงานหนึ่งที่ต้องเสี่ยงชีวิต แต่เมื่อรับงานมาแล้วก็ต้องยอม ดวงตาเฉียบคมกวาดมองศิษย์ในสำนักคุ้มภัย บาดเจ็บไปห้าคน ล้มตายไปหนึ่งคน ยังเหลือต่อสู้กับพวกโจรอีกสี่คน แต่โจรมีมากถึงยี่สิบคนต่อให้พวกเขามีปีกก็ยากจะบินหนี พวกคนคุ้มภัยที่บ้านเจ้าสาวที่จ้างมาต่างหากต่างตายเกลื่อนดังใบไม้ปลิดปลิวไปหมด

หยางต้าหลงยืนอยู่กลางวงล้อมโจรป่าท่าทางเด็ดเดี่ยว ใบหน้าหล่อเหลายังสงบนิ่ง ไม่มีแวววิตกพาดผ่าน เขาเหลือบตาเพียงนิดเดียว มองให้แน่ใจว่าเจ้าสาวยังอยู่ในเกี้ยวอย่างปลอดภัยไม่มีโจรป่าคนไหนไปยุ่ง แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว คนยังไม่ตายนับว่างานยังสำเร็จอยู่

“เจ้ายอมแพ้พวกเราเถอะท่านประมุขหยาง สิบต่อหนึ่งยังไงท่านก็เอาชนะเราไม่ได้”

หยางต้าหลงเดาว่าคนที่พูดน่าจะเป็นลูกพี่ของพวกมัน เขาแค่นยิ้มเย็นชาครั้งหนึ่ง แต่แค่นั้นก็ทำให้คนมองขนคอตั้งชัน

“ว่ายังไง ยอมแพ้เถอะ ส่งตัวเจ้าสาวกับสมบัติมาให้พวกเราเดี๋ยวนี้”

“พวกสมองสุกร ตาสุนัข ข้าไม่มีวันให้ในสิ่งที่พวกเจ้าต้องการ ต่อให้พวกเจ้ามามากกว่านี้ข้าก็ไม่กลัว” หยางต้าหลงถีบตัวขึ้นกลางอากาศอย่างรวดเร็ว ปลายเท้าแตะกิ่งไม้ครั้งหนึ่ง ก็วาดกระบี่เมฆาเคลื่อนเข้าใส่พวกมัน ที่ไม่ทันแม้แต่จะได้กะพริบตา

สามคนถึงกับทรุดล้มลงกับพื้น เลือดที่ลำคอพุ่งกระฉูดเป็นสายน้ำหลาก เพราะคมมีดเมฆาเคลื่อนนั้นบางแต่คมกริบแถมยังแข็งแรง หาอาวุธใดเปรียบได้ยาก อีกทั้งพลังข้อมือของหยางต้าหลงทั้งหนักแน่น ว่องไว ลงกระบี่ครั้งเดียวตายไปสาม

“อ๊า”

เสียงคนที่เหลือร้องออกมาพร้อมกันด้วยความตกใจปนหวาดกลัว เทพเจ้าหน้าหยกคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว พวกมันต่างคิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธ์ของเจ้าสำนักคุ้มภัยเป่าจินจงที่ได้ยินแต่เพียงคำเล่าลือจะร้ายกาจถึงเพียงนี้

“พวกเจ้าเข้ามาพร้อมกันให้หมดนี่ ข้าไม่อยากเสียเวลา” หยางต้าหลงคำรามครั้งเดียว วาดกระบี่ออก ดวงตาเฉียบคมย้อมไอสังหารจ้องมองที่ศัตรูเบื้องหน้าเขม็ง

พวกมันมองหน้ากัน แล้วพยักหน้าอย่างหวาดๆจะหนีก็หนีไม่ได้ จะสู้ก็ตายแต่มาถึงตอนนี้ ตายเป็นตาย จากนั้นก็กรูเข้าใส่เป้าหมายพร้อมกัน ค่าหัวของหยางต้าหลง รวมทั้งทรัพย์สมบัติที่จะได้จากการปล้นชิงครั้งนี้มากพอที่จะทำให้พวกมันขวัญกล้าเทียมฟ้า ประจันหน้ากับเทพสวรรค์ที่แม้ยืนอยู่หนึ่งเดียวก็ยังกล้าต่อกรกับคนสิบคนไม่หวาดหวั่น

หยางต้าหลงใช้กระบี่รับการฟาดฟันจากโจรป่าที่กระโดดลอยตัวมาจากด้านบนหมายจะตัดหัวของเขา เขารับด้วยตัวกระบี่จากนั้นก็สะบัดข้อมือเปลี่ยนจากการตั้งรับเป็นแทงกลับแต่มันใช้วิชาตัวเบาเตะเท้ากลางอากาศหลบคมกระบี่ได้ทัน

แต่หยางต้าหลงไม่มีเวลาหายใจเมื่อพวกโจรที่รอจังหวะทีเผลอก็พุ่งปลายกระบี่แหลมคมเข้าหาลำตัวของเขา เขาเอี้ยวตัวหลบแต่เอวก็ถูกถากไปทีหนึ่งจนเลือดซิบ

เขามองแผลที่เอวครั้งหนึ่งก่อนมองประเมินไปที่พวกโจร ในสถานการณ์นี้เขาจะประมาทไม่ได้ พวกมันยังเหลือนับสิบคนและเหมือนเลือดเข้าตาจนสู้ไม่กลัวตาย ส่วนอีกด้านศิษย์ในสำนักก็กำลังคุ้มภัยเจ้าสาวในเกี้ยวอย่างเต็มที่ สู้ไปสู้มาเหลือสี่ต่อสี่นับว่ายังพอรับมือได้

ดวงตาคมกริบเริ่มสงบนิ่งได้แล้วหันมามองศัตรูตรงหน้า วิทยายุทธ์ของเขาไม่ใช่เพิ่งฝีกปรือ แต่เขาฝึกปรือมาตั้งแต่ห้าขวบนับรวมเวลาก็ยี่สิบปี ผ่านการฆ่าคนมาไม่น้อย ศัตรูตรงหน้านับเป็นอะไรได้

หยางต้าหลงก้าวเท้าตั้งท่ารอรับการจู่โจม โจรป่าที่ต้องการสังหารเป้าหมายให้สิ้นซากวิ่งเข้าใส่พร้อมกัน พวกมันแทงกระบี่เข้าใส่หยางต้าหลง แต่แทงได้เพียงอากาศ เพราะหยางต้าหลงกระโดดแหวกอากาศขึ้นสูงแล้วหันมาฟันใส่พวกมันล้มไปสองคน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel