ตอนที่ 4
เพลงกลอนเลือกซื้อของเข้าห้องอย่างสนุกสนานเพลิดเพลินมากเพราะของที่นี่ไม่แพงและสวยๆ ทั้งนั้น เธอได้ทั้งของที่ต้องการและเสื้อผ้า รองเท้า ของแต่งตัวอีกมากมาย ไม่มีทีท่าว่าจะเลิกซื้อจนนภัทรต้องเบรกไว้ก่อนที่จะหอบกลับห้องกันไม่ไหว
“กลอนลืมหรือเปล่าว่าเรามารถเมล์นะ”
“จริงด้วยกลอนลืมไปเลยแล้วจะทำยังไงดีล่ะคะของเยอะแบบนี้เขาจะให้เราขึ้นรถมั้ยคะพี่นาย” เธอหันมาถามเขาแววตาเริ่มเป็นกังวล
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันต้องลองดูถ้าไม่ให้ขึ้นก็ต้องเดินกลับไม่ไกลหรอกแค่หกป้ายเอง” สีหน้าของกชกรซีดลงทันทีที่เขาบอกว่าต้องเดินกลับ นภัทรกลั้นเสียงหัวเราะไว้แทบไม่อยู่ คนอะไรแกล้งง่ายชะมัด เรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้
“กลับกันเถอะค่ะพี่นายกว่าจะเดินถึงห้องดึกกันพอดี” กชกรทำเสียงเศร้า เธอต้องเดินกลับจริงๆ หรอ 6 ป้ายรถเมล์นั่งรถก็ไม่ไกลหรอกแต่เดินนี่สิไกลมากเลยนะเธออยากจะร้องไห้ไม่น่าเห็นแก่ของถูกซื้อซะเยอะขนาดนี้เลย
“นี่ไม่รู้จริงๆ หรอว่าขึ้นรถเมล์ได้” เขาเฉลยเพราะสงสารสาวน้อยตาแดงๆ ยืนทำท่าจะร้องไห้
“นี่พี่นายแกล้งหนูหรอ” กชกรหันมาถามเขาเสียงดุ แต่เขากลับหัวเราะสียงดัง ดุที่สุดแล้วสำหรับเธอ แต่สำหรับเขาหาได้กลัวไม่เสียงยังกับลูกแมวร้อง
“เอาน่าขำๆ กลับเถอะมืดแล้วยังจัดห้องไม่เสร็จไม่ใช่หรือไง”
“ใช่สิคะ ลืมไปเลยว่ายังจัดห้องไม่เสร็จ เอางี้ดีกว่าไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วพี่นายไปช่วยหนูจัดของแล้วกันเดี๋ยวเลี้ยงข้าว” เธอเสนอเขาด้วยแววตาออดอ้อนตามความเคยชินที่ทำกับพ่อ แม่ บ่อยๆ อีกฝ่ายมองตาค้างไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนอ้อนได้น่ารักขนาดนี้มาก่อนทำเอาใจเต้นไม่เป็นจังหวะเขารีบตั้งสติ
"ทีเมื่อเย็นบอกจะช่วยยังไม่ไว้ใจเค้าอยู่เลยตอนนี้จะให้เข้าช่วยแล้วหรอ" เขาบอกเสียงกวนๆ ยิ้มๆ อารมณ์ดี
“ก็ตอนนั้นยังไม่รู้จักนี่คะแต่ตอนนี้รู้จักแล้วอุตสาห์พามาซื้อของ ถือของให้ขนาดนี้พี่คงไม่ทำอะไรหนูหรอกใช่มะหนูไว้ใจพี่ได้จริงปะ”
“อืมไว้ใจพี่ได้คนเดียวนะคนอื่นต้องระวังไว้ล่ะ” เขาบอกแล้วเตือนเธออย่าไว้ใจใครง่ายๆ เขาเริ่มกลัวการไว้ใจคนง่ายของเธอเสียแล้วสิ ไว้ใจเขาเป็นเรื่องดีแต่ถ้าไว้ใจคนอื่นล่ะเขาไม่อยากจะคิด
หลังจากที่นภัทรช่วยกชกรจัดของในห้องเรียบร้อยแล้วทั้งคู่จึงชวนกันออกมาทานก๋วยเตี๋ยวมื้อเย็นกันจะเรียกมื้อเย็นก็ไม่ถูกนักเพราะนี่เกือบ4 ทุ่มแล้วเรียกว่ามื้อดึกจะดีกว่า
"ขอบคุณนะคะพี่นาย" กชกรบอกเขาขณะนั่งทานก๋วยเตี๋ยวด้วยกัน
"ไม่เป็นไรครับแค่นี้เอง" เขาตอบแล้วยิ้มให้เธอ ยิ้มแบบที่ใครเห็นต้องแทบละลายกันเลยทีเดียวตัวเธอเองก็เช่นกันก็ไม่รู้ทำไมถึงได้แพ้รอยยิ้มของเขา
ติ้ง!!! เสียงไลน์ของกชกรดังขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่พ่อซื้อให้เมื่อวันก่อนเป็นของขวัญเข้ามหาวิทยาลัย
กรด... "เจ้นอนยัง"
กลอน... "ยัง...แล้วกรดยังไม่นอนอีกหรือไงดึกแล้วนะ"
กรด... " ยัง ไอแกรนด์มันให้มานอนด้วยมันบอกเหงา"
กลอน... " แล้วแกรนด์ล่ะ"
กรด... "หลับไปตั้งนานแล้วปล่อยให้ผมเหงาอยู่คนเดียวเนี่ย"
กรด... "เจ้ไม่อยู่เหงามากๆ คิดถึงเจ้อะ"
กลอน..."เดี๋ยวเจ้โทรหา กินก๋วยเตี๋ยวก่อนเพิ่งจัดห้องเสร็จหิวมาก"
กรด..."โหน่าสงสารเจ้ รีบกินรีบโทรมานะเหงา"
กชกรกดโทรศัพท์ไปยิ้มไป ทำให้นภัทรอดสงสัยไม่ได้ว่าคุยกับใคร ใจออกหงุดหงิดแต่ต้องระงับอารมณ์ไว้ เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมถึงรู้สึกแบบนี้ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย
"แฟนหรอ ยิ้มใหญ่เลย" เขาถามทันทีที่เธอวางโทรศัพท์ลง
"ไม่ใช่ค่ะแต่คนนี้กลอนรักมาก หวงมากที่สุดผู้ชายคนนี้" เธอบอกอย่างอารมณ์ดีแล้วทานก๋วยเตี๋ยวต่อ แต่อีกฝ่ายที่ได้ฟังรู้สึกเจ็บที่ใจแปลบๆ
หลังจากทานก๋วยเตี๋ยวเสร็จระหว่างเดินกลับหอพัก เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาน้องชายทันที โดยมีนภัทรเดินเคียงข้าง
