บทที่ 5
“คุณย่ามาตั้งแต่เมื่อไรครับ ทำไมผมไม่รู้” ธาดาถามอย่างเอาใจ แม้ยังไม่อยากตื่นแต่ก็จำใจต้องลุกเพราะเกรงใจ
“มาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พ่อเราไปรับมา”
“อยู่หลายๆ วันนะครับ ผมคิดถึงคุณย่า” หลานชายตัวดีปากหวาน จับมือของหญิงชราขึ้นมาหอมแล้วแนบไว้ที่แก้ม
“แหม เจ้าสอง พูดยังกับว่ารังสิตกับอยุธยากันไกลกันมานะ คิดถึงแล้วทำไมไม่ไปหาล่ะ” คุณย่าประชดเล็กน้อย
“ผมงานยุ่งนี่ครับ ถึงจะไม่เท่าพี่หนึ่งแต่ก็ไม่ต่างกันสักเท่าไร”
“เจ้าสองลุกมาคุยกับย่าก่อน” คุณย่าถมดันให้ชายหนุ่มลุกขึ้นมานั่งคุยให้เป็นเรื่องเป็นราว
“มีอะไรครับคุณย่า” ธาดาพยายามฝืนดวงตาไว้ ทั้งที่อยากจะหลับเต็มแก่
“ได้ข่าวว่า เรากลับไปคบแฟนเก่าเหรอ”
“คนไหนครับ” หลานชายยียวนทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“ก็คนที่ทิ้งสองของย่าไปแต่งงานกับฝรั่งนั่นไง” น้ำเสียงคุณย่ามีแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ปลายฟ้าน่ะเหรอครับ คุณย่า” ธาดาหัวเราะเบาๆ นี่เรื่องเขากับปลายฟ้าดังไปถึงอยุธยาเชียวหรือ
“จะปลายฟ้าปลายฝนหรืออะไรก็ช่าง ที่ย่าอยากรู้ก็คือว่าสองรักผู้หญิงคนนั้นจริงหรือเปล่า แล้วเขารักสองจริงหรือเปล่า”
ธาดาถอนหายใจ เดาได้ว่าที่คุณย่าต้องมาจากอยุธยาก็คงเพราะเรื่องนี้ และคนที่ร้อนใจไม่แพ้กันก็คงเป็นมารดาบิดานั่นเอง
“ผมกับฟ้าเป็นเพื่อนกันครับคุณย่า ไม่มีอะไรในกอไผ่จริงๆ” ชายหนุ่มยืนยันเสียงหนักแน่น
“แล้วผู้หญิงล่ะ ทางโน้นเป็นเพื่อนกับสองด้วยหรือเปล่าลูก” หญิงชราสบตาหลานชาย
“ผมคิดกับฟ้าแค่เพื่อน แต่เขาจะคิดยังไงผมไม่รู้”
สำหรับธาดาคำว่าเพื่อนมีความหมาย เมื่อตนเองไม่มีภาระครอบครัวให้ต้องห่วงไม่มีใครรอคอยการอยู่การไปที่บ้าน เพื่อนคืออะไรที่ยินดีทุ่มเทเวลาให้หรือพร้อมช่วยเหลือเสมอ คือคนที่ยินดีรับฟังและเป็นที่ปรึกษาให้ ในยามที่เพื่อนเดือดร้อนจะดึกดื่นลำบากแค่ไหนสำหรับเพื่อนแล้วยินดีเสมอ
ปลายฟ้าเป็นผู้หญิงที่สนิทที่สุดในฐานะของคำว่าเพื่อน ในสายตาของธาดาแล้วเธอคือผู้หญิงที่สดใส ความสวยความช่างพูดช่างเอาใจทำให้ใครหลายๆ คนมีความสดชื่นในยามอยู่ใกล้
แต่เขากลับไม่คิดว่าปลายฟ้าจะอยู่กับตัวเองไปได้ตลอดชีวิต ธาดาชอบความเงียบสงบ ชอบหนังสืออยู่กับคอมพิวเตอร์คนเดียวได้เป็นวันๆ ได้โดยไม่รู้สึกเหงา แต่ปลายฟ้าชอบสนุกชอบสังสรรค์ชอบเจอคน ทั้งคู่เหมาะจะเป็นเพื่อนมากกว่าคนรัก ข้อนี้รู้ตัวเองดีจึงไม่เคยแสดงออกหรือทำอะไรให้เกินไปกว่าคำว่า เพื่อน
“สองไม่คิดจะรักใครชอบใครบ้างเหรอ อายุอานามก็ไม่ใช่น้อยแล้ว” คุณย่าหยั่งเชิงถาม
“ชีวิตผมรักผู้หญิงสองคนก็พอแล้วนี่ครับ รักแม่กับคุณย่าก็พอแล้ว ในโลกนี้คงไม่มีผู้หญิงคนอื่นที่ดีเหมือนคุณย่ากับแม่หรอกครับ” ธาดายิ้ม
“สองของย่าเป็นคนดีมีงานมีการทำมั่นคง บ้านช่องฐานะเราก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร ผู้หญิงดีๆ มันต้องมีล่ะลูก”
“ผู้หญิงดีๆ คงสูญพันธ์ไปจากโลกใบนี้แล้วมั้งครับคุณย่า ผมชไม่เห็นว่าจะมีใครที่จะดีได้เท่าแม่หรือเหมือนคุณย่าสักคน” ธาดาคิดเช่นนั้นจริงๆ เขาไม่คิดว่าในโลกนี้จะมีผู้หญิงที่รักเดียวใจเดียว และมั่นคงเพื่อผู้ชายสักคนอีกต่อไปแล้ว
สำหรับความรักแล้ว ไม่รู้ว่าหน้าตาของคำว่ารักเป็นอย่างไร สิ่งที่ประสบพบมาจากคนรอบข้าง บ้างก็มีความสุขบ้างก็ทุกข์เจียนจะตาย ความรักในยุคสองพันนี้เปลี่ยนง่ายยิ่งกว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียอีก ทำให้ศรัทธาที่จะเชื่อว่ารักแท้มีจริงคงจะดูยากเกินไป ธาดาขอเลือกรักผู้หญิงที่สำคัญที่สุดในชีวิตเพียงสองคนดีกว่า เพื่อว่าจะไม่ต้องเจอกับชะตากรรมคนผิดหวังเหมือนที่เคยเห็นมานักต่อนักแล้ว
“ถ้าย่าหาคนดีๆ มาให้สองรู้จักล่ะ สองจะว่าไง” หญิงชราเอ่ยถามความเห็นของหลานชายตัวดี
“ถ้าคุณย่าการันตีว่าดีจริง งั้นผมแต่งเลยดีไหม แต่ต้องดีจริงเอาแบบความรู้เท่าผมปริญญาโทสักใบ ไม่เคยมีแฟนมาก่อนรักผมคนเดียวมีเวลาให้ตลอด ที่สำคัญต้องไม่บ้าเงินหรือบ้าวัตถุ รับในสิ่งที่ผมเป็นได้ถ้ามีแบบนี้แต่งเลยครับคุณย่า” คนไม่เคยรู้จักความรักพูดไปหัวเราะไป ในโลกนี้จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่เป็นแบบนี้
ธาดาไม่คิดว่าสิ่งที่พูดไปพล่อยๆ จะมาเป็นเรื่องถกเถียงของทุกคนในบ้าน
“เจ้าสองมันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เลย มีอย่างที่ไหนผู้หญิงที่มันกำหนดมาต้องเป็นแบบนั้น ใครเขาจะยอมมัน” คุณธนาพูดด้วยความโมโห
สิ่งที่พูดมาทำไมคุณธนาจะไม่รู้ว่าคือตัวตนของธาดา ลูกชายคนเล็กเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว ไม่ชอบพบปะพูดคุยกับคนและไม่ชอบความวุ่นวายของสังคมเมืองและที่สำคัญไม่ใช่คนเจ้าชู้
‘เขาทนไม่ได้เวลาผมอ่านหนังสือเงียบๆ’ หรือไม่ก็
‘อยากไปเดินห้างแต่ผมไม่ตามใจก็เลยงอน’
ลูกชายของเขาเป็นคนรักเดียวใจเดียวคบใครก็คบทีละคน แต่แม่สาวๆ พวกนั้นมักทนความเฉยชาหรือทนความธรรมดาของธาดาไม่ได้ ต่างก็พากันโบกมือลาไปเองในที่สุด ทว่าคุณธนากลับไม่เคยเห็นพ่อตัวดีจะเสียใจเพราะสาวๆ เหล่านั้นแม้แต่สักครั้ง
เว้นแต่ครั้งสุดท้ายเมื่อปีก่อนที่มีที่ท่าว่าจะทำให้ธาดายอมออกมาเจอโลกกับคนอื่นเขาบ้าง เมื่อชายหนุ่มได้รู้จักกับปลายฟ้าไกด์สาวที่ทำให้ความมีโลกส่วนตัวของชายหนุ่มหายไป ธาดาเริ่มไปเที่ยวบ้างแต่ก็ไม่พ้นป่าเขาลำเนาไพรตามที่ชอบ หรือยอมออกไปเดินห้างบ้างแต่ก็มีข้อแม้ว่าซื้อของแล้วรีบกลับ แต่...
จู่ๆ ปลายฟ้าก็ฟาดสายฟ้าใส่ธาดาอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อหญิงสาวมาบอกลาเขาไปแต่งงานด้วยเหตุผลที่สุดจะรับได้
‘ฟ้าว่าเราสองคนไม่เหมาะสมกัน ฟ้าอายุมากกว่าสองหลายปี คุณพ่อคุณแม่ของสองคงจะรับไม่ได้ถ้าจะมีลูกสะใภ้อายุมากกว่าลูกชายท่าน อีกอย่างนะฟ้าเบื่อกับความเงียบในชีวิตของสอง ฟ้าคงทนไม่ได้แน่ถ้าวันๆ ต้องนั่งรอสองอ่านหนังสือเสร็จแล้วถึงจะได้ไปเดินห้างแล้วก็รีบกลับบ้านมาอยู่เงียบๆ เหมือนเดิม’
นั่นแหละ ทุกคนถึงได้เห็นว่าความเสียใจของธาดาเป็นอย่างไร เขาไม่หลับไม่นอนถึงสามวันสามคืน นั่งอ่านหนังสือเล่นกีต้าร์ตัวโปรดอยู่ที่เดิมมุมเดิม ไม่พูดกับใครตลอดสามวันจนบิดาทนไม่ได้ต้องเข้าไปคุยกับลูกชายและปลอบใจ ในที่สุดชายหนุ่มถึงยอมปล่อยหนังสือและกีต้าร์ล้มตัวลงนอนในที่สุด
“นายสองคงยังไม่เลิกรักหนูปลายฟ้ามั้งคะ พอกลับมาง้อลูกถึงได้ใจอ่อนง่ายๆ” คุณวีณาออกความเห็น เรื่องของหัวใจเข้าใจยากที่สุด
“แต่ตาสองบอกแม่ว่า เป็นเพื่อนกับหนูปลายฟ้านะ”
“เพื่อนอะไรครับคุณแม่ ให้ไปรับจากสนามบินตีสามก็ไป นี่ยังอยู่ที่บ้านเขาจนเช้าแล้วถึงกลับมานอนอีก ผมว่าเจ้าสองคงต้องอะไรสักอย่างกับผู้หญิงแน่”
