บทที่ 1 ชิงชัง (3)
“อาให้คิดและตอบใหม่อีกครั้ง ผิงจันทร์...”
เพราะเขาเรียกชื่อจริงของเธอนี่แหละ ที่ทำให้ผิงจันทร์รู้ว่าเขาจริงจัง แต่เธอก็ไม่คิดที่จะยอมหรอก
เป็นไงเป็นกันสิ!!
“ผิงไม่กลับ ไม่กลับ ไม่กลับ ไม่กลับ ได้ยินหรือยัง!”
ผิงจันทร์ตะโกนใส่หน้าเขา เพื่อทำให้เขารู้ว่าเธอไม่พอใจ!
แต่แทนที่เขาจะโกรธ เขากลับยิ้มเย็น... ยิ้มอย่างมีเลศนัยดูเจ้าเล่ห์
“งั้นก็ช่วยไม่ได้”
สิ้นคำเขาก็อุ้มเธอขึ้นบ่าแล้วเดินอ้อมรถไปเปิดประตูโดยไม่สนใจเจ้าของร่างบางที่พยศเขาด้วยการดิ้นขลุกขลักและข่วนเขา พอยัดหลานสาวจอมพยศใส่รถแล้ว ธันวาก็กำชับเสียงเย็น
“พยศเหลือเกินนะ”
“ก็อามายุ่งกับผิงทำไม!” ผิงจันทร์ตวาดแว๊ด มองอีกฝ่ายด้วยสายตาลุกวาว
“อยากลองของล่ะสิ” น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไป แน่นอนว่าผิงจันทร์จับความรู้สึกเขาได้ น้ำเสียงของเขาเหมือนคืนนั้นไม่มีผิด... และมันก็ทำให้เธอรู้สึกกลัว
“อย่าดื้อให้มากนักเลย โต ๆ กันแล้ว ถ้าไม่เชื่อฟังกันอีก ก็อย่าหาว่าอาไม่เตือนก็แล้วกัน”
“อาจะทำอะไรผิงน่ะ?!!” หญิงสาวถามอย่างตกใจ
เพราะรู้ว่าหากทำให้เขาไม่พอใจ เขาก็สามารถทำอะไรที่บ้าระห่ำเกินกว่าที่เธอจะคาดคิดได้
เขายิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาเป็นประกายระยับ
“ก็ทำเหมือนคืนนั้นไง ไม่รู้ว่าเรายังจำได้หรือเปล่า...”
ผิงจันทร์กัดริมฝีปากแน่นใบหน้าร้อนผ่าว เธอมองเขาด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ เพราะเธอเข้าใจดีว่าเขาหมายถึงเรื่องอะไร บ้าสิ!! เธอไม่มีวันยอมให้เรื่องบ้า ๆ แบบนั้นเกิดขึ้นกับเธออีกแน่
เธอไม่มีวันยอมให้เขาจูบเธอได้เป็นครั้งที่สองอย่างเด็ดขาด!!!
พอผิงจันทร์เงียบ เลิกพยศ ธันวาจึงปิดประตูรถแล้วเดินไปที่ฝั่งคนขับ พอเข้ามานั่งในรถเขาก็หันไปมองหลานสาวตัวแสบ ผิงจันทร์ไม่มองเขาสักนิด เธอกอดอก นั่งเชิดหน้า มองออกไปที่หน้าต่างซ้ายมือ
“เก๊กมากระวังคอเป็นตะคริวนะ”
พอหญิงสาวหันมาค้อนคมใส่ ธันวาก็หัวเราะชอบใจ จากนั้นเขาก็สตาร์ทรถแล้วขับออกไป
ใช้เวลาขับรถไม่นานรถก็เลี้ยวเข้ามาจอดในบริเวณบ้านสถิตสุขสวัสดิ์ ธันวาไม่ได้พูดอะไรนอกจากดับเครื่องยนต์แล้วเดินผิวปากลงจากรถกลับขึ้นบ้านเลย ทว่าผิงจันทร์ก็รีบลงจากรถแล้ววิ่งมาดักหน้าเขาก่อน
“มีอะไรอีก?”
หญิงสาวจ้องหน้าเขาตาเขม็งพร้อมแบมือ “ขอกุญแจรถคืนด้วยค่ะ”
ธันวาเลิกคิ้วมองพวงกุญแจในมือที่เขาหมุนเล่นแล้วไหวไหล่
“ยังคืนให้ตอนนี้ไม่ได้”
ได้ยินแบบนั้นผิงจันทร์ก็ชักสีหน้าไม่พอใจ
“อยากให้กลับบ้าน ผิงก็กลับมาแล้วไง อาจะเอายังไงกับผิงอีก?”
ธันวาไม่ตอบ แต่มองหน้าคนพูดเสียงแจ้ว ๆ
“รอให้สอบเสร็จก่อน อาถึงคืนคุณแจให้”
“ได้ไง ผิงต้องใช้รถนะ” หญิงสาวแทบเต้นที่ได้ยินเขาพูดจาเอาแต่ใจตัวเองแบบนั้น
“เดี๋ยวอาขับรถไปส่ง” เขาตอบเสียงเรียบ แต่มองตาหญิงสาวพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ
“อย่าดื้อเลย ว่าง่าย ๆ อาจะได้รักเราเยอะๆ”
คำพูดของเขาส่งผลให้แก้มของผิงจันทร์แดงขึ้นมา
แต่ผิงจันทร์ก็พูดอะไรไม่ออก นอกจากสบถหัวเสียแล้วเดินลงส้นเท้าเสียงปึงปังกลับขึ้นห้องนอนไป เธอจึงไม่เห็นรอยยิ้มและสายตาที่เต็มไปด้วยปรารถนาของเขา...
ขึ้นมาบนห้องนอน ผิงจันทร์ก็จัดการถอดกางเกงยีนส์รัดรูปออกจากตัว สะบัดกางเกงออกจากปลายเท้าแล้วเธอก็ทุ่มตัวลงที่นอน พร้อมกับชกกำปั้นใส่ตุ๊กตาหมีตัวโตเพื่อระบายความหงุดหงิด โมโหเต็มแรง
“อาธันบ้า ไอ้คนทุเรศ!”
พอระบายอารมณ์จนสาแก่ใจและสบายใจขึ้นแล้ว ผิงจันทร์ก็ถอนหายใจออกมายาว กระนั้นความขุ่นใจก็ยังไม่หายไปหมดซะเลยทีเดียว ที่เป็นแบบนี้เป็นเพราะเขาคนเดียวเท่านั้น!
ตั้งแต่เล็กจนโตแม่มักจะกรอกหูเธอเป็นประจำ แม่จะบอกให้เธอไม่รักธันวา เพียงเพราะเขาไม่ใช่ญาติที่เกี่ยวพันทางสายเลือดกับเธอ
เขาเป็นคนนอกที่เข้ามาแย่งความรักจากคุณย่าไปจากคุณพ่อ แม่มักย้ำเสมอว่าธันวาเป็นลูกเลี้ยงของคุณย่า และเขาจะมาแย่งสมบัติของคุณพ่อ
