บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ชิงชัง (2)

แต่ที่น่าโมโหมากไปกว่า คือเขาขับรถของเธอมาเยาะเย้ยถึงหอพัก!!!

ให้ตายเถอะ! เขาช่างกวนประสาทยั่วยุให้ไมเกรนเธอขึ้นดีเหลือเกิน

“เฮ้ย นั่นรถของแกนี่ยัยผิง” เพื่อนสาวในกลุ่มที่กลับแท็กซี่ด้วยกันเอ่ยขึ้นพร้อมชี้ชวนให้ดู

“เออเห็นแล้ว ฉันไม่ได้ความจำเสื่อมที่จำรถตัวเองไม่ได้ พวกแกขึ้นไปก่อน ขอฉันเคลียร์กับคนที่บ้านแป๊บ เดี๋ยวตามไป”

พอผิงจันทร์ต้องการแบบนั้น เพื่อนสาวในกลุ่มทั้งหมดก็พากันกลับขั้นหอพักไป

หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกแล้วเดินมาหยุดที่รถของตนซึ่งจอดสตาร์ทเครื่องไว้ พอเดินไปถึง ธันวาก็เลื่อนกระจกรถลง แล้วเขาก็ผิวปากทักทาย

“ให้อาไปส่งบ้านมั้ย?” ไม่ถามอย่างเดียว เขายังทำหน้าทะเล้นยักคิ้วให้

“อย่ากวนประสาทได้มั้ย”

เจ้าของร่างสูงที่นั่งประจำตำแหน่งคนขับยิ้มมุมปาก “คืนนี้กลับเร็วจังนะคุณหลาน”

ผิงจันทร์ค้อนคมใส่คุณอานอกสายเลือดที่ขยันเซ้าซี้กวนใจเธอไม่หยุดหย่อน

“อามายุ่งอะไรด้วย นี่ถ้าขับรถกลับบ้านไปซะแต่แรก ยังไม่โกรธเท่ากับขับมาเย้ยให้เห็นเลยนะ” หญิงสาวพยายามข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ แต่น้ำเสียงที่พูดกับเขาก็ยังเผยความไม่พอใจออกมาชัดเจน

เธอรู้จักเขาดี ยิ่งเธอโกรธ ไม่พอใจ ก็ยิ่งทำให้เขาได้ใจ และเขาก็จะพยายามยั่วโมโหให้เธอโกรธเข้าไปอีก ดังนั้นตอนเผชิญหน้ากับเขา เธอต้องนิ่งให้มากที่สุด แม้ตอนนี้เธออยากจะอาละวาดข่วนหน้าหล่อ ๆ ของเขาก็ตาม!

ธันวายิ้มมุมปาก มองหญิงสาวตาพราว

“ก็ตั้งใจมาเย้ย”

“บ้าเปล่าเนี่ย” ผิงจันทร์ทำหน้ายุ่ง แต่ธันวาก็ไม่สนใจ เขายังมีท่าทีสบาย ๆ

“จะกลับบ้านยังล่ะ?”

“ไม่กลับ มายุ่งอะไรด้วยล่ะ” หญิงสาวกระแทกเสียงพร้อมเชิดหน้าขึ้น

“โกรธอาเหรอ?”

“ไม่โกรธมั้ง ถ้าอยากได้รถก็เอาไปเลย เชอะ!”

เจ้าของร่างบางเชิดหน้าขึ้นแล้วสะบัดก้นเดินหนีด้วยตั้งใจกลับขึ้นหอพักเพื่อยุติเรื่องบ้า ๆ แต่ธันวาก็ลงจากรถแล้วเดินมาดักหน้าเธอไว้ก่อน

“จะไปไหน?” เขาถามเสียงเย็น พลางต้อนผิงจันทร์จนเธอถอยหลังมาชิดรถ

“เอ๊ะ อาธันจะมายุ่งอะไรกับผิงนักหนา ผิงโตแล้ว ดูแลตัวเองได้”

“ก็เพราะคิดว่าตัวเองโตแล้วนี่สิ ถึงน่าห่วง”

“เราไม่ได้เกี่ยวอะไรกัน ญาติก็ไม่ใช่ญาติ จะมาห่วงผิงเรื่องอะไร?” หญิงสาวถามเสียงขุ่น

“ก็บอกไปแล้วไง ว่าคุณแม่วานให้อาช่วยเป็นหูเป็นตา ดูแลเรา อาเลยต้องมา”

“ยุ่งไม่เข้าเรื่อง” ผิงจันทร์ทำหน้ามุ่ยไม่พอใจ

ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุขึ้นในบ้าน นับแต่นั้นเป็นต้นมาเธอก็เริ่มไม่ชอบขี้หน้าเขา จากที่รักก็แปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชัง และมันก็ทำให้เธอนึกถึงคำพูดแม่ทุกครั้งไป

ก็ไม่รู้ว่าพวกผู้ใหญ่มีเรื่องผิดใจอะไรถึงไม่ค่อยลงรอยกัน เธอรู้แค่ว่าแม่ของเธอจงเกลียดจงชังธันวานัก ถึงขนาดที่ว่าแม่มักจะกรอกหูเธออยู่เป็นประจำ ในเรื่องที่ว่าเขาเป็นลูกเลี้ยงของคุณย่า เขาชอบประจบคุณย่าเพราะหวังในมรดกที่คุณปู่ทิ้งไว้

ตอนนั้นเธอไม่ค่อยใส่ใจคำพูดของแม่มากนัก เพราะเธอคิดว่าเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อีกอย่างพ่อของเธอก็รักน้องชายนอกไส้อย่างเขามาก รักยิ่งกว่าป้าอำภาซึ่งเป็นพี่สาวแท้ ๆ

แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุใหญ่ขึ้นในครอบครัว เธอสูญเสียทั้งพ่อและแม่ไป อีกทั้งป้าอำภาพี่สาวแท้ ๆ ของพ่อต้องกลายมาเป็นคนพิการ ความจำเสื่อม เธอจึงพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า

เธอเกลียดขี้หน้าเขา!!

“จะกลับหรือยังล่ะ?”

ดูว่าธันวาจะไม่สนใจปฏิกิริยาต่อต้านของหญิงสาวแม้แต่น้อย

“ไม่กลับ เอากุญแจรถของผิงคืนมาด้วย”

ผิงจันทร์ผลักหน้าอกของเขาให้ห่างออกไป แต่กลายเป็นว่าธันวาได้ตรึงข้อมือเธอไว้กับรถยนต์

“อาธัน ทำบ้าอะไรน่ะ!”

หญิงสาวหน้าตาตื่นกับการกระทำของเขา ดวงตาคู่สวยเบิ่งกว้าง ริมฝีปากบางที่เคลือบลิปสติกสีหวานเผยอขึ้นเล็กน้อยด้วยความตกใจ

“จะกลับดี ๆ หรือต้องให้บังคับ?”

เขายื่นหน้ามาใกล้... ใกล้จนจมูกโด่งแทบชิดแก้ม

ผิงจันทร์กัดริมฝีปากแน่นพร้อมดิ้นขลุกขลัก แต่เขาก็ไม่ปล่อยเธอเป็นอิสระง่าย ๆ

“ผิงไม่กลับ ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมายุ่ง!” ปฏิเสธเสียงสั่นไปแล้ว แต่หญิงสาวกลับหายใจไม่ทั่วท้อง กลิ่นกายผู้ชายที่ผสมน้ำหอมของเขามันสร้างความรู้สึกแปลก ๆ ให้กับเธอ

“ดื้อจริง” ธันวาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกแล้วผ่อนออกมา

เขาเอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม แต่สายตายังไม่ละไปจากใบหน้าเซ็กซี่ของหลานสาวตัวดี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel