บทที่ 22
รุ่งเช้าอีกวันหนึ่ง ขณะที่กอหญ้ากำลังรับประทานข้าวเช้ากับคุณหญิงมณีจันทร์ โดยมีนมอิ่ม ยืนอยู่ด้านข้าง เสียงฝีเท้าของคนกลุ่มหนึ่งทำให้กอหญ้า หันไปมอง
“ เอ้า มากันแล้วรึ ขอโทษทีที่ให้ เด็กไปเชิญมาแต่เช้า มา มา แม่กำลังทานข้าวต้ม
มาทานด้วยกัน เอ้า มาครบกันไหมนั่น “
“ ขาดตากริชครับ กำลังให้คนไปตาม คงตามมาเร็วๆนี้แหละค่ะ “
ตรีรินทร์กล่าว ก่อนนั่งข้างๆ กอหญ้า
“ แม่มีเรื่องสำคัญจะบอก แล้วอยากปรึกษา ขอโทษที่กระทันหันเพราะเดี๋ยวแม่ต้องไปธุระ กับแม่แก้วที่พม่าสักสองสามวัน ก่อนจะไปถือศีล ที่เชียงรายสักพัก หลวงพ่อท่านชวนหลายรอบแล้ว แม่ก็เลยมีความคิดจะซ่อมเรือนหลังเล็ก หลังคามันเก่ามากแล้ว ว่าจะซ่อม จะซ่อมตั้งนาน วันก่อนเดินในสวนก็เลยปรึกษากับเจ้ากริช มันก็แนะนำให้รื้อของเก่าทิ้งหมด แล้วเปลี่ยนหลังคาใหม่ เจ้ากริชอาสาจะหาบริษัทมาทำให้ แม่ก็เห็นว่าดี แต่ติดที่
แม่ห่วง ยัยกอหญ้าสิ ถ้าซ่อมแซมแล้วจะไปนอนที่ไหน “
ตรีรินทร์หันมาลูบหลัง ลูกสาวบุญธรรมที่เธอรักเหมือนลูกแท้ๆ “ ก็ไปนอนตึกใหญ่สิคะ ห้องเยอะแยะ”
กอหญ้าซึ่งกำลังตักข้าวต้มเข้าปาก ถึงกับ สำลักข้าวต้ม
“ โอ๊ย ดีใจจังเลยค่ะ คุณย่า มานอนกับเรา สิ จะได้นึกถึงสมัยเป็นเด็ก “ ต้นน้ำพูดเสียงใส
กอหญ้ามองคนโน้น คนนี้ ใจเต้นแรง นึกถึงความยุ่งยากที่กำลังจะตามมา
“ ไม่เป็นไรค่ะ ระหว่างซ่อมหลังคา ญ่าว่าจะขออนุญาติไปนอนคอนโด ยัยพัชจะสะดวกกว่า” หญิงสาวเอ่ยขออนุญาติ
“ ไม่ได้ “ เสียงเข้ม ดังมาทางด้านหลัง ทำให้ทุกคนในห้องเงียบกริบ
กริชชัยพูดเสียงดัง แววตาคมเข้ม จ้องที่กอหญ้าเขม็ง
“ ใครจะคิดยังไง ที่เธอออกไปอยู่ข้างนอก”
“ นั่นสิ กอหญ้า ตึกใหญ่ห้องเยอะแยะ ขึ้นไปอยู่กับป้า “ ตรีรินทร์ลูบไหล่เบาๆ
“ นอนห้องเราก็ได้ จะนอนคุยกันเหมือนสมัยเด็กๆ “
“ ห้องยัยน้ำ ไม่ได้แน่ กอหญ้ารำคาญแน่ๆ ยัยน้ำกรนเสียงดัง อีกอย่าง ช่วงนี้แกขึ้นเวรบ่อย มันจะรบกวนยัยญ่า” เสียงต้นตาล แทรก
“ ญ่าไปนอน กับพี่หวานก็ได้ค่ะ อย่ายุ่งยากเลย”
“ ไม่ได้ ไม่ได้ ตึกใหญ่ห้องเยอะแยะ แต่เอ ถ้าเป็นส่วนตัว แล้วให้ยัยญ่ามีสมาธิอ่านหนังสือ เพราะช่วงนี้ใกล้สอบ ก็นั่นไง รินทร์ ที่คุณทำให้ตอนเด็กๆ “
ตรีรินทร์คิดตาม เธอจัดให้เด็กๆ เป็นโซนๆ ต้นน้ำ ต้นตาล ชั้นสอง คนละปีก
กริชชัยและกอหญ้า อีกคนละปีกตึก แต่เมื่อเด็กๆ กริชชัยอาละวาดไม่ให้ใครขึ้นไปยุ่งทำให้ตรีรินทร์ตามใจบุตรชายเพียงคนเดียว
ตรีรินทร์เงยหน้ามอง กริชชัย แต่เลือกที่จะเงียบ ธมกานต์มองบุตรชายเพียงคนเดียวนิ่ง
“ ให้เขาไปอยู่ ปีกขวา ผมอยู่ปีกซ้าย อย่างที่แม่เคยตั้งใจไว้”
ตรีรินทร์มองบุตรชายอย่างผิดความคาดหมาย แววตาตื่นเต้น “ จริงเหรอกริช ตกลง
กริชโอเคนะลูก “
“ ครับ ผมไม่มีปัญหา” กริชชัยจ้องกอหญ้านิ่ง หญิงสาวขยับตัวอึดอัด
“แผนอีตานี่แน่ๆ “ กอหญ้าคิดในใจอย่างหวาดหวั่น
“ เอาอย่างงั้นแหละ เรื่องเก่าก็ทิ้งกันไป เริ่มต้นใหม่ ย่าจะได้ไปปฏิบัติธรรมอย่างหมดห่วง “ คุณหญิงมณีจันทร์กล่าวตัดบทสนทนา
“ ญ่า ไม่สะดวกใจ คือ ญ่าอยากไปพักกับ ยัยพัชมากกว่าค่ะ นะคะ ป้ารินทร์
นะคะ คุณย่า นี่ก็ใกล้สอบแล้ว ยัยพัชคงติวให้รินทร์ได้”
“ ก็ให้ยัยพัชมานอนกับเราที่นี่สิ “ ตรีรินทร์เอ่ย
กอหญ้าขยัยเข้าไปกอดแขนตรีรินทร์ ก่อนซบที่ไหล่อย่างออดอ้อน “ นะคะป้ารินทร์
ให้ญ่าไปอยู่กับยัยพัชนะคะ “
ตรีรินทร์มองหญิงสาว ในใจเกิดความลังเล กริชชัย เดินเข้ามาคว้าแขนกอหญ้า
หญิงสาวตกตะลึง
“ขอโทษครับแม่ ผมมีเรื่องคุยกับกอหญ้า สองต่อสอง “ กริชชัยลากแขน
กอหญ้าทำหน้าตื่น เพราะไม่คิดว่า ชายหนุ่มจะกล้าบ้าบิ่นขนาดนี้ ท่ามกลางสายตาของคนในครอบครัวทุกคน
กริชชัยผลักหญิงสาว ชิดกับกำแพงขาว ชายหนุ่มกัดฟันพูด “ คิดว่าทำวิธีนี้แล้วจะหนีฉันพ้นหรือไง เธอต้องขึ้นไปอยู่ ชั้นเดียวกับฉัน ที่ฉันให้เธอไป ไม่ใช่พิศวาสเธอ ฉันแค่
ไม่อยากให้แม่คิดมาก เข้าใจไหม”
“ไม่ ฉันไม่ไป “ กอหญ้าสะบัดเสียงพูด นัยนตาดื้อดึง
“ เธอต้องไป ไม่ไปมีเรื่องแน่ๆ “
“ นี่คุณกริชชัย เลิกยุ่ง เลิกวุ่นวายกับฉันทีได้ไหม คุณทำลายชีวิตฉันไม่พอหรือไง”
“ ยัง เธอต้องชดใช้ให้ฉัน ที่ทำให้ฉันต้องจากบ้านนี้ไปสิบปี จำไม่ได้หรือกอหญ้า
หรือต้องให้ทบทวนบ่อย ๆ เธอต้องย้ายขึ้นไป ถ้าไม่ไปฉันจะไปบอกแม่ว่าเราเป็นอะไรกัน
คิดดูว่า แม่ พ่อ หรือแม้แต่คุณย่าจะคิดยังไง” กริชชัยกระซิบที่ข้างๆ หู
“ นี่ คุณนี่มันชั่วร้ายจริงๆ “
“ รู้ก็ดีแล้ว เข้าไปแล้วบอกว่า เธอจะย้ายขึ้นไปอยู่ชั้นเดียวกับชั้น พูดดีๆ ด้วย
อย่าให้ทุกคนผิดสังเกต “ กริชชัยขู่ เสียงเบา
กอหญ้าหลับตา ก่อนจะสะบัดตัว ก้าวเดินเข้าไปในบ้าน ขาสั่นเล็กน้อย ด้วยอารมณ์ที่อัดแน่น ในใจ
“ อ้าว มาโน้นแล้ว ว่าไงยัยญ่า จะเอาไง ย่าจะได้ไปธุระต่อ” คุณหญิงมณีจันทร์เร่งเร้า
“ ค่ะ คุณย่า ญ่าจะขึ้นไปอยู่บนตึกค่ะ แต่ว่านานแค่ไหนค่ะ เปลี่ยนหลังคาเนี่ย”
“ ประมาณหนึ่งเดือน “ ธมกานต์ตอบ เสียงขรึม
กอหญ้าถอนหายใจ ด้วยหัวใจว้าวุ่น กริชชัย จ้องมองหญิงสาว เขม็ง ชายหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดเมื่อเห็นปฏิกริยาที่แสดงท่าทาง รังเกียจและหวาดกลัวของหญิงสาว ดังนั้น
ชายหนุ่มจึงรวบรัดตัดความทั้งๆ ที่ความตั้งใจแรก แค่อยากให้หญิงสาวไปอยู่ใกล้ๆ
ตอนแรกตั้งใจจะอ้อนวอนหญิงสาวดีๆ แต่เมื่อหญิงสาวทำท่าทางแสดงความรังเกียจ
ชายหนุ่มเลยต้องบีบบังคับทั้งๆ ที่ ไม่มีอยู่ในความคิดมาตั้งแต่ต้น
