บทที่ 19
ห้องสรรพสินค้า เซ็นทรัล ภายในห้องแต่งตัวที่คราคล่ำไปด้วย นางแบบหลายสิบชีวิต
ดีไซเนอร์ ช่างแต่งหน้าทำผม คนคุมคิว เสียงตะโกนโหวกเวก คนวิ่งตัดกันไปมา
“ เอา เร่งมือกันหน่อย เวลางวดเข้ามาแล้ว “ เจ๊ตุ๊ดตู่ จีบปากสั่ง
เอลี่ กำลังแต่งหน้าให้เพื่อนรัก อย่างบรรจงให้สวยงาม
“ เดี๋ยวเสร็จจากงานนี้ฉันต้องไปเจอกับสุดที่เลิฟของฉัน”
“อ้าว ไหนแกว่าจะไปตีห้า “
“ เขาให้เลขามาเลื่อน บอกว่าต้องไปสิงคโปร์กระทันหัน ให้ฉันไปพบเย็นนี้
เขาจะเลี้ยงข้าวฉัน กริ๊ด แก ฉันจะได้กินข้าวกับที่รักของฉัน”กระเทยสาวพูดนัยน์ตาเพ้อฝัน
กอหญ้าส่ายหน้าอย่างระอาเพื่อนสาวก่อนพูดปนขำ
“ ตกลงเขาเป็น ที่รักของแกตอนไหน เขายอมรับแกแล้วเหรอ เอลี่”
“ ไม่รู้ล่ะ ฉันสมมุติเอาเองอ่ะ “ เอลี่หัวเราะก่อนจะมองไปทาง ประตู
“ มาแล้วเหรอค่ะน้องลิลลี่ “ เจ๊ตุ๊ดตู่ ปรี่เข้าไปหา นางแบบกิติมศักดิ์ ลูกสาวนายตำรวจใหญ่และคุณหญิง พวงแข
เจ๊ตุ๊ดตู่ อึดอัดเมื่อได้รับการขอร้องจากเจ้าของงานว่าจะเอาลูกสาวของเพื่อนมาร่วมเดินแบบ
“ถือว่าผมขอร้องนะ คุณตุ๊ดตู่ ผมขัดเพื่อนไม่ได้ “
“ แหม จริงๆ ตู่ไม่ชอบเลยนะคะ ระบบเด็กเส้นเนี่ย แล้วน้องเขามีประสบการณ์การเดินแบบหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“ เขาเคยไปเดินการกุศลสองสามงาน”
“ งั้นก็ดีค่ะ มีพื้นฐานก็ยังดี”
เจ๊ตุ๊ดตู่ ปรบมือ “ เอาเด็ก ๆ รู้จักไว้นะ นี่น้องใหม่ คุณลิลลี่ จะมาร่วมเดินแบบกับพวกเรางานนี้”
ทุกคนในห้องหันไปมอง ลิลลี่ เชิดหน้ากอดอก ก่อนหรี่ตามอง นางแบบภายในห้อง
ด้วยอาการหยิ่งยะโส
“นี่คุณตุ๊ดตู่ คงจะไม่ให้ลิลลี่ใช้ห้องรวมหรอกนะคะ ลิลลี่ต้องการห้องพิเศษค่ะ
ขอใช้คนเดียวนะคะ “
“ คงไม่ได้หรอกค่ะ คุณลิลลี่ เราไม่มีงบพิเศษค่ะ “
“ไม่เป็นไร ลิลลี่จ่ายเอง “
เจ๊ตู๊ดตู่ อึ้งก่อนพยักหน้าอย่างเสียมิได้
ภายในงาน กริชชัย ยืนอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่เรียนจบจากอเมริกาพร้อมๆกัน สิทธิโชคและณัฐพงค์ ชายหนุ่มมีสีหน้าเบื่อหน่าย
“เห้ย กริช ปกติแกไม่ชอบงานแบบนี้นี่นา ชวนพวกข้ามาทำไม”
“พ่อสั่ง ยืนเป็นเพื่อนกันสักครู่นะ สักครึ่งช.มแล้วเราค่อยหนีกลับ”
“เห้ย นางแบบสวยๆทั้งนั้น ข้าชอบคนนั้นหว่ะ กำลังเดินมาเชียว”
กริชชัยหันไปมองแล้ว เดินสืบเท้าไปด้านหน้าเหมือนละเมอ แววตาดุดัน ริมฝีปากเม้มสนิทเมื่อมองเห็นหญิงสาวที่ทำให้วุ่นวายมาหลายวัน กำลัง เกาะกอดกับนายแบบโพสท่า โดยหญิงสาวไปยืนอิงที่แผงอก โดยนายแบบก็โอบกอดแนบสนิท
ชายหนุ่มกำหมัดแน่น แววตาดุดัน
“น้องคนนั้นสวยหยาดเยิ้ม จนข้าเข่าจะทรุดเลยหว่ะ”
“คนไหนไอ้ณัฐ จะได้รู้ว่าคนเดียวกันไหม “
“ คนเสื้อขาวนั่นไง”
“ว่าไงไอ้กริช แกชอบคนไหน”
“แพศยา ทำไมต้องแอ่นขนาดนั้น แล้วดูสิทำไมต้องกอดซะแน่นขนาดนั้น “
กริชชัยหึงจนหน้ามืดขณะกัดฟันพูด
“เห้ย ไอ้กริช ดูน้องเสื้อดำนั่นสิหว่ะ นั่นยัยลิลลี่ กิ๊กเก่าแกที่ อังกฤษหรือเปล่า ใช่มะ
ใช่สิ ฉันจำน้องเขาได้เพราะเขาชอบฟรีเซ็นต์ตัวเองว่า พ่อกูเนี่ยใหญ่ “เสียงหัวเราะของเพื่อนรักสองหนุ่มทำให้ กริชชัยคลายอารมณ์หงุดหงิดไปบ้าง
“เห้ย แฟนเก่าแกนี่หว่ากริช ไปยืนให้กำลังใจน้องเขาหน่อยไหม”
“ไม่ใช่แฟนข้า” กริชชัยสวนทันควัน
“ข้าจำได้ แกไปออกเดทกับยัยนี่ด้วยนี่ “ ณัฐพงค์ดีดนิ้ว
“ ไปออกเดทไม่ได้หมายถึงว่าเราต้องเป็นแฟนกัน ไอ้บ๊อง”
“ ข้าเห็นพวกแกจูบกันด้วย”
“ ก็แค่จูบเดียว”กริชชัย เขยิบไปยืนด้านหน้า กอดอกและจ้องมองไปที่ กอหญ้าเสมือนจะให้หญิงสาวมองเห็นได้ถนัด
กอหญ้า ยืนโพสท่า กวาดสายตาไปด้านหน้า หญิงสาวชะงักเมื่อสะดุดที่ชายหนุ่มรูปหล่อ ที่ยืนกอดอก สายตาดุดัน หญิงสาวชะงักก่อนจะเมินสายตา ไปที่จุดอื่น เสมือนกริชชัยคืออากาศธาตุ
หญิงสาวพยายามไม่ประสานสายตากับชายหนุ่ม ในขณะที่กริชชัยจ้องร่างหญิงสาวเขม็ง ชายหนุ่มกัดกรามอย่างพยายามระงับอารมณ์พลุ่งพล่าน
“พี่ญ่า พี่ญ่าขา “
“ว่าไง จอย มีอะไร”
“มีคนฝากโน๊ตมาค่ะพี่ บอกให้หนูให้กับมือพี่”
กอหญ้ารับกระดาษสีขาวมาแบบ งง ๆ ก่อนคลี่ออกแล้วใบหน้าที่เปื้อนยิ้มก็เปลี่ยนไป
ฉันมารับกลับบ้าน รอชั้นเก้า ถ้าไม่เชื่อฟังจะเห็นดีกัน กริชชัย
กอหญ้าขยำกระดาษทิ้ง ก่อนคิดในใจ เรื่องอะไรฉันต้องเชื่อคุณ เป็นพ่อก็ไม่ใช่ อยากรอก็รอไป
